ออปชั่นคืออะไร: คู่มือนักลงทุนฉบับสมบูรณ์เพื่อการบริหารความเสี่ยงและทำกำไรในตลาดผันผวน
ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวน การมีเครื่องมือทางการเงินที่ยืดหยุ่นและหลากหลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ออปชั่น คือหนึ่งในอนุพันธ์ที่นักลงทุนสามารถใช้ได้ทั้งการบริหารความเสี่ยงและสร้างโอกาสทำกำไรในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง บทความนี้จะนำคุณไปทำความเข้าใจ ออปชั่น อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ความหมาย ประเภท กลไกสำคัญ ไปจนถึงประโยชน์การประยุกต์ใช้ และแนะนำเครื่องมือช่วยลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึง ออปชั่น ได้ง่ายขึ้น เพื่อให้คุณพร้อมที่จะปลดล็อกศักยภาพการลงทุน และสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตของคุณในระยะยาว
- ออปชั่น ช่วยในการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างกำไร
- สามารถใช้ได้ในทุกสภาวะตลาดที่ผันผวน
- ทำให้การเข้าถึงการลงทุนใน ออปชั่น ง่ายขึ้นด้วยเครื่องมือช่วย
ออปชั่นคืออะไร: สัญญาแห่งสิทธิและทางเลือกที่นักลงทุนควรรู้
ออปชั่น โดยพื้นฐานแล้วคือ สัญญา ทางการเงินที่มอบ สิทธิ ให้แก่ผู้ถือสัญญา หรือ ผู้ซื้อออปชั่น ในการซื้อหรือขาย สินทรัพย์อ้างอิง ในอนาคตตาม ราคาใช้สิทธิ และจำนวนที่ตกลงกันไว้ แต่ไม่มีภาระผูกพันใดๆ ในทางกลับกัน ผู้ขายออปชั่น หรือผู้ที่ออก สัญญา จะมีภาระผูกพันที่จะต้องดำเนินการตามที่ระบุใน สัญญา หาก ผู้ซื้อออปชั่น เลือกที่จะใช้ สิทธิ นั้น
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังจะซื้อบ้านในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่กลัวว่าราคาบ้านอาจจะปรับตัวสูงขึ้น คุณจึงทำ สัญญา กับเจ้าของบ้านว่าคุณมี สิทธิ ที่จะซื้อบ้านหลังนี้ในราคาปัจจุบัน ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยคุณได้จ่าย “ค่ามัดจำ” เล็กน้อยให้กับเจ้าของบ้านไป นี่คือแนวคิดของ ออปชั่น ที่ให้ สิทธิ แต่ไม่ผูกมัด ผู้ซื้อมีทางเลือกเสมอว่าจะใช้หรือไม่ใช้ สิทธิ นั้น ซึ่งแตกต่างจาก สัญญา อื่นๆ เช่น ฟิวเจอร์ส ที่ทั้งสองฝ่ายมีภาระผูกพันต่อกันอย่างเท่าเทียมกันเมื่อถึงวันครบกำหนด
ประเภทของออปชั่น: คอลออปชันและพุทออปชันพร้อมกลไกการใช้สิทธิ
ออปชั่น หลักๆ ที่เราจะพบและ ซื้อขาย ในตลาด TFEX มีอยู่ 2 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็ให้ สิทธิ ที่แตกต่างกัน และเหมาะกับกลยุทธ์ในตลาดที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
-
คอลออปชัน (Call Option): สิทธิ ในการ “ซื้อ” สินทรัพย์อ้างอิง
คอลออปชัน คือ สัญญา ที่ให้ สิทธิ แก่ ผู้ซื้อออปชั่น ในการ “ซื้อ” สินทรัพย์อ้างอิง เช่น หุ้น หรือ ดัชนี SET50 ในจำนวน ราคา และเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากคุณเป็น นักลงทุน ที่คาดการณ์ว่า สินทรัพย์อ้างอิง จะมีราคาสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ การซื้อ คอลออปชัน ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้คุณสามารถซื้อ สินทรัพย์อ้างอิง นั้นได้ใน ราคาใช้สิทธิ ที่อาจจะต่ำกว่า ราคาตลาด ในขณะนั้น และทำ กำไร ได้ในที่สุด
ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อ คอลออปชัน SET50 Index Options ที่ ราคาใช้สิทธิ 950 จุด โดยมี ค่าพรีเมี่ยม 10 จุด และ ดัชนี SET50 ขึ้นไป 980 จุด คุณก็สามารถใช้ สิทธิ ซื้อที่ 950 จุด แล้วปิดสถานะเพื่อทำ กำไร ส่วนต่าง 30 จุดต่อสัญญา (หักลบด้วย ค่าพรีเมี่ยม 10 จุด ที่จ่ายไป ทำให้ได้ กำไร สุทธิ 20 จุด)
-
พุทออปชัน (Put Option): สิทธิ ในการ “ขาย” สินทรัพย์อ้างอิง
พุทออปชัน คือ สัญญา ที่ให้ สิทธิ แก่ ผู้ซื้อออปชั่น ในการ “ขาย” สินทรัพย์อ้างอิง ในจำนวน ราคา และเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากคุณคาดการณ์ว่า สินทรัพย์อ้างอิง จะมีราคาลดลงในอนาคต การซื้อ พุทออปชัน ก็เป็นกลยุทธ์ที่สามารถสร้าง กำไร ได้ หรือใช้เพื่อ บริหารความเสี่ยง ของ พอร์ตลงทุน ของคุณในกรณีที่ตลาดเป็นขาลง
ยกตัวอย่าง หากคุณถือ หุ้น ไว้จำนวนมาก แต่กังวลว่าราคาจะตก คุณสามารถซื้อ พุทออปชัน เพื่อเป็นเหมือน ซื้อประกัน ไว้ หากราคา หุ้น ตกจริง คุณก็สามารถใช้ สิทธิ ขาย หุ้น ได้ที่ ราคาใช้สิทธิ ที่สูงกว่า ราคาตลาด ทำให้คุณจำกัด ขาดทุน ได้ไม่ว่า ราคาหุ้น จะร่วงลงไปเท่าใดก็ตาม ซึ่งในหัวข้อต่อไป เราจะเจาะลึกการใช้ พุทออปชัน เพื่อ บริหารความเสี่ยง ให้มากขึ้น
ทำความเข้าใจค่าพรีเมี่ยม: ต้นทุนและมูลค่าที่สำคัญในออปชั่น
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการทำความเข้าใจ ออปชั่น คือ “ค่าพรีเมี่ยม” ค่าพรีเมี่ยม คือจำนวนเงินที่ ผู้ซื้อออปชั่น จะต้องจ่ายให้กับ ผู้ขายออปชั่น เพื่อแลกกับ สิทธิ ใน สัญญา นั้นๆ ค่าพรีเมี่ยม นี้ไม่ใช่เงินประกัน แต่เป็นต้นทุนที่คุณจ่ายไปเพื่อได้มาซึ่ง สิทธิ ในการตัดสินใจ หากคุณไม่ใช้ สิทธิ ค่าพรีเมี่ยม ที่จ่ายไปก็จะ ขาดทุน ทั้งจำนวน แต่หากคุณใช้ สิทธิ และทำ กำไร ได้ กำไร ที่ได้ก็จะหักลบด้วย ค่าพรีเมี่ยม ที่คุณได้ลงทุนไปแล้ว
ค่าพรีเมี่ยม ของ ออปชั่น ไม่ใช่แค่ตัวเลขเดียวที่กำหนดขึ้นมาลอยๆ แต่ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 2 ส่วนที่ทำให้เกิดมูลค่า ซึ่งแต่ละส่วนก็สะท้อนถึงปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ นักลงทุน ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อประเมินความคุ้มค่าและความเสี่ยงของ สัญญา ได้อย่างถูกต้อง
เจาะลึกองค์ประกอบค่าพรีเมี่ยม: มูลค่าที่แท้จริงและมูลค่าตามเวลา
ค่าพรีเมี่ยม ของ ออปชั่น สามารถแบ่งออกได้เป็นสองส่วนหลักอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณเข้าใจที่มาของมูลค่า และสามารถประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
-
มูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value): มูลค่าที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อใช้สิทธิ
มูลค่าที่แท้จริง คือมูลค่าที่ ออปชั่น มีอยู่ทันที หากมีการใช้ สิทธิ ในปัจจุบัน กล่าวคือ เป็นส่วนของ ค่าพรีเมี่ยม ที่เกิดขึ้นเมื่อ ออปชั่น มีสถานะ In-the-money (ITM) ซึ่งหมายถึงการใช้ สิทธิ แล้วมี กำไร สุทธิเป็นบวกทันที
- สำหรับ คอลออปชัน: มูลค่าที่แท้จริง จะมีอยู่เมื่อ ราคาตลาด ของ สินทรัพย์อ้างอิง สูงกว่า ราคาใช้สิทธิ (Market Price > Strike Price) ส่วนต่างที่เกินมาคือ มูลค่าที่แท้จริง
- สำหรับ พุทออปชัน: มูลค่าที่แท้จริง จะมีอยู่เมื่อ ราคาตลาด ของ สินทรัพย์อ้างอิง ต่ำกว่า ราคาใช้สิทธิ (Market Price < Strike Price) ส่วนต่างที่ต่ำกว่าคือ มูลค่าที่แท้จริง
หาก ออปชั่น อยู่ในสถานะ At-the-money (ATM) หรือ Out-of-the-money (OTM) จะไม่มี มูลค่าที่แท้จริง เป็นศูนย์ เนื่องจากยังไม่มี กำไร หากใช้ สิทธิ ณ ขณะนั้น
-
มูลค่าตามเวลา (Time Value): ความหวังและโอกาสในการทำกำไรในอนาคต
มูลค่าตามเวลา คือส่วนต่างระหว่าง ค่าพรีเมี่ยม ทั้งหมดกับ มูลค่าที่แท้จริง เปรียบเสมือน “ความหวัง” หรือ “ศักยภาพ” ที่ นักลงทุน ยอมจ่ายเพื่อลุ้นทำ กำไร ในอนาคต โดยได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น เวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุ (ยิ่งเหลือนาน ยิ่งมี มูลค่าตามเวลา มาก) และ ความผันผวน ของ สินทรัพย์อ้างอิง (ยิ่งผันผวนมาก มูลค่าตามเวลา ยิ่งสูง)
เมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าตามเวลา จะค่อยๆ ลดลงจนเป็นศูนย์เมื่อ ออปชั่น หมดอายุ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Time Decay หรือ “ค่าเสียเวลา” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ นักลงทุน ออปชั่น โดยเฉพาะ ผู้ซื้อออปชั่น จะต้องทำความเข้าใจและคำนึงถึงในการวางกลยุทธ์การลงทุน เพราะมันหมายถึงต้นทุนที่ลดลงไปเรื่อยๆ ทุกวัน
ออปชั่นในฐานะเครื่องมือบริหารความเสี่ยง: เปรียบเสมือนการซื้อประกันพอร์ตลงทุน
หนึ่งในประโยชน์หลักของ ออปชั่น ที่ นักลงทุน ควรให้ความสำคัญคือความสามารถในการ บริหารความเสี่ยง ของ พอร์ตลงทุน ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะใน ตลาดผันผวน ที่คาดเดาทิศทางได้ยากและไม่แน่นอน
สมมติว่าคุณถือ หุ้น อยู่จำนวนหนึ่งและมี กำไร ที่น่าพอใจ แต่กังวลว่า ราคาหุ้น อาจปรับตัวลดลงในระยะสั้น ซึ่งจะทำให้ กำไร ของคุณหดหายไป การ ซื้อพุทออปชัน หุ้น ตัวนั้น เปรียบเสมือนการ ซื้อประกัน ให้กับ พอร์ตหุ้น ของคุณ
- คุณจะกำหนด ราคาใช้สิทธิ ที่คุณต้องการ “ป้องกัน” หรือ “ประกัน” ราคาหุ้น ไว้
- หาก ราคาหุ้น ลดลงต่ำกว่า ราคาใช้สิทธิ ที่คุณกำหนด คุณก็สามารถใช้ สิทธิ จาก พุทออปชัน เพื่อขาย หุ้น ในราคาที่กำหนดไว้ได้ ทำให้คุณจำกัด ขาดทุน ได้ ไม่ว่า ราคาหุ้น จะร่วงลงไปเท่าใดก็ตาม
- ความเสี่ยง สูงสุดของคุณในฐานะ ผู้ซื้อพุทออปชัน คือ ค่าพรีเมี่ยม ที่จ่ายไปเท่านั้น นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ ออปชั่น เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับการป้องกัน ความเสี่ยง โดยที่ เงินลงทุน ของคุณไม่ได้ผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของ ราคาหุ้น โดยตรง
กลยุทธ์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่ต้องการปกป้องมูลค่า พอร์ตลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องขาย หุ้น ที่ถืออยู่ ซึ่งอาจส่งผลให้พลาดโอกาสในการทำ กำไร หาก ราคาหุ้น กลับตัวขึ้นในภายหลังอย่างรวดเร็ว
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส: กลยุทธ์เก็งกำไรและลดต้นทุนด้วยออปชั่น
นอกจากการ บริหารความเสี่ยง แล้ว ออปชั่น ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการ เก็งกำไร และสร้าง กำไร ในสภาวะตลาดที่หลากหลาย รวมถึงกลยุทธ์ในการลดต้นทุน หุ้น ที่คุณถืออยู่ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ พอร์ตลงทุน ของคุณ
-
เก็งกำไร ในตลาดขาขึ้นด้วย คอลออปชัน:
หากคุณมีความเชื่อมั่นว่า ราคาหุ้น หรือ ดัชนี จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ การซื้อ คอลออปชัน จะช่วยให้คุณสามารถทำ กำไร ได้อย่างรวดเร็วและด้วย เงินลงทุน ที่น้อยกว่าการซื้อ หุ้น โดยตรง ผู้ซื้อออปชั่น มี ความเสี่ยง จำกัดอยู่แค่ ค่าพรีเมี่ยม ที่จ่ายไปเท่านั้น แต่มีโอกาสทำ กำไร ได้ไม่จำกัดตามทิศทางของ ราคา สินทรัพย์อ้างอิง ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-
เก็งกำไร ในตลาดขาลงด้วย พุทออปชัน:
ในทางกลับกัน หากคุณคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับตัวลง การซื้อ พุทออปชัน เปิดโอกาสให้คุณสร้าง กำไร ได้จากการลดลงของ ราคา สินทรัพย์อ้างอิง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมี สินทรัพย์อ้างอิง นั้นอยู่ในมือเลย ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในตลาดขาลงที่โดยปกติแล้วนักลงทุนทั่วไปมักจะทำได้ยากและจำกัด
-
กลยุทธ์ “หนีดอย” และลดต้นทุน:
สำหรับนักลงทุนที่ติด หุ้น หรือมี หุ้น ที่มีต้นทุนสูง (ติด ดอย) ออปชั่น ยังสามารถนำมาปรับใช้เพื่อลดต้นทุนได้ เช่น การขาย คอลออปชัน (Covered Call) หากคุณมี หุ้น อยู่ในมือและคิดว่า ราคาหุ้น จะไม่ปรับตัวขึ้นไปมากนัก หรืออยู่ในช่วงพักตัว คุณสามารถขาย คอลออปชัน เพื่อรับ ค่าพรีเมี่ยม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของ หุ้น ที่คุณถืออยู่ได้ แม้ว่า หุ้น จะไม่ขยับ หรือขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย คุณก็ยังได้ ค่าพรีเมี่ยม เป็นรายได้เสริม
ความยืดหยุ่นของ ออปชั่น ทำให้เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ นักลงทุน ที่ต้องการสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อนและปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะ ตลาดผันผวน อย่างไรก็ตาม ทุกโอกาสในการทำ กำไร ก็มาพร้อมกับความจำเป็นในการศึกษาและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงกลไกและ ความเสี่ยง ที่เกี่ยวข้อง
เปรียบเทียบออปชั่นกับฟิวเจอร์ส: เลือกเครื่องมือที่ใช่ในสถานการณ์ที่ต่าง
ออปชั่น และ ฟิวเจอร์ส ต่างก็เป็น อนุพันธ์ ทางการเงินที่ ซื้อขาย ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX แต่มีความแตกต่างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งส่งผลต่อ ความเสี่ยง และกลยุทธ์การลงทุนที่คุณจะใช้
คุณสมบัติ | ออปชั่น (Options) | ฟิวเจอร์ส (Futures) |
---|---|---|
ภาระผูกพัน | ผู้ซื้อออปชั่น มี สิทธิ ที่จะใช้หรือไม่ใช้ สัญญา ก็ได้ แต่ ผู้ขายออปชั่น มีภาระผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตาม สัญญา หาก ผู้ซื้อ ใช้ สิทธิ | ทั้ง ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย มีภาระผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตาม สัญญา เมื่อถึงวันครบกำหนด ไม่มีทางเลือกในการไม่ปฏิบัติตาม |
การชำระเงินล่วงหน้า | ผู้ซื้อออปชั่น จ่าย ค่าพรีเมี่ยม ให้แก่ ผู้ขาย เป็นค่าตอบแทนสำหรับ สิทธิ นั้น | ไม่มีการชำระเงินล่วงหน้าเป็น ค่าพรีเมี่ยม แต่ต้องวาง เงินประกัน (Margin) เพื่อเป็น หลักประกัน การปฏิบัติตาม สัญญา ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนทุกวันตามราคาตลาด |
ความเสี่ยง ของ ผู้ซื้อ | จำกัดอยู่แค่ ค่าพรีเมี่ยม ที่จ่ายไปเท่านั้น (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น) ไม่สามารถ ขาดทุน ได้มากกว่าที่จ่ายไป | ความเสี่ยง ไม่จำกัด อาจ ขาดทุน ได้มากกว่า เงินประกัน ที่วางไว้ หากราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับทิศทางที่คุณคาดการณ์ |
โอกาสทำ กำไร | สำหรับ ผู้ซื้อออปชั่น: ไม่จำกัด (สำหรับ ผู้ขายออปชั่น: จำกัดแค่ ค่าพรีเมี่ยม ที่ได้รับ) | ไม่จำกัด ทั้ง ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย ขึ้นอยู่กับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา |
การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือก อนุพันธ์ ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และระดับการยอมรับ ความเสี่ยง ของคุณ หากคุณต้องการ ความเสี่ยง ที่จำกัดและมีทางเลือกในการไม่ใช้ สิทธิ ออปชั่น อาจเป็นคำตอบ แต่หากคุณพร้อมรับ ความเสี่ยง ที่สูงขึ้นเพื่อโอกาสทำ กำไร ที่ไม่จำกัด ฟิวเจอร์ส ก็อาจตอบโจทย์มากกว่า
“Options Wizard”: ผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ใน TFEX
การลงทุนใน ออปชั่น อาจดูซับซ้อนในตอนแรก โดยเฉพาะสำหรับ นักลงทุน มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษา แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดความซับซ้อนนี้ให้ง่ายขึ้น นั่นคือ “Options Wizard” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดย Settrade ร่วมกับ TFEX เพื่อช่วยให้ นักลงทุน สามารถเลือกและเข้าใจการ ซื้อขายออปชั่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
Options Wizard ทำหน้าที่เหมือนผู้แนะนำส่วนตัวของคุณในการเลือก ออปชั่น ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ มันจะแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด เช่น:
- มูลค่าเงินลงทุน: คุณจะต้องใช้ เงินลงทุน เท่าไหร่ในการ ซื้อ ออปชั่น รุ่นนั้นๆ เพื่อให้คุณสามารถจัดการงบประมาณได้อย่างเหมาะสม
- จุดคุ้มทุน: ราคา สินทรัพย์อ้างอิง ต้องไปถึงเท่าไหร่ คุณถึงจะเริ่มทำ กำไร จากการลงทุนใน ออปชั่น นั้น ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนการเทรด
- ผลตอบแทนที่คาดหวัง: โอกาสในการทำ กำไร สูงสุด หรือ ขาดทุน สูงสุดภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นไปได้ เพื่อให้คุณประเมิน ความเสี่ยง และ ผลตอบแทน ได้อย่างครอบคลุม
การใช้ Options Wizard ช่วยให้ นักลงทุน มือใหม่ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณซับซ้อน และสามารถเห็นภาพรวมของ ความเสี่ยง และ ผลตอบแทน ที่คาดหวังได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการลดอุปสรรคในการเข้าถึง ออปชั่น และทำให้ นักลงทุน สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และเริ่มต้นการเทรด ออปชั่น ได้อย่างราบรื่น
หัวใจสำคัญของการเทรดออปชั่น: ความผันผวนและปัจจัยที่ควรรู้
ความผันผวน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อ ราคาออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อ มูลค่าตามเวลา ยิ่ง สินทรัพย์อ้างอิง มี ความผันผวน สูงเท่าไหร่ ค่าพรีเมี่ยม ของ ออปชั่น ก็มักจะสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะโอกาสที่ ราคา จะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่สร้าง กำไร ให้แก่ ผู้ซื้อออปชั่น ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจาก ความผันผวน แล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อ ราคาออปชั่น ได้แก่:
- ราคา สินทรัพย์อ้างอิง (หุ้น, ดัชนี): เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สุดที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ มูลค่าที่แท้จริง ของ ออปชั่น
- ราคาใช้สิทธิ: ราคา ที่ระบุใน สัญญา ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่า ออปชั่น จะมี กำไร หรือ ขาดทุน เมื่อถึงเวลาใช้ สิทธิ
- ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุ: ยิ่งเหลือนาน มูลค่าตามเวลา ยิ่งสูง เพราะมีโอกาสที่ ราคา จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการมากขึ้น
- อัตราดอกเบี้ย: มีผลกระทบเล็กน้อยต่อ ราคาออปชั่น โดยทั่วไปอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเพิ่ม ราคา คอลออปชัน และลด ราคา พุทออปชัน
- เงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ: หาก สินทรัพย์อ้างอิง มีการจ่ายเงินปันผล อาจส่งผลให้ ราคา คอลออปชัน ลดลง และ ราคา พุทออปชัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถประเมิน ค่าพรีเมี่ยม ของ ออปชั่น ได้อย่างถูกต้อง และวางแผนการเทรดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำ กำไร และ บริหารความเสี่ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพใน ตลาดผันผวน
วางแผนกลยุทธ์ออปชั่น: เริ่มต้นอย่างไรให้มั่นใจในตลาด TFEX
สำหรับ นักลงทุน ที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่โลกของ ออปชั่น ใน TFEX การวางแผนกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญ เริ่มต้นด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์การลงทุนของคุณให้ชัดเจน คุณต้องการใช้ ออปชั่น เพื่อ บริหารความเสี่ยง เก็งกำไร หรือลดต้นทุน หุ้น ที่ถืออยู่?
เมื่อกำหนดวัตถุประสงค์แล้ว ให้พิจารณาสิ่งเหล่านี้อย่างรอบคอบ:
- สินทรัพย์อ้างอิง ที่คุณสนใจ: เช่น SET50 Index Options ที่เป็นที่นิยม ซึ่งอ้างอิงกับ ดัชนี SET50
- ทิศทางของตลาดที่คุณคาดการณ์: ตลาดขาขึ้น (เน้น คอลออปชัน) ตลาดขาลง (เน้น พุทออปชัน) หรือตลาด Sideways (อาจพิจารณากลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น)
- ระดับ ความเสี่ยง ที่ยอมรับได้: ผู้ซื้อออปชั่น มี ความเสี่ยง จำกัด แต่ ผู้ขายออปชั่น มี ความเสี่ยง สูงกว่ามากหากไม่ บริหารความเสี่ยง ได้ดีพอ
- กรอบเวลาการลงทุน: ระยะสั้นหรือระยะยาว เพราะมีผลต่อ มูลค่าตามเวลา ที่ลดลงทุกวัน
การฝึกฝนผ่านบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนเริ่มต้นด้วยเงินจริงเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มและกลไกการ ซื้อขาย โดยไม่ต้อง ความเสี่ยง เงินทุน และอย่าลืมใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออย่าง Options Wizard เพื่อช่วยในการตัดสินใจและประเมินสถานการณ์
คำเตือนและแนวทางการลงทุนอย่างมีวินัยในตลาดออปชั่น
แม้ว่า ออปชั่น จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีประโยชน์หลากหลาย แต่ก็มีความซับซ้อนและ ความเสี่ยง สูงเช่นกัน ผู้ลงทุน ควรตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น:
- ความเสี่ยง ในการ ขาดทุน สูง: สำหรับ ผู้ซื้อออปชั่น แม้ ความเสี่ยง จะจำกัดอยู่ที่ ค่าพรีเมี่ยม ที่จ่ายไป แต่หาก ราคา สินทรัพย์อ้างอิง ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และไม่ใช้ สิทธิ ค่าพรีเมี่ยม นั้นก็จะเสียไปทั้งหมด สำหรับ ผู้ขายออปชั่น ความเสี่ยง อาจไม่จำกัดหากไม่ บริหารความเสี่ยง ให้ดีพอ
- ความซับซ้อนของกลยุทธ์: การใช้ ออปชั่น ในกลยุทธ์ที่ซับซ้อนต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหลายมิติ ไม่ใช่แค่การคาดเดาทิศทางราคาเท่านั้น
- ผลกระทบจาก มูลค่าตามเวลา: มูลค่าตามเวลา ที่ลดลงเรื่อยๆ (Time Decay) เป็นสิ่งที่ ผู้ซื้อออปชั่น ต้องเผชิญ ซึ่งเป็นแรงกดดันให้ต้องคาดการณ์ทิศทางและจังหวะเวลาอย่างแม่นยำ
เราขอเน้นย้ำว่า นักลงทุน ทุกคนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เข้าร่วมสัมมนา หรือปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนตัดสินใจลงทุนใน ออปชั่น เสมอ การมีวินัยในการลงทุน การกำหนด จุดคุ้มทุน และจุด ขาดทุน ที่ชัดเจน จะช่วยให้คุณสามารถ บริหารความเสี่ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพและอยู่รอดใน ตลาดผันผวน ได้อย่างยั่งยืน และทำ กำไร ได้ตามที่คาดหวัง
สรุป: ออปชั่นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ด้วยความเข้าใจและกลยุทธ์ที่รอบคอบ
ออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถตอบโจทย์วัตถุประสงค์การลงทุนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการ บริหารความเสี่ยง ของ พอร์ตลงทุน การ เก็งกำไร ในทุกสภาวะตลาด หรือการลดต้นทุน หุ้น ที่ถืออยู่ การทำความเข้าใจในแต่ละประเภทของ ออปชั่น กลไกของ ค่าพรีเมี่ยม ที่ประกอบด้วย มูลค่าที่แท้จริง และ มูลค่าตามเวลา รวมถึงความแตกต่างกับ ฟิวเจอร์ส เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการประสบความสำเร็จในการเทรด อนุพันธ์ ประเภทนี้
นอกจากนี้ เครื่องมืออย่าง Options Wizard ที่พัฒนาขึ้นมายังช่วยลดความซับซ้อนและทำให้ นักลงทุน เข้าถึง ออปชั่น ได้ง่ายขึ้นและมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น การลงทุนใน ออปชั่น นั้นมีความซับซ้อนและมี ความเสี่ยง สูง ผู้ลงทุน จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้ และมีวินัยในการลงทุนอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก ออปชั่น ได้อย่างเต็มที่ และ บริหารจัดการความเสี่ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนเส้นทางสู่ กำไร ที่ยั่งยืนใน ตลาดผันผวน ของ TFEX
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับออปชั่น คือ
Q:ออปชั่นคืออะไร?
A:ออปชั่นคือสัญญาที่ให้สิทธิในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในอนาคต โดยมีค่าพรีเมี่ยมที่ผู้ซื้อจ่ายเพื่อซื้อสิทธิ์นี้
Q:การใช้พุทออปชันมีประโยชน์อย่างไร?
A:การใช้พุทออปชันช่วยในการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยให้สิทธิ์ในการขายสินทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
Q:กลยุทธ์ที่ดีสำหรับการลงทุนในออปชั่นคืออะไร?
A:ควรกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เช่น การเก็งกำไรหรือการบริหารความเสี่ยง และเข้าใจในค่าพรีเมี่ยมและตัวแปรที่มีผลต่อราคาออปชั่นด้วย