fractal indicator คือเครื่องมือทรงพลังในการจับจุดกลับตัวในตลาดการเงิน

สารบัญ

ถอดรหัส Fractal Indicator: เครื่องมือทรงพลังสำหรับการจับจุดกลับตัวในตลาดการเงิน

ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนและโอกาส การทำความเข้าใจเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณนำหน้าตลาดได้ก้าวหนึ่งเสมอ วันนี้ เราจะมาเจาะลึกเครื่องมือหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในหมู่นักเทรด นั่นคือ Fractal Indicator ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการระบุ จุดกลับตัว ของราคา บทความนี้จะนำพาคุณไปสู่โลกของ Fractal ตั้งแต่รากฐาน หลักการทำงาน ไปจนถึงกลยุทธ์การประยุกต์ใช้จริง เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการ เทรด ได้อย่างมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไร

นักเทรดกำลังวิเคราะห์ Fractal Indicator บนกราฟและแผนภูมิ

  • Fractal Indicator ช่วยในการระบุจุดกลับตัวของราคาในตลาดการเงิน
  • Fractal เกิดจากการวิเคราะห์แท่งเทียน 5 แท่งที่เป็นรูปแบบเฉพาะ
  • การใช้งาน Fractal ต้องมีวิจารณญาณเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก

ความเข้าใจเชิงลึก: อินดิเคเตอร์ Fractal คืออะไร?

Fractal Indicator คือตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ถูกพัฒนาโดยปรมาจารย์ด้านการเทรดอย่าง บิล วิลเลียมส์ (Bill Williams) ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงจากการนำแนวคิดจาก Chaos Theory (ทฤษฎีความวุ่นวาย) มาประยุกต์ใช้กับการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด การทำงานพื้นฐานของ Fractal คือการระบุรูปแบบเฉพาะของ แท่งเทียน บน แผนภูมิราคา ซึ่งบ่งชี้ถึงจุดที่ราคาได้ทำจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดในระยะสั้น และมีแนวโน้มที่จะกลับตัวในทิศทางตรงกันข้าม

ลองจินตนาการดูสิว่า หากเรามีเครื่องมือที่สามารถชี้บอกจุดที่ “ตลาดเปลี่ยนใจ” ได้อย่างแม่นยำ มันจะช่วยให้การตัดสินใจ ซื้อขาย ของเรามีประสิทธิภาพขึ้นมากเพียงใด นั่นคือบทบาทหลักของ Fractal ในฐานะตัวบ่งชี้ จุดกลับตัว ที่สำคัญ

โครงสร้างพื้นฐานของ Fractal: รูปแบบ 5 แท่งเทียนที่บ่งบอกจุดกลับตัว

หัวใจสำคัญของ Fractal คือการก่อตัวของรูปแบบ 5 แท่งเทียน ที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ สัญญาณ Fractal จะปรากฏขึ้นเมื่อแท่งเทียนตรงกลางของรูปแบบทั้งห้าแท่ง แสดงค่าสูงสุดหรือต่ำสุดที่โดดเด่นกว่าแท่งเทียนสองข้างที่อยู่ก่อนหน้าและสองข้างที่อยู่ถัดไป

  • สำหรับ Bullish Fractal (แฟร็กทัลขาขึ้น): จะประกอบด้วยแท่งเทียนที่ 3 (ตรงกลาง) ที่มีจุดต่ำสุด ต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับแท่งเทียน 2 แท่งก่อนหน้าและ 2 แท่งหลัง ซึ่งบ่งชี้ถึงการก่อตัวของจุดต่ำสุดและมีแนวโน้มที่ราคาจะ กลับตัวเป็นขาขึ้น บนแผนภูมิ มักจะปรากฏเป็นลูกศรชี้ขึ้นใต้แท่งเทียน
  • สำหรับ Bearish Fractal (แฟร็กทัลขาลง): จะประกอบด้วยแท่งเทียนที่ 3 (ตรงกลาง) ที่มีจุดสูงสุด สูงที่สุด เมื่อเทียบกับแท่งเทียน 2 แท่งก่อนหน้าและ 2 แท่งหลัง ซึ่งบ่งชี้ถึงการก่อตัวของจุดสูงสุดและมีแนวโน้มที่ราคาจะ กลับตัวเป็นขาลง บนแผนภูมิ มักจะปรากฏเป็นลูกศรชี้ลงเหนือแท่งเทียน
ประเภท Fractal ลักษณะ แนวโน้มที่คาดการณ์
Bullish Fractal แท่งเทียนที่มีจุดต่ำสุดต่ำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบ กลับตัวเป็นขาขึ้น
Bearish Fractal แท่งเทียนที่มีจุดสูงสุดสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบ กลับตัวเป็นขาลง

สิ่งสำคัญที่ต้องจำคือ สัญญาณ Fractal จะถูกยืนยันและปรากฏขึ้นบนแผนภูมิก็ต่อเมื่อแท่งเทียนที่ 5 ของรูปแบบ ปิดสมบูรณ์แล้ว นี่หมายความว่า Fractal เป็น Lagging Indicator (ตัวชี้วัดตาม) ซึ่งให้สัญญาณหลังจากที่การเคลื่อนไหวของราคาได้เกิดขึ้นไปแล้วระดับหนึ่ง การทำความเข้าใจจุดนี้จะช่วยให้คุณใช้งาน Fractal ได้อย่างมีวิจารณญาณ

ภาพกราฟแสดงรูปแบบ Fractal Indicator ที่มีสีสันสดใส

จุดเด่นที่ทำให้ Fractal น่าสนใจ: ความยืดหยุ่นและการตรวจจับแนวโน้ม

ทำไม Fractal Indicator ถึงเป็นที่นิยมในหมู่นักเทรด? มีหลายเหตุผลด้วยกันครับ

  • ความยืดหยุ่นสูง: Fractal สามารถใช้ได้กับ ทุกตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, หรือ ตลาดฟอเร็กซ์ รวมถึงสามารถใช้งานได้กับ ทุกกรอบเวลา (Timeframe) ตั้งแต่กราฟรายนาทีไปจนถึงกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ Fractal กลายเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์สำหรับเทรดเดอร์ทุกสไตล์
  • ช่วยตรวจจับการกลับตัวได้ตั้งแต่เนิ่นๆ: แม้จะเป็น Lagging Indicator แต่ Fractal ก็ยังสามารถช่วยให้คุณระบุ จุดกลับตัว ของ แนวโน้มราคา ได้เร็วกว่าการรอให้รูปแบบราคาขนาดใหญ่ก่อตัวสมบูรณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเข้าหรือออกจากสถานะ ซื้อ หรือ ขาย ที่เหมาะสม
  • ใช้งานง่าย: แพลตฟอร์ม เทรด ส่วนใหญ่ เช่น MT4 หรือ MT5 มี Fractal Indicator ให้ใช้งานในตัว ทำให้คุณสามารถเพิ่มลงบนแผนภูมิได้โดยไม่ต้องตั้งค่าที่ซับซ้อน
  • เป็นฐานในการกำหนดแนวรับแนวต้าน: จุดที่เกิด Fractal มักจะกลายเป็นระดับ แนวรับแนวต้าน ที่สำคัญในอนาคต การใช้ Fractal ในการมองหาจุดเหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Price Action ที่ทรงพลัง

ทำความเข้าใจข้อจำกัด: Fractal ในฐานะ Lagging Indicator และสัญญาณหลอก

ทุกเครื่องมือย่อมมีข้อจำกัด เช่นเดียวกับ Fractal Indicator การทำความเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงความผิดพลาดได้

  • เป็น Lagging Indicator: ดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว สัญญาณ Fractal จะปรากฏขึ้นหลังจากที่ราคาได้เคลื่อนไหวไปแล้ว นั่นหมายความว่าคุณอาจจะไม่ได้เข้าเทรดที่จุดต่ำสุดหรือสูงสุดที่แท้จริงเสมอไป แต่จะเป็นการยืนยันการกลับตัวที่เกิดขึ้นแล้ว
  • เกิด สัญญาณหลอก ได้บ่อย: โดยเฉพาะใน Timeframe สั้น หรือใน ตลาด Sideway (ไซด์เวย์) ที่ราคาไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน สัญญาณ Fractal อาจปรากฏขึ้นจำนวนมากและให้ สัญญาณหลอก ซึ่งนำไปสู่การเทรดที่ไม่มีประสิทธิภาพ การใช้ Fractal เพียงลำพังจึงมีความเสี่ยงสูง
  • ความน่าเชื่อถือลดลงใน Timeframe สั้น: ใน Timeframe ที่สั้นมากๆ เช่น กราฟรายนาทีหรือ 5 นาที สัญญาณ Fractal จะปรากฏขึ้นถี่มาก แต่ความน่าเชื่อถือจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในทางตรงกันข้าม สัญญาณใน Timeframe ที่ยาวขึ้น เช่น รายวันหรือรายสัปดาห์ แม้จะปรากฏน้อยครั้งกว่า แต่ก็มักจะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า
  • ไม่ควรใช้เดี่ยวๆ: นี่คือข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด Fractal Indicator ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นเครื่องมือตัดสินใจ ซื้อขาย เพียงอย่างเดียว คุณต้องใช้ร่วมกับ อินดิเคเตอร์ อื่นๆ หรือการวิเคราะห์ Price Action เพื่อ ยืนยันสัญญาณ และเพิ่มความแม่นยำ

หน้าจอการเทรดที่แสดง Fractal Indicator พร้อมข้อมูลตลาดแบบพลิกผัน

ประยุกต์ใช้ Fractal เพื่อระบุจุด Breakout และกำหนด Stop Loss

หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญของ Fractal Indicator คือความสามารถในการช่วยคุณวางแผน กลยุทธ์การเทรด และบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ระบุจุด Breakout (การทะลุแนว): เมื่อราคาสามารถทะลุผ่าน Fractal ก่อนหน้า (โดยเฉพาะ Fractal ที่ทำหน้าที่เป็น แนวรับแนวต้าน) นี่มักจะเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งของการเกิด แนวโน้มราคา ใหม่ หรือการกลับมาดำเนินแนวโน้มเดิมที่แข็งแกร่งขึ้น นักเทรดสามารถใช้จุดนี้เป็นสัญญาณในการเข้าเทรดตามทิศทางของ Breakout
  • กำหนด Stop Loss (หยุดการขาดทุน): นี่คือประโยชน์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของ Fractal สัญญาณ Fractal ที่ปรากฏขึ้นสามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการวาง จุดหยุดการขาดทุน ที่เหมาะสม
    • หากคุณเข้า สถานะซื้อ (Long Position) คุณสามารถวาง Stop Loss ไว้ต่ำกว่า Bullish Fractal ที่เป็นจุดต่ำสุดก่อนหน้าเล็กน้อย
    • หากคุณเข้า สถานะขาย (Short Position) คุณสามารถวาง Stop Loss ไว้สูงกว่า Bearish Fractal ที่เป็นจุดสูงสุดก่อนหน้าเล็กน้อย

    การกำหนด Stop Loss ที่ชัดเจนเป็นหัวใจของการ บริหารความเสี่ยง และเป็นสิ่งสำคัญที่นัก เทรด ทุกคนต้องให้ความสำคัญ หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่มอบเครื่องมือครบครันสำหรับการ เทรด พร้อมการ บริหารความเสี่ยง ที่มีประสิทธิภาพ เช่น การตั้ง Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างแม่นยำ ลองพิจารณา Moneta Markets พวกเขาเสนอแพลตฟอร์มที่หลากหลายและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์นักเทรดได้เป็นอย่างดี

ผสานพลัง Fractal กับเครื่องมืออื่นๆ: Alligator, Fibonacci และ Moving Average

ดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว การใช้ Fractal เพียงลำพังอาจนำไปสู่ สัญญาณหลอก ได้บ่อยครั้ง เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพ คุณควรผสาน Fractal Indicator เข้ากับ อินดิเคเตอร์ อื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับใน การวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • Fractal กับ Alligator Indicator: นี่คือการจับคู่ที่คลาสสิกที่สุดและถูกแนะนำโดย บิล วิลเลียมส์ เอง Alligator Indicator ประกอบด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) 3 เส้นที่ทำหน้าที่เสมือนฟันของจระเข้ ซึ่งบ่งบอกถึง แนวโน้มราคา และช่วงเวลาที่ตลาดกำลังพักตัว (หลับ) หรือกำลังเคลื่อนไหว (ตื่น)
    • เมื่อ Alligator กำลัง “หลับ” (เส้นค่าเฉลี่ยพันกันแน่น) ตลาดมักจะอยู่ใน ตลาด Sideway และ Fractal อาจให้ สัญญาณหลอก จำนวนมาก
    • เมื่อ Alligator กำลัง “ตื่น” (เส้นค่าเฉลี่ยแยกออกจากกันและมีทิศทางชัดเจน) สัญญาณ Fractal ที่เกิดขึ้นในทิศทางของ แนวโน้ม จะมีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นอย่างมาก

    การใช้ร่วมกันนี้ช่วยให้คุณกรอง สัญญาณ Fractal ที่ไม่น่าเชื่อถือออกไป และโฟกัสไปที่ สัญญาณ ที่สอดคล้องกับ แนวโน้มราคา หลัก

  • Fractal กับ Fibonacci Retracement: จุดที่เกิด Fractal สามารถทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดสำหรับการวาด Fibonacci Retracement ซึ่งช่วยให้คุณระบุระดับ แนวรับแนวต้าน ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และเป็นจุดที่ราคาอาจกลับตัวหรือพักตัว
  • Fractal กับ Moving Average (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่): การใช้ Fractal ร่วมกับ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เช่น SMA หรือ EMA ช่วย ยืนยันแนวโน้ม และให้จุดเข้าออกที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น หากราคาตัดผ่าน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ในทิศทางเดียวกับ Fractal นั่นคือ สัญญาณ ที่แข็งแกร่งขึ้น
  • Fractal กับ RSI (Relative Strength Index) และ Stochastic (Stochastic Oscillator): อินดิเคเตอร์ ประเภท Oscillator เหล่านี้ช่วยบอกภาวะ Overbought (ซื้อมากเกินไป) หรือ Oversold (ขายมากเกินไป) ของตลาด เมื่อ Fractal ปรากฏที่ จุดกลับตัว และ RSI หรือ Stochastic แสดงภาวะ Overbought/Oversold นี่คือ สัญญาณยืนยัน ที่มีน้ำหนักมาก

Fractal กับตลาดที่เหมาะสมและการต่อยอดสู่ระบบเทรดอัตโนมัติ

Fractal Indicator มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Scalpers (สแคปเปอร์) ซึ่งเป็นนัก เทรด ที่เน้นการทำกำไรระยะสั้นมากๆ โดยการเข้าออกตลาดอย่างรวดเร็วเพื่อเก็บกำไรเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจาก Fractal ช่วยระบุ จุดกลับตัว และ แนวรับแนวต้าน ได้อย่างชัดเจน ทำให้ Scalpers สามารถวางแผน ซื้อขาย ได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ Fractal ยังเหมาะกับ เทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดตามแนวโน้ม (Trend Follow) ในตลาดที่มีทิศทางชัดเจน เพราะจะช่วยให้สามารถจับ จุดกลับตัว หรือ จุด Breakout เพื่อเข้า เทรด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ไม่ค่อยเหมาะกับการ เทรดข่าวสาร หรือการ เทรดความถี่สูง ที่อาศัยความเร็วในการเข้าออกเป็นหลัก

สำหรับนัก เทรด ที่มีความสนใจในการสร้าง ระบบเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisor – EA) หรือที่เรียกว่า Robot Trading แนวคิดของ Fractal สามารถนำไปพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของ EA ได้อย่างน่าสนใจ คุณสามารถกำหนดเงื่อนไขให้ EA เปิดหรือปิดสถานะเมื่อเกิดสัญญาณ Fractal ที่ตรงตามเงื่อนไขของคุณ เช่น เมื่อเกิด Bullish Fractal เหนือ Moving Average ที่เป็น แนวโน้มขาขึ้น หรือเมื่อเกิด Bearish Fractal ต่ำกว่า Alligator ที่กำลัง “ตื่น” และเป็น แนวโน้มขาลง

อย่างไรก็ตาม การสร้าง EA ต้องอาศัยความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการเขียนโค้ดและกลยุทธ์การ บริหารความเสี่ยง คุณต้องระมัดระวังการใช้กลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น Martingale ที่เพิ่มขนาดการ เทรด เป็นสองเท่าเมื่อขาดทุน เพื่อชดเชยการขาดทุนในรอบก่อนหน้า ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการ เทรด สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่าง ทองคำ (XAUUSD) การทดสอบ EA ด้วยข้อมูลย้อนหลัง (Backtesting) และการทดลองในบัญชีทดลอง (Demo Account) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งก่อนนำไปใช้จริง

การบริหารความเสี่ยงคือหัวใจสำคัญในการเทรดด้วย Fractal

ไม่ว่าคุณจะใช้ Fractal Indicator ร่วมกับเครื่องมือใดๆ หรือ กลยุทธ์การเทรด รูปแบบไหน สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการ บริหารความเสี่ยง อย่างรอบคอบ

  • กำหนด Stop Loss เสมอ: ทุกครั้งที่คุณเปิดสถานะ ให้กำหนด จุดหยุดการขาดทุน (Stop Loss) เสมอ การใช้ Fractal ช่วยให้คุณมีจุดอ้างอิงที่ดีในการวาง Stop Loss แต่อย่าลืมว่า Stop Loss คือการจำกัดการขาดทุนสูงสุดที่คุณยอมรับได้ในการ เทรด ครั้งนั้น
  • อย่าทุ่มหมดหน้าตัก: หลีกเลี่ยงการนำเงินทุนจำนวนมากมา เทรด ในสถานะเดียว การกระจายความเสี่ยงและ เทรด ในขนาดที่เหมาะสมกับเงินทุนของคุณเป็นสิ่งสำคัญ
  • ใช้ Ratio Reward/Risk: ตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit) ให้สัมพันธ์กับ Stop Loss ที่คุณวางไว้ โดยทั่วไป นัก เทรด มืออาชีพมักจะตั้งเป้าหมายกำไรให้มากกว่าการขาดทุนที่ยอมรับได้ เช่น อัตราส่วน 1:2 หรือ 1:3 หมายความว่า หากคุณขาดทุน 1 หน่วย คุณจะพยายามทำกำไร 2 หรือ 3 หน่วย การมีอัตราส่วนนี้จะช่วยให้แม้คุณจะแพ้มากกว่าชนะ แต่ก็ยังคงทำกำไรได้ในระยะยาว
  • ทำความเข้าใจ Timeframe: เลือก Timeframe ที่เหมาะสมกับสไตล์การ เทรด ของคุณ และจำไว้ว่า สัญญาณ Fractal ใน Timeframe ที่ยาวขึ้นมักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าแม้จะปรากฏน้อยครั้งกว่า

หากคุณกำลังพิจารณาแพลตฟอร์มสำหรับ การเทรด ที่มีเครื่องมือ บริหารความเสี่ยง ครบครันและได้รับการกำกับดูแล Moneta Markets เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ พวกเขาได้รับใบอนุญาตจากหลายหน่วยงาน เช่น FSCA, ASIC, FSA ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของเงินทุน

สรุป: Fractal Indicator กุญแจสู่การเทรดอย่างชาญฉลาด

Fractal Indicator เป็นเครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับการระบุ จุดกลับตัวของราคา และการกำหนด แนวรับแนวต้าน ในตลาดการเงิน ไม่ว่าคุณจะเป็น นักลงทุนมือใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือ นักเทรด ที่ต้องการเพิ่มความแม่นยำให้กับ กลยุทธ์การเทรด ของตนเอง การทำความเข้าใจและประยุกต์ใช้ Fractal จะเป็นประโยชน์อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญในการใช้ Fractal อย่างประสบความสำเร็จคือการตระหนักรู้ถึงข้อจำกัดของมันในฐานะ Lagging Indicator และแนวโน้มที่จะเกิด สัญญาณหลอก การผสาน Fractal เข้ากับ อินดิเคเตอร์ อื่นๆ เช่น Alligator, Fibonacci Retracement หรือ Moving Average จะช่วย ยืนยันสัญญาณ และเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อย่างมหาศาล

และเหนือสิ่งอื่นใด การ บริหารความเสี่ยง อย่างมีวินัยด้วยการกำหนด Stop Loss ที่ชัดเจนและ เทรด ในขนาดที่เหมาะสม คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก Fractal Indicator ได้อย่างเต็มที่ และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงินได้อย่างยั่งยืน จงเรียนรู้ ฝึกฝน และ เทรด อย่างมีสติ แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับfractal indicator คือ

Q:Fractal Indicator คืออะไร?

A:เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ช่วยในการระบุจุดกลับตัวของราคาในตลาดการเงิน

Q:Fractal Indicator ใช้ในตลาดไหนได้บ้าง?

A:สามารถใช้ได้กับทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือสินค้าโภคภัณฑ์

Q:Fractal Indicator มีข้อจำกัดอย่างไร?

A:เป็น Lagging Indicator ทำให้สัญญาณอาจเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวของราคา

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *