ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์จริงหรือ?
คำถามหนึ่งที่ผู้เริ่มต้นในตลาด Forex มักถามกันบ่อยที่สุดคือ “ตลาด Forex เปิดกี่โมง?” หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าตลาดแห่งนี้เปิดให้ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นความจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกชั่วโมงจะมีกิจกรรมเท่ากัน ความจริงก็คือ ตลาด Forex ไม่มีศูนย์กลางการซื้อขายเดียวเหมือนตลาดหุ้นทั่วไป แต่เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงศูนย์การเงินหลักทั่วโลกเข้าด้วยกัน ทำให้การซื้อขายหมุนเวียนตามเขตเวลาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
เมื่อตลาดแห่งหนึ่งปิด ตลาดอีกแห่งก็เปิดขึ้นทันที ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาไม่หยุดนิ่ง แม้จะมีความเงียบในบางช่วง แต่โดยรวมถือว่าเป็นตลาดที่ “ไม่เคยหลับ” การเข้าใจช่วงเวลาที่แต่ละศูนย์การเงินเปิดทำการ จึงไม่ใช่แค่เรื่องตารางเวลา แต่เป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์การเทรด เพราะแต่ละช่วงมีลักษณะเฉพาะทั้งในด้านสภาพคล่อง ความผันผวน และพฤติกรรมของคู่เงินต่าง ๆ

ทำความรู้จัก 4 ช่วงเวลาตลาด Forex หลัก (Forex Trading Sessions)
ตลาด Forex ทั่วโลกถูกแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาหลัก ตามศูนย์กลางการเงินสำคัญที่ขับเคลื่อนปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน การหมุนเวียนของช่วงเวลาเหล่านี้ช่วยให้ผู้เทรดจากทุกมุมโลกสามารถเข้าร่วมได้ตามความสะดวก และยังส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของการเทรดในแต่ละช่วง การรู้ว่าช่วงไหนเหมาะกับสไตล์ของคุณ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ
1. ตลาดซิดนีย์ (Sydney Session)
เวลาเปิด-ปิด (เวลาไทย GMT+7): 05:00 น. – 14:00 น.
ตลาดซิดนีย์เปิดเป็นแห่งแรกในรอบสัปดาห์ ตรงกับเช้าวันจันทร์ตามเวลาประเทศไทย ช่วงนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเทรดในแต่ละสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายยังไม่คึกคักมากนัก เพราะตลาดอื่น ๆ ยังไม่ได้เปิดเต็มที่ ทำให้ความผันผวนโดยรวมค่อนข้างต่ำ ซึ่งเหมาะกับนักเทรดที่ต้องการจับจังหวะการเคลื่อนไหวแบบช้า ๆ เน้นวิเคราะห์แนวโน้มโดยไม่ต้องรีบตัดสินใจ
คู่เงินที่น่าสนใจ: AUD/USD, NZD/USD และคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวเศรษฐกิจจากออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ประกาศออกมา จะส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของราคา
2. ตลาดโตเกียว (Tokyo Session) หรือ Asian Session
เวลาเปิด-ปิด (เวลาไทย GMT+7): 06:00 น. – 15:00 น.
ตลาดโตเกียวเริ่มขึ้นหลังจากซิดนีย์เพียงชั่วโมงเดียว และถือเป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ช่วงนี้มักเรียกว่า “Asian Session” ซึ่งแม้จะไม่ได้มีปริมาณการซื้อขายเท่ากับยุโรปหรืออเมริกา แต่ก็มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวเศรษฐกิจสำคัญจากญี่ปุ่น จีน หรือออสเตรเลีย เช่น ตัวเลข GDP, อัตราดอกเบี้ย หรือความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ
คู่เงินที่น่าสนใจ: USD/JPY เป็นคู่เงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนี้ เนื่องจากเยนเป็นสกุลเงินหลักของภูมิภาค คู่เงินอื่น ๆ เช่น EUR/JPY และ GBP/JPY ก็มักมีการเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง ขณะที่ AUD/USD และ NZD/USD ก็ยังคงได้รับแรงขับเคลื่อนจากตลาดแปซิฟิก

3. ตลาดลอนดอน (London Session)
เวลาเปิด-ปิด (เวลาไทย GMT+7): 14:00 น. – 23:00 น.
เมื่อตลาดเอเชียเริ่มปิดตัว ตลาดลอนดอนก็เข้ามาเปิดฉากด้วยปริมาณการซื้อขายที่พุ่งสูงขึ้นอย่างทันที ด้วยตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลอนดอนจึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกที่เปิดทำการ ที่มักเกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงในหลายคู่เงิน
คู่เงินที่น่าสนใจ: EUR/USD, GBP/USD, USD/CHF และ USD/JPY ล้วนเป็นคู่เงินที่มีความผันผวนสูงในช่วงนี้ เพราะมีเม็ดเงินมหาศาลจากสถาบันการเงินยุโรปและนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามา ทำให้สเปรดแคบและมีโอกาสในการเข้าเทรดมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับ Day Trader ที่ต้องการจับการเคลื่อนไหวระยะสั้น
4. ตลาดนิวยอร์ก (New York Session)
เวลาเปิด-ปิด (เวลาไทย GMT+7): 19:00 น. – 04:00 น. (ของวันถัดไป)
ตลาดนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางการเงินที่สำคัญที่สุดของอเมริกา และเป็นแหล่งประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อตลาดโลกมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข Non-farm Payrolls, CPI หรือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ช่วงเวลานี้จึงมักเกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงในทุกคู่เงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐฯ
คู่เงินที่น่าสนใจ: ทุกคู่เงินที่มี USD เป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นคู่หลักหรือคู่รอง ต่างได้รับผลกระทบโดยตรงจากข่าวสารในช่วงนี้ โดยเฉพาะ EUR/USD และ GBP/USD ที่มักมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทันทีที่มีข่าวสำคัญออกมา
ช่วงเวลาทองคำ: ทำไมช่วงที่ตลาดทับซ้อนกัน (Overlaps) จึงสำคัญที่สุด?
แม้ตลาด Forex จะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่ “มีชีวิตชีวามากที่สุด” กลับไม่ใช่ช่วงที่ตลาดใดตลาดหนึ่งเปิดเพียงลำพัง แต่เป็นช่วงที่สองศูนย์การเงินใหญ่เปิดทำการพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า “Session Overlaps” ช่วงเวลานี้ทำให้ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้น สเปรดแคบลง และความผันผวนสูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดหลายคนรอคอย
ช่วงเวลาทับซ้อนที่สำคัญที่สุดมี 2 ช่วง:
- โตเกียว – ลอนดอน (14:00 น. – 15:00 น.): แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะตลาดเอเชียยังคงมีแรงซื้อ-ขายอยู่ ขณะที่นักลงทุนในยุโรปเริ่มเข้ามาวางตำแหน่ง ทำให้ราคาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับเยนและยูโร
- ลอนดอน – นิวยอร์ก (19:00 น. – 23:00 น.): นี่คือ “ช่วงเวลาทองคำ” ของตลาด Forex อย่างแท้จริง ศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งของโลกเปิดพร้อมกัน ทำให้ปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในวันนั้น ความผันผวนรุนแรง และมีโอกาสในการทำกำไรสูง ไม่ว่าจะเป็นนักเทรดแบบ Day Trading, Scalping หรือ Swing Trading ต่างก็ให้ความสำคัญกับช่วงนี้เป็นพิเศษ
นักเทรดมืออาชีพส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะโฟกัสกิจกรรมการเทรดไว้ในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่ตลาดมีสีสัน มีสัญญาณชัดเจน และมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการเข้า-ออกออเดอร์ได้อย่างราบรื่น

สรุปเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด Forex สำหรับคนไทย
เมื่อพิจารณาจากลักษณะของแต่ละช่วงเวลาและตารางชีวิตของคนไทย เราสามารถสรุปช่วงเวลาที่เหมาะกับนักเทรดในประเทศไทยได้ดังนี้:
- สำหรับนักเทรดที่ชอบความผันผวนสูงและสามารถเทรดช่วงค่ำได้: ช่วงเวลา 19:00 น. – 23:00 น. คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วง London-New York Overlap ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด และมีโอกาสในการทำกำไรจากข่าวหรือการเคลื่อนไหวของราคาอย่างต่อเนื่อง
- สำหรับนักเทรดที่ต้องการความนิ่ง หรือมีเวลาว่างในช่วงเช้า-บ่าย: ช่วงเวลา 06:00 น. – 15:00 น. (Asian Session) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ตลาดโดยไม่ต้องเผชิญกับความเร็วและความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะหากคุณสนใจคู่เงิน AUD, NZD หรือ JPY
- สำหรับผู้ที่เทรดคู่เงินเฉพาะทาง: ควรโฟกัสช่วงเวลาที่สกุลเงินนั้น ๆ มีบทบาทเด่น เช่น หากคุณเทรด EUR/JPY ควรให้ความสำคัญกับช่วงตลาดโตเกียวและลอนดอน เพราะทั้งสองสกุลเงินมีปริมาณการซื้อขายสูงในช่วงนี้
ทั้งนี้ หากคุณเป็นนักเทรดที่ใช้โบรกเกอร์ระดับโลกอย่าง Moneta Markets ซึ่งรองรับการซื้อขายในทุกช่วงเวลาและมีสภาพคล่องจากผู้ให้บริการระดับ Tier-1 คุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดในช่วงที่ตลาดคึกคัก เพราะสเปรดที่แคบและสัญญาณราคาที่แม่นยำจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น
ข้อควรระวัง: Daylight Saving Time (DST) กับเวลาเทรด Forex
ปัจจัยหนึ่งที่นักเทรดไทยมักมองข้าม คือ การเปลี่ยนแปลงของเวลาออมแสง (Daylight Saving Time – DST) ซึ่งประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือจะปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน เพื่อให้มีแสงสว่างยามเย็นมากขึ้น แม้ประเทศไทยจะไม่ใช้ DST แต่สิ่งนี้มีผลโดยตรงต่อเวลาเปิด-ปิดของตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก
ผลกระทบต่อการเทรดของนักลงทุนไทยคือ ช่วงเวลาเปิด-ปิดของตลาดใหญ่จะ “เลื่อนเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง” ตามเวลาประเทศไทย โดยปกติการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นดังนี้:
- สหรัฐอเมริกา (ตลาดนิวยอร์ก): เริ่มใช้ DST ประมาณวันอาทิตย์ที่สองของเดือนมีนาคม และสิ้นสุดในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายน
- ยุโรป (ตลาดลอนดอน): เริ่มใช้ DST ประมาณวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม และสิ้นสุดในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม
ดังนั้น ในช่วงประมาณมีนาคมถึงพฤศจิกายน เวลาเปิด-ปิดของตลาดลอนดอนและนิวยอร์กจะเปลี่ยนไป นักเทรดจึงควรตรวจสอบตารางเวลาอยู่เสมอ และปรับเวลาการตั้งค่า News Alert หรือ Auto Trading ให้สอดคล้อง เพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาสำคัญ หรือเข้าเทรดผิดช่วง
สรุปและตารางเวลาเปิดปิดตลาด Forex ตามเวลาประเทศไทย
เพื่อให้เข้าใจภาพรวมได้อย่างชัดเจน ด้านล่างนี้คือตารางสรุปเวลาเปิด-ปิดของตลาด Forex ทั้ง 4 แห่งตามเวลาประเทศไทย (GMT+7) พร้อมเปรียบเทียบระหว่างช่วงเวลาปกติและช่วง DST สำหรับนักเทรดที่ใช้แพลตฟอร์มจาก Moneta Markets การรู้จักตารางนี้จะช่วยให้คุณตั้งค่า Auto-Execution หรือใช้กลยุทธ์ตามข่าวได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
ตลาด (Session) | เวลาปกติ (ประมาณ พ.ย. – มี.ค.) | ช่วงเวลาออมแสง DST (ประมาณ มี.ค. – พ.ย.) |
---|---|---|
ซิดนีย์ | 05:00 น. – 14:00 น. | 04:00 น. – 13:00 น. (มีการปรับเวลา) |
โตเกียว | 06:00 น. – 15:00 น. | 06:00 น. – 15:00 น. (ไม่เปลี่ยนแปลง) |
ลอนดอน | 15:00 น. – 00:00 น. | 14:00 น. – 23:00 น. |
นิวยอร์ก | 20:00 น. – 05:00 น. | 19:00 น. – 04:00 น. |
Overlap ลอนดอน-นิวยอร์ก | 20:00 น. – 00:00 น. | 19:00 น. – 23:00 น. |
การเข้าใจว่า “ตลาด forex เปิด กี่ โมง” ไม่ใช่แค่เรื่องเวลา แต่คือการเข้าใจจังหวะชีวิตของตลาด ยิ่งคุณรู้ว่าช่วงไหนเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ คุณก็จะสามารถวางแผนบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการระดับสากลอย่าง Moneta Markets ที่รองรับการซื้อขายในทุกช่วงเวลา พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์และสภาพคล่องคุณภาพสูง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ตลาด Forex ปิดวันเสาร์-อาทิตย์เวลาไหนตามเวลาไทย?
ตามเวลาประเทศไทย ตลาด Forex จะปิดทำการเมื่อตลาดนิวยอร์กสิ้นสุดลงในเช้าวันเสาร์ เวลาประมาณ 04:00 น. (หรือ 05:00 น. ในช่วงเวลาปกติ) และจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในเช้าวันจันทร์ เวลาประมาณ 05:00 น. เมื่อตลาดซิดนีย์เริ่มทำการ
New York Session เปิดกี่โมงในประเทศไทย?
ตลาดนิวยอร์กเปิดเวลา 19:00 น. และปิดเวลา 04:00 น. ของวันถัดไป ตามเวลาประเทศไทย (ในช่วง Daylight Saving Time) และจะเลื่อนเป็น 20:00 น. – 05:00 น. ในช่วงเวลาปกติ
ช่วงเวลาไหนที่ตลาด Forex ผันผวนที่สุด?
ช่วงที่ผันผวนและมีสภาพคล่องสูงสุดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกัน (London-New York Overlap) ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 19:00 น. – 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
เทรด Forex ตอนกลางคืนดีหรือไม่?
ดีมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาตั้งแต่ 19:00 น. เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดใหญ่สองแห่งคือลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน ทำให้ตลาดมีความคึกคัก สภาพคล่องสูง และมีโอกาสในการเทรดมากที่สุดของวัน
Asian Session เหมาะกับการเทรดคู่เงินไหน?
ช่วง Asian Session (ตลาดโตเกียว) เหมาะสำหรับคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เช่น AUD/USD, NZD/USD และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) เช่น USD/JPY, EUR/JPY, และ GBP/JPY
ทำไม London Session ถึงสำคัญมาก?
เพราะลอนดอนคือศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามรายงานจาก Bank for International Settlements (BIS) ปริมาณการซื้อขายในลอนดอนนั้นสูงที่สุด ทำให้ช่วงเวลานี้มีสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายสูงสุดในแต่ละวัน ส่งผลให้สเปรดแคบลงและมีโอกาสในการเทรดที่ชัดเจน
เวลาออมแสง (Daylight Saving Time) มีผลกับตลาดไหนบ้าง?
มีผลโดยตรงกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดในยุโรป (ลอนดอน) และอเมริกาเหนือ (นิวยอร์ก) ซึ่งจะปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน เทรดเดอร์ในไทยจึงต้องปรับตารางเวลาเทรดของตนตามไปด้วย ส่วนตลาดในเอเชียและออสเตรเลีย (โตเกียว, ซิดนีย์) ก็มีการปรับเวลาของตนเองแต่มีผลกระทบน้อยกว่า
ถ้าเป็นมือใหม่ ควรเริ่มเทรดช่วงเวลาไหนดี?
สำหรับมือใหม่อาจจะลองเริ่มต้นจากช่วงตลาดโตเกียว (Asian Session) ในตอนเช้า (ประมาณ 06:00 น. – 14:00 น.) ซึ่งมีความผันผวนไม่สูงเท่าช่วงตลาดลอนดอน-นิวยอร์ก จะช่วยให้มีเวลาในการวิเคราะห์และตัดสินใจมากขึ้น เพื่อทำความคุ้นเคยกับตลาดก่อนที่จะเข้าไปเทรดในช่วงที่มีความผันผวนสูง