ปี 2025 นี้ การเลือกโบรกเกอร์ Copy Trading ในประเทศไทยทำไมถึงน่าสนใจ?
สำหรับนักลงทุนชาวไทย โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นหรือคนที่ไม่มีเวลาจับจ้องหน้าจอตลอดทั้งวัน การซื้อขายฟอเร็กซ์อาจดูซับซ้อนและต้องใช้เวลาเรียนรู้สูง แต่ด้วยเทคโนโลยีอย่าง Copy Trading หรือการคัดลอกการเทรด ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลไกนี้ทำให้คุณสามารถเข้าถึงโอกาสทำกำไรจากตลาดได้ โดยไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์กราฟเอง เพียงแค่คัดลอกกลยุทธ์ของเทรดเดอร์มืออาชีพแบบอัตโนมัติ
ความนิยมของ Copy Trading ในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเพราะความสะดวก แต่ยังเปิดช่องทางให้สร้างรายได้แบบ Passive Income ได้จริง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การเลือก Master Trader ที่ดีเท่านั้น แต่เริ่มต้นตั้งแต่การเลือก โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีระบบ Copy Trading ที่เสถียร ปลอดภัย และเหมาะกับนักลงทุนไทย บทความนี้อัปเดตข้อมูลล่าสุดปี 2025 เพื่อช่วยคุณเปรียบเทียบโบรกเกอร์ชั้นนำ พร้อมวิธีเลือกเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพ และเคล็ดลับบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

Copy Trading คืออะไร และทำงานอย่างไร?
Copy Trading คือระบบที่ทำให้คุณ หรือที่เรียกว่า “ผู้คัดลอก” สามารถเชื่อมต่อบัญชีเทรดของตัวเองกับบัญชีของเทรดเดอร์ประสบการณ์สูง หรือที่เรียกว่า “Master Trader” ได้โดยตรง เมื่อเทรดเดอร์ต้นแบบเปิดหรือปิดออเดอร์ ระบบจะทำการคัดลอกคำสั่งเหล่านั้นไปยังบัญชีของคุณทันที โดยปรับขนาดตามสัดส่วนเงินทุนที่คุณตั้งไว้
คุณจึงไม่ต้องนั่งเฝ้ากราฟหรือวิเคราะห์ข่าวเอง แต่ก็ยังคงเป็นผู้ควบคุมเงินทุนและระดับความเสี่ยงทั้งหมด
ขั้นตอนการทำงานของ Copy Trading มีดังนี้:
- เลือก Master Trader: คุณเปรียบเทียบข้อมูลผลตอบแทน อัตราการขาดทุนสูงสุด (Max Drawdown) และสไตล์การเทรด
- ตั้งค่าเงินทุน: กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการใช้ในการคัดลอกเทรดเดอร์คนนั้น
- เปิดระบบคัดลอก: เมื่อ Master Trader ทำการเทรด ระบบจะคัดลอกคำสั่งโดยอัตโนมัติ
- รับผลลัพธ์: กำไรหรือขาดทุนจะสะท้อนเข้าบัญชีคุณทันที
หลายคนอาจสับสนระหว่าง Copy Trading กับ Social Trading ความแตกต่างคือ Social Trading มักเน้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์กลยุทธ์ หรือดูว่าใครกำลังเทรดอะไร ขณะที่ Copy Trading คือการลงมือทำจริง โดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับเทรดเดอร์ต้นแบบ
จัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ Copy Trading ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ เราคัดเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ แพลตฟอร์มใช้งานง่าย และเหมาะกับนักลงทุนไทย โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ เช่น ความปลอดภัย ค่าธรรมเนียม ระบบการคัดลอก และการสนับสนุนภาษาไทย
โบรกเกอร์ | เงินฝากขั้นต่ำ | แพลตฟอร์ม Copy Trading | หน่วยงานกำกับดูแล |
---|---|---|---|
Moneta Markets | $50 | Moneta Markets App Copy Trading | ASIC, FSCA |
Pepperstone | $200 | cTrader Copy, Myfxbook, DupliTrade | ASIC, FCA, CySEC |
IC Markets | $200 | cTrader Copy, ZuluTrade | ASIC, CySEC |
Tickmill | $100 | Myfxbook Autotrade | FCA, CySEC, FSCA |
Axi | $0 | Axi Copy Trading | ASIC, FCA |
1. Moneta Markets – แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย พร้อม Master Trader คุณภาพสูง
Moneta Markets กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในปี 2025 โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น ด้วยแพลตฟอร์ม Moneta Markets App Copy Trading ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนมือถือโดยเฉพาะ ทำให้การคัดลอกการเทรดเป็นเรื่องง่าย แม้ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค
ข้อดีที่ทำให้ Moneta Markets โดดเด่น:
- ใช้งานง่าย: หน้าจอแอปพลิเคชันเรียบง่าย ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถค้นหา Master Trader และเริ่มคัดลอกได้ทันที
- ข้อมูลวิเคราะห์ครบ: แสดงสถิติสำคัญ เช่น ผลตอบแทนรวม อัตรา Max Drawdown ความเสี่ยง และประวัติการเทรดอย่างโปร่งใส
- รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย: รองรับ Thai QR Payment ทำให้การโอนเงินเข้า-ออกเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องผ่านธนาคารกลาง
- ความน่าเชื่อถือสูง: ได้รับการกำกับดูแลจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับนานาชาติที่มีมาตรฐานเข้มงวด
ด้วยการผสมผสานระหว่างความง่ายในการใช้งาน ระบบที่ทันสมัย และการสนับสนุนที่เข้าใจนักลงทุนไทย Moneta Markets จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นในโลก Copy Trading อย่างมั่นใจ

2. Pepperstone – ตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ระดับกลาง
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงในด้านความเสถียรและคุณภาพของแพลตฟอร์ม จุดเด่นของโบรกเกอร์นี้คือการเปิดกว้างให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับบริการ Copy Trading ภายนอกได้หลายตัว เช่น cTrader Copy, Myfxbook Autotrade และ DupliTrade
เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว และต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกเครื่องมือที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบระบบวิเคราะห์ขั้นสูง หรือต้องการเข้าถึง Master Trader จากชุมชนขนาดใหญ่
3. IC Markets – เลือกสำหรับผู้ที่เน้นต้นทุนต่ำ
IC Markets มีชื่อเสียงในเรื่องสเปรดต่ำ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ โดยเฉพาะใน Copy Trading ที่คำสั่งซื้อขายอาจเกิดขึ้นบ่อย ค่าสเปรดที่ต่ำช่วยลดต้นทุนสะสม และเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว
แพลตฟอร์ม cTrader Copy ที่รองรับโดย IC Markets เป็นที่รู้จักกันดีในด้านความเสถียรและฟังก์ชันการจัดการพอร์ตที่ล้ำสมัย ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมความเสี่ยงและวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้อย่างละเอียด
4. Tickmill – เหมาะกับผู้ที่ชอบ Myfxbook
Tickmill เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ที่ชื่นชอบ Myfxbook Autotrade ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยฐาน Master Trader ที่หลากหลาย และระบบการจัดอันดับที่โปร่งใส
นอกจากนี้ Tickmill ยังมีค่าคอมมิชชั่นต่ำ และเงื่อนไขการเทรดที่ดี ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า
5. Axi – เริ่มต้นได้แม้ทุนน้อย
Axi เสนอแพลตฟอร์ม Copy Trading ของตัวเองที่ใช้งานง่าย และมีการคัดเลือก Master Trader ที่มีคุณภาพเข้ามาในระบบ ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนคือ ไม่มีข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ ทำให้ผู้ที่มีทุนน้อยสามารถทดลองใช้ระบบได้ทันที
เหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ต้องลงทุนมากตั้งแต่แรก
เช็กลิสต์ 7 ข้อ: วิธีเลือกโบรกเกอร์ Copy Trading สำหรับคนไทย
การเลือกโบรกเกอร์ที่ดี ต้องดูให้ครอบคลุมทุกมุม ไม่ใช่แค่ดูจากชื่อเสียงหรือโปรโมชัน ใช้เช็กลิสต์นี้เพื่อตัดสินใจอย่างมั่นใจ
การกำกับดูแล (Regulation)
ความปลอดภัยของเงินทุนต้องมาก่อน ควรเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานชั้นนำ เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร) หรือ CySEC (ไซปรัส) ซึ่งบังคับให้โบรกเกอร์ต้องแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท และปฏิบัติตามมาตรฐานความโปร่งใสสูง ทาง ก.ล.ต. ของไทย เองก็เคยเตือนถึงความเสี่ยงจากโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาต
ค่าธรรมเนียมและสเปรด (Fees & Spreads)
โครงสร้างค่าใช้จ่ายของโบรกเกอร์มีหลายส่วน ได้แก่ สเปรด (ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย), ค่าคอมมิชชั่น (ในบัญชี ECN), และค่า Performance Fee ที่ต้องจ่ายให้ Master Trader (โดยทั่วไป 10–30%) ยิ่งค่าใช้จ่ายต่ำ ยิ่งเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว
แพลตฟอร์ม Copy Trading (Platform)
แพลตฟอร์มควรมีหน้าตาใช้งานง่าย เสถียร และให้ข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจ ควรมีฟังก์ชันค้นหาและกรอง Master Trader ตามสไตล์การเทรด, ผลตอบแทน, และความเสี่ยง รวมถึงการแสดงผลสถิติแบบกราฟเพื่อดูแนวโน้มได้ชัดเจน
คุณภาพของ Master Traders
จำนวน Master Trader ที่มีให้เลือกเยอะ ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป สิ่งสำคัญคือ “คุณภาพ” ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีระบบคัดกรองเทรดเดอร์ต้นแบบอย่างเข้มงวด และมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีผลลัพธ์สม่ำเสมอ โปร่งใส และมีประวัติการเทรดยาวนาน
เครื่องมือจัดการความเสี่ยง (Risk Management Tools)
แพลตฟอร์มที่ดีต้องให้คุณควบคุมความเสี่ยงได้ เช่น ตั้งค่า Stop Loss รวมทั้งพอร์ต, จำกัดขนาดล็อตสูงสุด, หรือตั้งค่า Max Drawdown ที่ยอมรับได้ เพื่อป้องกันการสูญเสียมากเกินไปในช่วงตลาดผันผวน
การฝาก-ถอนเงินในไทย (Local Deposits/Withdrawals)
การเลือกโบรกเกอร์ที่รองรับการโอนผ่านธนาคารไทย เช่น QR Payment หรือ Internet Banking จะช่วยให้คุณทำธุรกรรมได้สะดวก รวดเร็ว และลดค่าธรรมเนียมจากการแปลงสกุลเงิน
การสนับสนุนลูกค้า (Customer Support)
ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีทีมสนับสนุนที่พูดภาษาไทยได้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ จะช่วยให้คุณอุ่นใจและแก้ไขปัญหาได้ทันที
คู่มือเริ่มต้น Copy Trading ทีละขั้นตอน
ถ้าคุณพร้อมแล้ว นี่คือ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มต้น:
- เปิดบัญชีจริง: เลือกโบรกเกอร์ที่คุณเชื่อถือ และทำการสมัคร โดยต้องผ่านขั้นตอนยืนยันตัวตน (KYC)
- ฝากเงินเข้าบัญชี: ใช้ช่องทางที่สะดวก เช่น ผ่านแอปธนาคารหรือ QR Code
- เข้าสู่แพลตฟอร์ม Copy Trading: ล็อกอินและไปยังส่วนของ Copy Trading ซึ่งอาจอยู่ในแอปหรือเว็บไซต์
- เลือก Master Trader: ใช้ฟิลเตอร์เพื่อค้นหาเทรดเดอร์ที่มีสไตล์ตรงกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ วิเคราะห์ผลงานอย่างละเอียด
- ตั้งค่าการคัดลอก: กำหนดเงินทุน และตั้งค่าความเสี่ยง เช่น Stop Loss จากนั้นยืนยันเพื่อเริ่มต้น
ข้อดี-ข้อเสีย และความเสี่ยงของ Copy Trading ที่ต้องรู้
ก่อนเริ่มลงทุน ควรเข้าใจทั้งด้านบวกและด้านลบของ Copy Trading เพื่อตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ข้อดี (Pros) | ข้อเสียและความเสี่ยง (Cons & Risks) |
---|---|
ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเฝ้ากราฟหรือวิเคราะห์ข่าวเอง | ผลลัพธ์ในอดีตไม่การันตีอนาคต: แม้ Master Trader จะทำกำไรดีในอดีต แต่ตลาดเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา |
เหมาะสำหรับมือใหม่: เรียนรู้จากมืออาชีพโดยไม่ต้องมีพื้นฐาน | ต้องเผชิญความผันผวน: คุณยังคงเสี่ยงกับความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์ |
เข้าถึงกลยุทธ์ระดับมืออาชีพ: ได้ใช้กลยุทธ์ที่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะพัฒนาได้ | มีค่าใช้จ่ายแฝง: เช่น Performance Fee ที่ต้องจ่ายให้ Master Trader |
ลดอารมณ์ส่วนตัว: ลดความผิดพลาดจากความกลัวหรือโลภ เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์ต้นแบบ | ควบคุมได้จำกัด: คุณไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจการเทรดเองทั้งหมด |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Copy trade ดีไหม? เหมาะกับใคร?
Copy Trading เป็นเครื่องมือที่ดีมากสำหรับ:
- มือใหม่ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ตลาด แต่อยากเริ่มต้นลงทุนในฟอเร็กซ์
- ผู้ที่มีงานประจำ หรือไม่มีเวลาว่างในการติดตามข่าวสารและกราฟราคาตลอดวัน
- ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง โดยแบ่งเงินทุนส่วนหนึ่งมาให้มืออาชีพบริหาร
อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมาะกับคนที่ไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้เลย หรือต้องการควบคุมการเทรดทุกอย่างด้วยตนเอง
การทำ Copy Trading ในประเทศไทยถูกกฎหมายหรือไม่?
ปัจจุบัน การเทรดฟอเร็กซ์ในประเทศไทยยังอยู่ในพื้นที่สีเทา ไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรง แต่ก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย การปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุดคือการเลือกใช้บริการผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ (เช่น ASIC, FCA) การทำเช่นนี้จะช่วยคุ้มครองเงินทุนของคุณได้ดีกว่าการใช้บริการโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาต
ต้องใช้เงินทุนขั้นต่ำเท่าไหร่ในการเริ่ม Copy Trading?
จำนวนเงินทุนขั้นต่ำจะแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์ โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ประมาณ $50 – $200 (ประมาณ 1,800 – 7,200 บาท) โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets มีเงินฝากขั้นต่ำที่เข้าถึงง่ายเพียง $50 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองด้วยเงินทุนไม่สูงมาก
จะเลือก Master Trader ที่ดีได้อย่างไร?
ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ผลกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว:
- ประวัติการเทรด: เลือกผู้ที่มีประวัติการเทรดอย่างน้อย 6-12 เดือน
- ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ: มองหากราฟเงินทุนที่เติบโตอย่างมั่นคง ไม่ใช่แบบผันผวนสูง
- Max Drawdown ต่ำ: ค่านี้บ่งบอกถึงการขาดทุนสูงสุดที่เคยเกิดขึ้น ยิ่งต่ำยิ่งดี แสดงว่ามีการบริหารความเสี่ยงที่ดี
- จำนวนผู้ติดตาม: จำนวนผู้ติดตามที่เยอะและมีเงินทุนจริงที่คัดลอกอยู่ เป็นเครื่องบ่งชี้ความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง
แพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ดีอย่าง Moneta Markets จะช่วยให้คุณเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
ฉันสามารถหยุดคัดลอกการเทรดเมื่อไหร่ก็ได้ใช่หรือไม่?
ใช่ คุณสามารถหยุดการคัดลอก Master Trader คนใดคนหนึ่งได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ เมื่อคุณสั่งหยุด ออเดอร์ที่เปิดอยู่จะถูกจัดการตามนโยบายของแพลตฟอร์ม (บางที่อาจจะปิดทันที หรือรอให้ Master Trader ปิด)
โบรกเกอร์อย่าง XM, Exness หรือ Forex4you มี Copy Trade หรือไม่?
โบรกเกอร์เหล่านี้มีบริการที่คล้ายคลึงกัน:
- Exness มีบริการ Social Trading ของตัวเอง
- XM ไม่มีระบบ Copy Trading โดยตรง แต่เทรดเดอร์สามารถใช้บริการสัญญาณเทรดผ่านแพลตฟอร์ม MT4/MT5 ได้
- Forex4you มีบริการที่เรียกว่า Share4you ซึ่งเป็นระบบ Copy Trading ของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตาม ความง่ายในการใช้งานและคุณภาพของ Master Trader อาจแตกต่างกันไป จึงควรเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง
ความแตกต่างระหว่าง Copy Trading กับการใช้ EA (Expert Advisor) คืออะไร?
Copy Trading คือการคัดลอกการตัดสินใจของ “มนุษย์” ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามสภาวะตลาดได้ ส่วน EA (Expert Advisor) คือโปรแกรมเทรดอัตโนมัติ (บอท) ที่ทำงานตามเงื่อนไขที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า ไม่มีความยืดหยุ่นเท่ามนุษย์ แต่ไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
หาก Master Trader ขาดทุน บัญชีของฉันจะขาดทุนด้วยใช่ไหม?
ใช่ ถูกต้อง นี่คือความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของ Copy Trading ผลกำไรและขาดทุนจะเกิดขึ้นในบัญชีของคุณตามสัดส่วนเดียวกับ Master Trader ดังนั้น หาก Master Trader ขาดทุน บัญชีของคุณก็จะขาดทุนเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการเลือก Master Trader ที่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดีจึงสำคัญอย่างยิ่ง
บทสรุป: โบรกเกอร์ Copy Trading ที่ดีที่สุดสำหรับคุณในปี 2025
การเลือก โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีระบบ Copy Trading ที่เหมาะสม คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ไม่มีโบรกเกอร์ใดที่เหมาะกับทุกคน แต่มีโบรกเกอร์ที่ “เหมาะกับคุณ” ที่สุด ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ งบประมาณ และเป้าหมาย
สรุปตามประเภทผู้ใช้:
- มือใหม่: Moneta Markets เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยแอปที่ใช้งานง่าย รองรับการโอนผ่านธนาคารไทย และมี Master Trader คุณภาพ
- เทรดเดอร์ระดับกลาง: Pepperstone เหมาะกับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและทางเลือกแพลตฟอร์มหลากหลาย
- ผู้ที่เน้นต้นทุนต่ำ: IC Markets มอบสเปรดต่ำและสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการคัดลอก
ก่อนลงทุนด้วยเงินจริง แนะนำให้เปิด บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อทดสอบระบบ และทดลองคัดลอก Master Trader ด้วยเงินจำลอง เพื่อสร้างความมั่นใจ
เปิดบัญชีทดลองกับ Moneta Markets เพื่อทดลองแพลตฟอร์มได้ที่นี่