EUR/CHF: โอกาสและความท้าทายในตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยนโยบายและการวิเคราะห์ทางเทคนิค 2025

สารบัญ

EUR/CHF: โอกาสและความท้าทายในตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยนโยบายและการวิเคราะห์ทางเทคนิค

ในโลกของการลงทุนที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คู่สกุลเงิน EUR/CHF (ยูโร/ฟรังก์สวิส) ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นักลงทุนต่างจับตาอย่างใกล้ชิด ด้วยคุณลักษณะเฉพาะตัวที่ตอบสนองต่อปัจจัยมหภาคและนโยบายการเงินของธนาคารกลางได้อย่างชัดเจน ในฐานะผู้ใฝ่รู้ด้านการลงทุน คุณอาจกำลังมองหาโอกาสและวิธีการทำความเข้าใจกลไกของตลาด Forex ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น บทความนี้จะนำพาคุณดำดิ่งสู่โลกของ EUR/CHF ตั้งแต่ลักษณะเฉพาะ ไปจนถึงการวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ และการประยุกต์ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

เราเชื่อว่าการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้คือกุญแจสู่ความสำเร็จในตลาดการเงิน และเราพร้อมที่จะเป็นไกด์นำทางให้คุณก้าวผ่านความซับซ้อนเหล่านี้ไปพร้อมกัน คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะปลดล็อกศักยภาพในการลงทุนของคุณ?

  • คู่สกุลเงิน EUR/CHF มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ USD/CHF
  • EUR/CHF เป็นคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนต่ำ เพื่อการลงทุนที่มั่นคง
  • มีเครื่องมือทางเทคนิคหลากหลายซึ่งช่วยในการวิเคราะห์ตัวตนของคู่สกุลเงินนี้
สกุลเงิน รหัส ประเภท
ยูโร EUR หลัก
ฟรังก์สวิส CHF ปลอดภัย

ลักษณะเฉพาะและบทบาทของคู่สกุลเงิน EUR/CHF ในตลาด Forex

ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่การวิเคราะห์เชิงลึก เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของ EUR/CHF กันก่อน คู่สกุลเงินนี้เป็นการจับคู่กันระหว่างสกุลเงินยูโร (EUR) ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของกลุ่มประเทศยุโรปที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ และสกุลเงินฟรังก์สวิส (CHF) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสกุลเงินปลอดภัย (safe-haven currency) เนื่องจากความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ คุณอาจสงสัยว่าการรวมกันของสองสกุลเงินนี้มีนัยสำคัญอย่างไร?

EUR/CHF ถูกจัดว่าเป็น คู่สกุลเงินที่เคลื่อนไหวตามแนวโน้มได้ดี (trend-following pair) ซึ่งหมายความว่าเมื่อใดก็ตามที่คู่สกุลเงินนี้เริ่มมีทิศทางที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง แนวโน้มนั้นมักจะดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายแบบ Swing Trading ซึ่งเป็นการจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลางถึงยาว ต่างจากการซื้อขายแบบ Scalping ที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนเพียงเล็กน้อยในระยะสั้น ด้วยเหตุนี้ คุณจะไม่ค่อยเห็น Scalpers ให้ความสนใจกับคู่สกุลเงินนี้มากนัก เนื่องจากความผันผวนโดยรวมของ EUR/CHF ที่วัดได้อยู่ที่ประมาณ 0.42% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลักอื่นๆ ที่มีความผันผวนสูงกว่ามาก

นอกจากนี้ สิ่งที่คุณควรรู้คือ EUR/CHF มีความสัมพันธ์เชิงบวกที่สูงมากกับคู่สกุลเงิน USD/CHF หมายความว่าเมื่อ USD/CHF เคลื่อนไหวไปในทิศทางใด EUR/CHF มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน การทำความเข้าใจความสัมพันธ์นี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันช่วยให้คุณสามารถใช้ข้อมูลจากคู่สกุลเงินหนึ่งเพื่อคาดการณ์หรือยืนยันแนวโน้มของอีกคู่หนึ่งได้ ซึ่งเป็นเทคนิคที่นักลงทุนมืออาชีพนิยมใช้ในการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

กราฟแสดงการเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยน EUR/CHF

การทำความเข้าใจความผันผวนและความสัมพันธ์: EUR/CHF กับ USD/CHF

ความผันผวนเปรียบเสมือนชีพจรของตลาด หากชีพจรเต้นเร็ว ตลาดก็ผันผวนมาก หากชีพจรเต้นช้า ตลาดก็เคลื่อนไหวอย่างสงบ สำหรับ EUR/CHF อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้ว ความผันผวนอยู่ที่ระดับปานกลางค่อนไปทางต่ำที่ 0.42% ซึ่งหมายความว่าคู่สกุลเงินนี้มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพมากกว่าคู่สกุลเงินอื่น ๆ ที่มีความผันผวนสูง นั่นทำให้การซื้อขาย EUR/CHF อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบความตื่นเต้นและการทำกำไรอย่างรวดเร็วจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง แต่กลับเป็นสวรรค์ของนักลงทุนที่เน้นการวิเคราะห์แนวโน้มและอดทนรอคอยจังหวะที่เหมาะสม

แล้ว Correlation (ความสัมพันธ์) ระหว่าง EUR/CHF กับ USD/CHF มีความสำคัญอย่างไรต่อกลยุทธ์การลงทุนของคุณ? ลองจินตนาการว่าคุณกำลังมองดูดาวสองดวงที่โคจรอยู่รอบกัน เมื่อดาวดวงหนึ่งเคลื่อนที่ อีกดวงหนึ่งก็มักจะเคลื่อนที่ตามในทิศทางเดียวกัน เช่นเดียวกัน หากคุณเห็นว่า USD/CHF กำลังเคลื่อนที่ในทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน นี่อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า EUR/CHF ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ข้อมูลนี้มีค่าอย่างมากในการยืนยันแนวโน้มและลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด คุณสามารถใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ หรือแม้กระทั่งใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเข้าหรือออกจากตำแหน่งการซื้อขาย

การทำความเข้าใจมิติของความผันผวนและ Correlation นี้เป็นรากฐานสำคัญในการวางแผนการซื้อขายของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม แต่มีรูปแบบและความสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่ หากคุณสามารถมองเห็นได้ชัดเจน คุณก็จะสามารถก้าวข้ามความไม่แน่นอนและคว้าโอกาสได้

เศรษฐกิจมหภาคสหรัฐฯ: รายงานการจ้างงานและผลกระทบต่อตลาดโลก

แม้ว่าเราจะกำลังพูดถึงคู่สกุลเงินยูโรและฟรังก์สวิส แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจจากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็มีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงคู่ EUR/CHF ด้วย ข้อมูลล่าสุดจาก รายงานการจ้างงานเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ ได้กลายเป็นจุดสนใจสำคัญ รายงานระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานถึง 206,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่แข็งแกร่งเกินคาดการณ์ ในขณะที่ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.1% และการเติบโตของค่าจ้างใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบสามปี

คุณอาจถามว่าข้อมูลเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างไร? ลองนึกภาพว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Federal Reserve) กำลังพยายามปรับสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อกับการรักษาระดับการจ้างงาน รายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งนี้ แม้จะมีการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานเล็กน้อย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่ยังคงมีความยืดหยุ่น การที่ค่าจ้างเติบโตช้าลงเป็นสัญญาณที่ดีที่อาจช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ ข้อมูลเหล่านี้ส่งผลให้ตลาดตีความว่า เฟดอาจมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นข่าวที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาและคาดหวัง

ผลตอบรับจากข่าวนี้ปรากฏให้เห็นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ คุณจะเห็นว่าหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Tesla และ Nvidia ก็ได้รับแรงหนุนอย่างมากจากความเชื่อมั่นในตลาดที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง การที่เฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยเป็นนัยว่าต้นทุนทางการเงินจะลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจและกระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หากต้นทุนการกู้ยืมลดลง นั่นหมายถึงบริษัทต่างๆ สามารถขยายกิจการได้ง่ายขึ้น และผู้บริโภคก็มีกำลังใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ภาพแสดงปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อตลาด EUR/CHF

นโยบายการเงินที่แตกต่าง: เฟดและธนาคารแห่งชาติสวิส

หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนคู่สกุลเงินอย่าง EUR/CHF คือนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่เกี่ยวข้อง ลองนึกภาพสถานการณ์ที่ธนาคารกลางสองแห่งกำลังเดินเรือไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ซึ่งสร้างกระแสคลื่นที่ส่งผลต่อค่าเงินของตนเอง ในฝั่งของสหรัฐฯ ความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ เฟด กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุด โดยเฉพาะรายงานการจ้างงานที่กล่าวไปข้างต้น ได้ช่วยสนับสนุนแนวคิดที่ว่าเฟดมีพื้นที่ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหากจำเป็น

ในทางตรงกันข้าม ธนาคารแห่งชาติสวิส (SNB) ได้ดำเนินการอย่างชัดเจนแล้ว โดยได้ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในปีนี้ การตัดสินใจครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางนโยบายที่ค่อนข้างเป็นอิสระและแตกต่างจากธนาคารกลางหลักอื่นๆ SNB อาจมองว่าอัตราเงินเฟ้อในสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดแรงกดดันต่อค่าเงินฟรังก์สวิสที่แข็งค่าเกินไป การลดดอกเบี้ยมักจะทำให้สกุลเงินนั้นอ่อนค่าลง เนื่องจากผลตอบแทนจากการฝากเงินในประเทศนั้นลดลง ทำให้เงินไหลออกไปหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ความแตกต่างของนโยบายการเงินเหล่านี้มีผลกระทบโดยตรงต่อ EUR/CHF เมื่อ SNB ลดอัตราดอกเบี้ย ฟรังก์สวิส (CHF) มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ EUR/CHF มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น หากยูโรยังคงแข็งแกร่งอยู่ หรือไม่ก็ช่วยพยุงไม่ให้ EUR/CHF ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อาจอ่อนค่าลงเช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลให้เงินทุนบางส่วนไหลกลับเข้าสู่ยูโร หรือไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างฟรังก์สวิสได้เช่นกัน คุณจะเห็นได้ว่าการทำความเข้าใจความซับซ้อนของนโยบายการเงินเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินนี้

มุมมองของประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์: สัญญาณเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ย

เสียงของ ประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ มีน้ำหนักอย่างยิ่งต่อตลาดการเงินทั่วโลก ทุกถ้อยคำของเขาสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความคาดหวังของนักลงทุนและทิศทางของตลาด ในการแถลงการณ์ล่าสุด พาวเวลล์ได้แสดงความพึงพอใจต่อ ข้อมูลเงินเฟ้อที่เย็นลง โดยเขาเชื่อว่าสหรัฐฯ กำลังกลับสู่เส้นทางที่เงินเฟ้อจะลดลงอย่างยั่งยืน คุณอาจถามว่าเหตุใดความเห็นของเขาจึงสำคัญนัก?

ลองจินตนาการว่าพาวเวลล์คือผู้ควบคุมวงออร์เคสตราขนาดใหญ่ ที่พยายามปรับจังหวะการเล่นของแต่ละเครื่องดนตรี (เศรษฐกิจ) ให้สอดคล้องกัน หากเขามั่นใจว่าเสียงเพลง (เงินเฟ้อ) กำลังบรรเลงไปในทิศทางที่ถูกต้อง นั่นหมายความว่าเขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการที่รุนแรงในการควบคุมอีกต่อไป ซึ่งในบริบทของธนาคารกลาง หมายถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การที่พาวเวลล์แสดงความเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อกำลังลดลง ถือเป็น สัญญาณเชิงบวก ที่ยิ่งตอกย้ำความคาดหวังของตลาดว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะ ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน นี้

ความเชื่อมั่นนี้ไม่ได้ส่งผลแค่ต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังส่งอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก และมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินต่างๆ รวมถึง EUR/CHF ด้วย เมื่อนักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางหลักกำลังดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ พวกเขามีแนวโน้มที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินสกุลยูโรแข็งค่าขึ้นได้ หากมองในมุมกลับกัน หากฟรังก์สวิสเริ่มอ่อนค่าลงจากการลดดอกเบี้ยของ SNB และยูโรแข็งค่าขึ้นจากความเชื่อมั่นของตลาด นั่นอาจผลักดันให้ EUR/CHF มีแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์เพียงปัจจัยเดียวไม่เพียงพอ เราต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่กันไปเสมอ

เจาะลึกการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับ EUR/CHF: Oscillators และ Moving Averages

นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานและข่าวเศรษฐกิจมหภาคแล้ว การวิเคราะห์ทางเทคนิคถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนมืออาชีพใช้ในการตัดสินใจซื้อขาย การวิเคราะห์ทางเทคนิคเปรียบเสมือนการอ่านรอยเท้าในป่า เพื่อทำความเข้าใจว่าสัตว์ (ราคา) เคลื่อนที่ไปในทิศทางใด สำหรับ EUR/CHF เราจะมาเจาะลึกการใช้เครื่องมือยอดนิยมสองประเภทคือ Oscillators และ Moving Averages

Oscillators คือตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ช่วยให้เราทราบว่าราคาอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งบ่งชี้ถึงโอกาสที่ราคาจะกลับตัว ยกตัวอย่างเช่น Relative Strength Index (RSI) หรือ Stochastic Oscillator หากค่าของ Oscillator อยู่ในระดับ Overbought นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าราคาใกล้จะปรับตัวลง และหากอยู่ในระดับ Oversold ก็อาจบ่งชี้ถึงการปรับตัวขึ้น

ในขณะที่ Moving Averages (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและระดับแนวรับ/แนวต้าน เส้นค่าเฉลี่ยที่นิยมใช้คือ Simple Moving Average (SMA) และ Exponential Moving Average (EMA) ซึ่งช่วยให้ราคาเรียบขึ้นและมองเห็นแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้น หากราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ นี่อาจเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง ในทางกลับกัน หากราคาอยู่สูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ นี่อาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นและระยะยาว หรือที่เรียกว่า Golden Cross และ Death Cross ก็เป็นสัญญาณสำคัญที่นักลงทุนใช้ในการตัดสินใจ

จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคในปัจจุบันสำหรับ EUR/CHF ทั้งจาก Oscillators และ Moving Averages โดยรวมแล้วพบว่า ในกรอบเวลาทั้งรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ตัวชี้วัดส่วนใหญ่ให้สัญญาณ “ขาย” ซึ่งบ่งชี้ว่าคู่สกุลเงินนี้อาจกำลังอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลง หรือมีความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวลดลงในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวม และควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเสมอ

สัญญาณ “ขาย” ที่แข็งแกร่ง: การตีความแนวโน้ม EUR/CHF จากตัวชี้วัด

เมื่อตัวชี้วัดทางเทคนิคส่วนใหญ่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือสัญญาณที่ไม่อาจมองข้ามได้ สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/CHF ข้อมูลล่าสุดจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคบ่งชี้ถึง สัญญาณ “ขาย” ที่แข็งแกร่ง ในหลายกรอบเวลา ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน คุณอาจสงสัยว่า “สัญญาณขาย” เหล่านี้มีความหมายอย่างไรและเราจะตีความมันได้อย่างไร?

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังมองภาพถ่ายทางอากาศของภูมิทัศน์เดียวกัน แต่ในระดับความละเอียดที่แตกต่างกัน ภาพถ่ายรายวันแสดงถึงรายละเอียดการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน ภาพถ่ายรายสัปดาห์แสดงภาพรวมของสัปดาห์ และภาพถ่ายรายเดือนแสดงแนวโน้มระยะยาวที่ใหญ่ที่สุด การที่ Oscillators และ Moving Averages แสดงสัญญาณ “ขาย” ในทุกกรอบเวลาเหล่านี้ เป็นเสมือนว่าทุกภาพถ่ายที่คุณเห็นต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ แนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นหรือกำลังดำเนินอยู่

ตัวอย่างเช่น หากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดลงใต้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว (Death Cross) ในกราฟรายวัน และในขณะเดียวกัน RSI ก็เคลื่อนตัวลงจากเขต Overbought ไปยังเขต Oversold ในกราฟรายสัปดาห์ นี่คือการเสริมความแข็งแกร่งของสัญญาณขาลง และเมื่อคุณตรวจสอบกราฟรายเดือนและพบว่าราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาวที่สำคัญ นั่นยิ่งตอกย้ำภาพรวมของ แนวโน้มขาลงในระยะยาว

ณ ปัจจุบัน ราคา EUR/CHF อยู่ที่ 0.93614 CHF ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.12% ใน 24 ชั่วโมงล่าสุด แต่การปรับตัวขึ้นเล็กน้อยนี้อาจเป็นเพียงการพักตัวในแนวโน้มขาลงใหญ่ หรือที่เรียกว่า “Dead Cat Bounce” นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและยืนยันสัญญาณด้วยตัวชี้วัดและรูปแบบราคาอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเข้าสู่ตลาด การเข้าใจสัญญาณเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการซื้อขายได้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Short หรือการรอจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการกลับตัว

กลยุทธ์การซื้อขาย EUR/CHF: Swing Trading และการบริหารความเสี่ยง

เมื่อคุณได้ทำความเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะของ EUR/CHF ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค และการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว สิ่งสำคัญถัดไปคือการนำความรู้นั้นมาปรับใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้ว EUR/CHF เหมาะสำหรับกลยุทธ์ Swing Trading เป็นอย่างยิ่ง คุณอาจสงสัยว่าการทำ Swing Trading สำหรับคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนต่ำเช่นนี้ต้องทำอย่างไร?

Swing Trading คือการจับจังหวะการเคลื่อนที่ของราคาในช่วงระยะเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม นัก Swing Trader จะมองหาจุดกลับตัวของราคาหลังจากที่แนวโน้มปัจจุบันเริ่มอ่อนแรง หรือจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ สำหรับ EUR/CHF คุณอาจใช้เครื่องมืออย่าง Fibonacci Retracements เพื่อระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ หรือใช้ Trendlines เพื่อยืนยันแนวโน้มและหาจุดเข้า/ออกที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากลยุทธ์ใดก็ตาม การ บริหารความเสี่ยง เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนที่ยั่งยืน ลองนึกภาพว่าคุณกำลังขับรถบนถนนที่คดเคี้ยว คุณต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและรักษาระดับความเร็วให้เหมาะสมเสมอ ในการซื้อขาย Forex การบริหารความเสี่ยงหมายถึงการกำหนดขนาดการซื้อขายที่เหมาะสม การตั้งจุด Stop Loss เพื่อจำกัดการขาดทุน และการตั้งจุด Take Profit เพื่อรักษากำไร คุณควรลงทุนในจำนวนเงินที่คุณพร้อมจะสูญเสียเท่านั้น และไม่ควรใช้มาร์จิ้น (Leverage) มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้คุณถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คุณคาดการณ์

ปัจจุบัน มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก IG Markets ผู้ให้บริการซื้อขาย Forex ชั้นนำ ระบุว่า 73% ของบัญชีลูกค้ามีสถานะ “Long” (ซื้อ) ในตลาด EUR/CHF ซึ่งหมายความว่านักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคา EUR/CHF จะปรับตัวสูงขึ้น ข้อมูลนี้อาจใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ แต่คุณควรระมัดระวังและไม่ยึดติดกับแนวคิดของฝูงชน (Herd Mentality) เสมอไป เพราะตลาดมักจะเคลื่อนไหวสวนทางกับคนส่วนใหญ่ ควรใช้ข้อมูลนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัยในการวิเคราะห์ของคุณ

ปัจจัยเสริมและมุมมองระยะยาว: ราคาน้ำมัน, สงครามการค้า และ Brexit

ตลาดการเงินโลกไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเพียงอัตราดอกเบี้ยหรือรายงานการจ้างงานเท่านั้น แต่ยังมี ปัจจัยเสริม อีกมากมายที่อาจส่งผลกระทบต่อสกุลเงินและสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึง EUR/CHF ด้วย คุณอาจรู้สึกเหมือนกำลังต่อจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่ ที่ทุกชิ้นส่วนมีความสัมพันธ์กัน เรามาดูกันว่าชิ้นส่วนสำคัญเหล่านี้มีอะไรบ้าง

ประการแรกคือ ราคาน้ำมัน การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันโลกมักส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อทั่วโลก หากราคาน้ำมันสูงขึ้น อาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นและส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นตาม ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายของธนาคารกลาง และในที่สุดก็ส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโรและฟรังก์สวิส

ประการที่สองคือ สถานการณ์การค้าโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่าง สหรัฐฯ และจีน ซึ่งในอดีตเคยมีประเด็นเรื่อง สงครามการค้า ความตึงเครียดทางการค้าสามารถสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงิน ทำให้เงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างฟรังก์สวิส หากความตึงเครียดผ่อนคลายลง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็จะกลับมา ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อยูโร

และสุดท้ายคือ Brexit แม้ว่าการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรจะเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ผลพวงของมันยังคงส่งผลต่อเศรษฐกิจยุโรปในภาพรวม และมีการกล่าวอ้างถึงสถานการณ์ Brexit ว่าเป็นคำเตือนสำหรับนโยบายแบบ “Trumpism” หรือนโยบายกีดกันทางการค้าที่อาจกลับมาอีกครั้ง ซึ่งอาจสร้างความปั่นป่วนในตลาดได้อีกครั้ง

ปัจจัยเหล่านี้อาจไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ EUR/CHF ทุกวัน แต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่คุณควรติดตามในระยะยาว เพื่อให้เห็นภาพรวมของสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ การมองเห็นภาพรวมที่กว้างขึ้นนี้จะช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสและสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

ความสำคัญของการเลือกโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เชื่อถือได้

การลงทุนในตลาด Forex และ CFD นั้น นอกเหนือจากการทำความเข้าใจกลยุทธ์และการวิเคราะห์ตลาดแล้ว การเลือกพันธมิตรที่เหมาะสม หรือก็คือ โบรกเกอร์ (Broker) และ แพลตฟอร์มการซื้อขาย (Trading Platform) ที่เชื่อถือได้ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ลองจินตนาการว่าคุณกำลังออกเรือไปยังมหาสมุทร คุณย่อมต้องการเรือที่แข็งแรงและอุปกรณ์นำทางที่แม่นยำที่สุดจริงไหม?

ตลาด Forex มีลักษณะพิเศษที่เปิดให้ ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ และบางโบรกเกอร์ยังมีข้อเสนอการซื้อขายในช่วงสุดสัปดาห์สำหรับคู่สกุลเงินหลักบางคู่ ซึ่งเป็นความยืดหยุ่นที่สินทรัพย์อื่น ๆ ไม่มี คุณในฐานะนักลงทุน ควรพิจารณาโบรกเกอร์ที่ให้ ค่า Pip ที่แข่งขันได้ และมี มาร์จิ้น (Margin) ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ ค่า Pip คือหน่วยที่ใช้วัดการเคลื่อนไหวของราคา และเป็นตัวกำหนดกำไร/ขาดทุนของคุณ ส่วนมาร์จิ้นคือเงินประกันที่คุณต้องวางไว้เพื่อเปิดตำแหน่งการซื้อขาย การเลือกแพลตฟอร์มที่ให้สเปรดต่ำและมีค่าธรรมเนียมที่โปร่งใสจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเริ่มต้นหรือยกระดับประสบการณ์การซื้อขาย Forex ของคุณ และมองหาแพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โมเนต้า มาร์เก็ตส์ (Moneta Markets) เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ แพลตฟอร์มนี้มาจากออสเตรเลีย และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถค้นหาสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้

นอกจากนี้ ในการเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขาย โมเนต้า มาร์เก็ตส์ (Moneta Markets) ยังโดดเด่นด้วยความยืดหยุ่นทางเทคโนโลยี พวกเขารองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4, MT5, และ Pro Trader ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความเร็วในการประมวลผลคำสั่งและสเปรดที่ต่ำ เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพให้แก่คุณ การมีเครื่องมือที่เหมาะสมในมือ จะช่วยให้คุณสามารถดำเนินการตามแผนการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ

สรุปและข้อคิดสำหรับนักลงทุน

ตลอดบทความนี้ เราได้เดินทางผ่านโลกที่ซับซ้อนของคู่สกุลเงิน EUR/CHF ตั้งแต่การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของมันในฐานะคู่สกุลเงินที่เคลื่อนไหวตามแนวโน้มและมีความผันผวนในระดับต่ำ ไปจนถึงการวิเคราะห์ปัจจัยมหภาคที่สำคัญอย่างรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ และนโยบายการเงินที่แตกต่างกันของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารแห่งชาติสวิส (SNB) นอกจากนี้ เรายังได้เจาะลึกการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยใช้ Oscillators และ Moving Averages ที่กำลังส่งสัญญาณ “ขาย” อย่างต่อเนื่องในหลายกรอบเวลา

คุณจะเห็นได้ว่าการลงทุนใน Forex โดยเฉพาะคู่สกุลเงินอย่าง EUR/CHF ไม่ใช่เพียงแค่การคาดเดาทิศทางราคา แต่เป็นการผสมผสานระหว่าง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การตีความ ข่าวสารเศรษฐกิจ และ การประยุกต์ใช้เครื่องมือทางเทคนิค อย่างชาญฉลาด การทำความเข้าใจในแต่ละองค์ประกอบเหล่านี้อย่างลึกซึ้งจะช่วยให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่แข็งแกร่งและลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่ปราศจากข้อมูล

สิ่งสำคัญที่สุดคือการ บริหารความเสี่ยง และการเลือก โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ เป็นรากฐานสำคัญของการลงทุนที่ยั่งยืน อย่าลืมว่าตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องคือสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตในฐานะนักลงทุน เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มพูนความรู้และทักษะการลงทุนของคุณ และช่วยให้คุณสามารถคว้าโอกาสในตลาด EUR/CHF ได้อย่างมั่นใจ และสุดท้าย หากคุณกำลังพิจารณาโบรกเกอร์ โมเนต้า มาร์เก็ตส์ (Moneta Markets) มีการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง FSCA, ASIC, FSA และนำเสนอการคุ้มครองเงินทุนผ่านบัญชีแยกต่างหาก พร้อมด้วยบริการเสริมอย่าง VPS ฟรีและทีมงานดูแลลูกค้าภาษาไทย 24/7 ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการซื้อขายอย่างปลอดภัย

ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเดินทางสายการลงทุน!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับeurchf

Q:คู่สกุลเงิน EUR/CHF คืออะไร?

A:EUR/CHF คือการเปรียบเทียบระหว่างสกุลเงินยูโรและฟรังก์สวิส โดยแสดงค่าอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินนี้

Q:ทำไม EUR/CHF ถึงถูกมองว่าเป็นคู่สกุลเงินปลอดภัย?

A:เพราะฟรังก์สวิสถือว่าเป็นสกุลเงินปลอดภัยที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองในการลงทุน

Q:กลยุทธ์การซื้อขาย EUR/CHF ที่ดีที่สุดคืออะไร?

A:กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับ EUR/CHF คือการใช้ Swing Trading รวมถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *