โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีโปรโมชั่นบ่อย: 5 โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2025

สารบัญ

บทนำ: ทำไมโปรโมชั่นจากโบรกเกอร์ Forex จึงสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ในปี 2025?

ในโลกของการเทรดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีทุนเพิ่มแม้เพียงนิดก็สามารถกลายเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะในตลาด Forex ที่เรื่องของเลเวอเรจและมาร์จิ้นคือหัวใจสำคัญ โปรโมชั่นจากโบรกเกอร์จึงไม่ใช่แค่ของแถม แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยยืดหยุ่นทางการเงิน ลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้กับเทรดเดอร์ได้จริง ยิ่งในปี 2025 ที่การแข่งขันในตลาดไทยทวีความเข้มข้นขึ้น โบรกเกอร์ต่างก็ต้องงัดไม้เด็ดเพื่อดึงดูดและรักษาลูกค้า โดยเฉพาะการให้โปรโมชั่นที่ต่อเนื่องและสร้างสรรค์

แต่ปัญหาคือ เทรดเดอร์จำนวนมากยังคงจดจ่ออยู่กับ “โบนัสต้อนรับ” ที่ดูดีเพียงแวบแรก ทั้งที่ความคุ้มค่าในระยะยาวไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขครั้งเดียวจบ แต่คือการที่โบรกเกอร์นั้นยังคงมอบสิ่งดีๆ ให้คุณอยู่เรื่อยๆ ทั้งในรูปแบบโบนัสซ้ำ โปรแกรมสะสมแต้ม หรือแม้แต่การแข่งขันที่สร้างแรงจูงใจ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกโบรกเกอร์ชั้นนำในประเทศไทย ที่ไม่ได้ให้แค่โบนัสแรกเข้า แต่มีโปรโมชั่นต่อเนื่องที่ช่วยยกระดับความสำเร็จของคุณได้ทั้งปี 2025

illustration of forex trading promotions

รู้จักโปรโมชั่น Forex ประเภทต่างๆ ที่คุณจะเจอในประเทศไทย

ก่อนจะตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ ควรมีความเข้าใจชัดเจนว่าแต่ละประเภทของโปรโมชั่นมีจุดประสงค์อย่างไร เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้ตรงกับสไตล์และเป้าหมายการเทรดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้น ทดลองกลยุทธ์ หรือเพิ่มผลตอบแทนระยะยาว

โบนัสต้อนรับ (Welcome Bonus)

นี่คือโปรโมชั่นที่พบได้ทั่วไปสำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ โดยปกติจะมอบเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดฝากครั้งแรก เช่น ฝาก 1,000 เหรียญ ได้รับโบนัสเพิ่ม 500 เหรียญ เป็นต้น ช่วยให้มีทุนเริ่มต้นมากขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตตั้งแต่วันแรก

โบนัสเงินฝาก (Deposit Bonus)

ต่างจากโบนัสต้อนรับที่มีเพียงครั้งแรก โบนัสเงินฝากนี้สามารถเกิดขึ้นได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นประจำเดือน เทศกาล หรือสำหรับลูกค้าเก่า ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดเป็นประจำและต้องการเพิ่มขนาดตำแหน่ง

โบนัสไม่ต้องฝาก (No-Deposit Bonus)

หนึ่งในโปรโมชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะในหมู่มือใหม่ เพราะคุณสามารถเปิดบัญชี ยืนยันตัวตน และเริ่มเทรดได้ทันทีด้วยเงินทุนฟรี เช่น $30 หรือ $50 โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเองสักบาท ถือเป็นช่องทางที่ดีในการทดลองแพลตฟอร์ม ทดสอบสตรัทเจี๊ย หรือเข้าใจพฤติกรรมตลาดในสภาวะความผันผวนจริง

การแข่งขันเทรด (Trading Contests)

รูปแบบโปรโมชั่นที่ผสมผสานระหว่างความตื่นเต้นกับโอกาสทำกำไรสูง โดยโบรกเกอร์จะจัดการแข่งขันเป็นระยะ เช่น รายสัปดาห์หรือรายเดือน ผู้ที่ทำกำไรได้มากที่สุดหรือมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดจะได้รับรางวัลเป็นเงินสดหรือเครดิตเทรด นี่คือโอกาสสำหรับเทรดเดอร์ที่มั่นใจในทักษะ และต้องการท้าทายตัวเองในสนามแข่งขันที่เปิดกว้าง

โปรแกรม Loyalty และ Cashback/Rebate

เป็นโปรโมชั่นสำหรับเทรดเดอร์ระยะยาวที่เน้นปริมาณการซื้อขาย โปรแกรมเหล่านี้จะคืนเงินบางส่วนจากค่าคอมมิชชั่นหรือสเปรดกลับเข้าบัญชี เช่น ได้รับ $1 ต่อ 1 ล็อตที่เทรด ยิ่งเทรดมาก ยิ่งได้คืนมาก ถือเป็นการลดต้นทุนโดยตรง และยังสร้างความภักดีให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่ Investopedia ชี้ให้เห็นว่า โปรแกรม Rebate เป็นกลยุทธ์ที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างโบรกเกอร์กับลูกค้าได้ดีที่สุด

จัดอันดับ 5 โบรกเกอร์ Forex ที่มีโปรโมชั่นบ่อยและดีที่สุดในประเทศไทย อัปเดตปี 2025

จากการติดตาม วิเคราะห์ และประเมินความถี่ ความหลากหลาย และมูลค่าจริงของโปรโมชั่นที่แต่ละโบรกเกอร์นำเสนอ รวมถึงปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือ การกำกับดูแล และคุณภาพการดำเนินงาน เราได้จัดอันดับโบรกเกอร์ที่โดดเด่นที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในปี 2025 ซึ่งไม่ได้เน้นแค่โบนัสครั้งเดียว แต่เป็นการส่งเสริมการเทรดอย่างต่อเนื่อง

1. Moneta Markets: ตัวเลือกอันดับต้นๆ ด้านความหลากหลายและโปรโมชั่นต่อเนื่อง

  • ประเภทโปรโมชั่นเด่น: โบนัสเงินฝาก, การแข่งขันเทรด, โปรโมชั่นตามฤดูกาล
  • ข้อดี: Moneta Markets แสดงความเป็นผู้นำที่ชัดเจนในด้านการให้โปรโมชั่นที่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวจบ แต่เป็นการดูแลลูกค้าระยะยาว ตั้งแต่โบนัสเงินฝาก 50% สูงสุดถึง $500 สำหรับลูกค้าใหม่ ไปจนถึงการจัดการแข่งขันเทรดรายเดือนและโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตรุษจีน ปีใหม่ หรือวันหยุดใหญ่ ทำให้เทรดเดอร์รู้สึกมีบทบาทและได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น โบรกเกอร์นี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้) ซึ่งสะท้อนถึงความโปร่งใสและความมั่นคง
  • ข้อควรพิจารณา: เนื่องจากมีโปรโมชั่นหลายรูปแบบพร้อมกัน การติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขของแต่ละแคมเปญจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อไม่ให้พลาดโอกาส
  • เหมาะสำหรับ: เทรดเดอร์ทุกระดับ โดยเฉพาะผู้ที่มองหาความคุ้มค่าในระยะยาว ไม่ใช่แค่โบนัสแรกเข้า และต้องการความตื่นเต้นจากกิจกรรมและการแข่งขันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2. Exness: โดดเด่นด้านเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นและการฝากถอนที่รวดเร็ว

  • ประเภทโปรโมชั่นเด่น: โปรแกรมพาร์ทเนอร์, Cashback
  • ข้อดี: Exness ได้รับความไว้วางใจจากเทรดเดอร์ทั่วโลกด้วยระบบฝากถอนที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะผ่านธนาคาร, e-Wallet หรือคริปโต ที่สำคัญ คือไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ส่วนในด้านโปรโมชั่น แม้จะไม่หวือหวาในรูปแบบโบนัสเงินฝาก แต่โปรแกรม Cashback ถือว่าคุ้มค่า โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง ซึ่งจะได้รับเงินคืนจากระดับการเทรดที่ทำได้
  • ข้อควรพิจารณา: โปรโมชั่นสำหรับเทรดเดอร์รายย่อยอาจไม่บ่อยนัก จึงเหมาะกับผู้ที่เน้นปริมาณการเทรดมากกว่าโบนัสเงินสด
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเร็วในการทำธุรกรรม ต้นทุนการเทรดที่ต่ำ และการได้รับผลตอบแทนแบบต่อเนื่องจากระดับการเทรด

3. XM: ยืนหนึ่งเรื่องโบนัสไม่ต้องฝากสำหรับมือใหม่

  • ประเภทโปรโมชั่นเด่น: โบนัสไม่ต้องฝาก, โบนัสเงินฝาก, โปรแกรม Loyalty
  • ข้อดี: XM ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ไทย โดยเฉพาะในเรื่องโบนัสไม่ต้องฝาก 30 ดอลลาร์ ที่ช่วยให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นเทรดในตลาดจริงโดยไม่ต้องเสี่ยงทุนตัวเอง นอกจากนี้ยังมีระบบโบนัสเงินฝากแบบสองชั้น และโปรแกรมสะสมแต้มที่สามารถแลกเป็นโบนัส หรือเงินสดได้ในอนาคต ช่วยสร้างแรงจูงใจให้เทรดอย่างต่อเนื่อง
  • ข้อควรพิจารณา: ข้อกำหนดในการถอนกำไรจากโบนัสไม่ต้องฝากอาจเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่อง Lot Requirement ที่ต้องทำการเทรดให้ครบก่อนจึงจะถอนได้
  • เหมาะสำหรับ: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดสอบตลาด และเทรดเดอร์ที่ต้องการสะสมสิทธิประโยชน์ระยะยาว

4. FBS: โบรกเกอร์สายโปรโมชั่นพร้อมเลเวอเรจสูง

  • ประเภทโปรโมชั่นเด่น: Level Up Bonus, Cashback, โบนัสเงินฝาก 100%
  • ข้อดี: FBS ขึ้นชื่อเรื่องการให้โบนัสที่ดูดีและน่าสนใจ เช่น โบนัสฝากเงิน 100% หรือ Level Up Bonus ที่แจกเครดิตฟรีสูงถึง $140 สำหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งช่วยเพิ่มทุนได้ทันที นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมแข่งขันและมีโปรแกรม Cashback ที่น่าสนใจ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเทรดเดอร์ที่ชอบความท้าทาย
  • ข้อควรพิจารณา: เลเวอเรจสูงอาจเพิ่มความเสี่ยง โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญการบริหารความเสี่ยง จึงควรศึกษาเงื่อนไขทุกแคมเปญอย่างรอบคอบ
  • เหมาะสำหรับ: เทรดเดอร์ที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว และใช้ประโยชน์จากทุนเพิ่มเพื่อขยายขนาดพอร์ต

5. IC Markets: ทางเลือกสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่เน้น Rebate

  • ประเภทโปรโมชั่นเด่น: โปรแกรม Rebate, Commission Discount
  • ข้อดี: IC Markets มุ่งเน้นการให้บริการสภาพแวดล้อมการเทรดที่ดีที่สุด โดยเฉพาะบัญชี Raw Spread ที่มีสเปรดต่ำมาก แม้จะไม่เน้นโปรโมชั่นโบนัสเงินฝาก แต่ให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนจริงผ่านโปรแกรม Rebate ซึ่งคืนค่าคอมมิชชั่นให้กับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง โดยเฉพาะเทรดเดอร์แบบสกาลป์หรือผู้ใช้ EA ที่เปิดคำสั่งบ่อย
  • ข้อควรพิจารณา: ไม่เหมาะกับผู้ที่มองหาโบนัสเงินสดหรือโปรโมชั่นเงินฝาก
  • เหมาะสำหรับ: เทรดเดอร์มืออาชีพ นักสเกลป์ และผู้ใช้ระบบอัตโนมัติที่ให้ความสำคัญกับต้นทุนต่ำเป็นหลัก
graphic of traders enjoying bonuses

ตารางเปรียบเทียบโปรโมชั่นเด่นของแต่ละโบรกเกอร์ ปี 2025

โบรกเกอร์ ประเภทโบนัสเด่น เงื่อนไขสำคัญ คะแนนความถี่ของโปรโมชั่น (เต็ม 10)
Moneta Markets โบนัสเงินฝาก, การแข่งขันเทรด, โปรโมชั่นตามฤดูกาล เงื่อนไขโปร่งใส, มีกิจกรรมต่อเนื่อง 9/10
Exness Cashback, โปรแกรมพาร์ทเนอร์ ขึ้นอยู่กับปริมาณการเทรด 7/10
XM โบนัสไม่ต้องฝาก, โบนัสเงินฝาก, Loyalty Program มี Lot Requirement สำหรับการถอนกำไรจากโบนัส 8/10
FBS โบนัส 100%, Level Up Bonus, Cashback เงื่อนไขการถอนอาจซับซ้อน ควรอ่าน T&C ให้ดี 8/10
IC Markets Rebate และส่วนลดค่าคอมมิชชั่น สำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง 6/10

คู่มือเลือกโปรโมชั่น Forex ให้เหมาะกับคุณ: ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่สวยงาม

การเลือกโปรโมชั่นที่ดีที่สุดไม่ใช่การเปรียบเทียบว่าใครให้โบนัสมากที่สุด แต่คือการมองหาสิ่งที่ “เข้ากับคุณ” ทั้งในด้านสไตล์การเทรด งบประมาณ และเป้าหมายระยะยาว นี่คือแนวทางที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น

สำหรับมือใหม่:

จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือ “โบนัสไม่ต้องฝาก” ซึ่งช่วยให้คุณเรียนรู้โดยไม่ต้องเสี่ยงทุน เช่น XM ที่เสนอ $30 ฟรี ถือเป็นโอกาสทองในการทดลองกลยุทธ์และทำความเข้าใจตลาดในสภาพแวดล้อมจริง

สำหรับเทรดเดอร์ทุนปานกลาง:

โบนัสเงินฝากคือตัวช่วยสำคัญ เพราะช่วยเพิ่มขนาดพอร์ตได้ทันที เช่น ฝาก $1,000 ได้รับเพิ่ม $500 ทำให้มีมาร์จิ้นมากขึ้น และสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets และ FBS มีข้อเสนอที่น่าสนใจในจุดนี้

สำหรับเทรดเดอร์สายแข่งขัน:

หากคุณมั่นใจในทักษะและชอบความท้าทาย การมองหาโบรกเกอร์ที่จัดการแข่งขันบ่อยๆ เช่น Moneta Markets จะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะนอกจากกำไรจากการเทรดปกติ คุณยังมีโอกาสคว้ารางวัลใหญ่เพิ่มเติมได้

สิ่งที่ต้องอ่านเสมอ: ข้อกำหนดและเงื่อนไข (T&C)

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการรีบตัดสินใจโดยไม่อ่าน เงื่อนไขการใช้โบนัส อย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่อง Lot Requirement หรือปริมาณการซื้อขายที่ต้องทำให้ครบก่อนถอนเงินได้ การไม่เข้าใจจุดนี้อาจทำให้คุณเสียโอกาสหรือถูกยกเลิกโบนัสโดยไม่รู้ตัว ดังที่ Forbes Advisor ได้ชี้แจงว่า การเลือกโบรกเกอร์ที่มีเงื่อนไขโปร่งใสและเป็นธรรมคือหัวใจสำคัญของการเทรดอย่างยั่งยืน

สรุป: เลือกโบรกเกอร์ที่มีโปรโมชั่นอย่างไรให้ชนะในตลาดประเทศไทยปี 2025

ในปี 2025 ความสำเร็จของการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ทักษะหรือกลยุทธ์เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเลือกพาร์ทเนอร์ที่ดีอย่างโบรกเกอร์ที่ให้ทั้งความมั่นคงและผลประโยชน์ระยะยาว การพิจารณาความถี่ของโปรโมชั่น การแข่งขัน การคืนเงิน หรือแม้แต่กิจกรรมตามฤดูกาล คือปัจจัยที่ช่วยเสริมแรงจูงใจและเพิ่มทุนให้คุณได้ต่อเนื่อง

เมื่อถอดรหัสทั้ง 5 โบรกเกอร์ที่นำเสนอมานี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละรายมีกลยุทธ์ที่ต่างกัน แต่หากมองหาความสมดุลระหว่าง “ความถี่ของโปรโมชั่น” “ความหลากหลาย” และ “ความน่าเชื่อถือ” แล้ว **Moneta Markets** คือตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการไม่ใช่แค่โบนัสทีเดียวจบ แต่เป็นการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าโปรโมชั่นเป็นเพียงองค์ประกอบเสริม การตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ควรคำนึงถึงปัจจัยหลัก เช่น ใบอนุญาตการกำกับดูแล ต้นทุนการเทรด (สเปรด, คอมมิชชั่น) คุณภาพของแพลตฟอร์ม และบริการลูกค้า เพื่อให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และประสบความสำเร็จในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

โบนัสเทรดฟรี ถอนได้ ไม่ต้องฝาก ปี 2025 มีจริงไหม?

มีจริงครับ หรือที่เรียกว่า “No-Deposit Bonus” โบรกเกอร์หลายแห่ง เช่น XM มักจะเสนอโบนัสประเภทนี้เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ อย่างไรก็ตาม คำว่า “ถอนได้” มักจะหมายถึง “กำไร” ที่ทำจากเงินโบนัสเท่านั้น และมักจะมีเงื่อนไขปริมาณการเทรด (Lot Requirement) ที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนจึงจะสามารถถอนกำไรนั้นออกมาได้ ส่วนตัวเงินโบนัสเองมักจะถอนออกมาไม่ได้ครับ

โบรกเกอร์ Forex ไหนให้โบนัส 100% บ้าง?

โบรกเกอร์บางแห่ง เช่น FBS มีการเสนอโปรโมชั่นโบนัสเงินฝาก 100% เป็นครั้งคราว ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณฝากเงิน $500 คุณจะได้รับเครดิตโบนัสเพิ่มอีก $500 อย่างไรก็ตาม โบนัสประเภทนี้มักมาพร้อมกับเงื่อนไขที่เข้มงวดกว่าโบนัสที่มีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไข (T&C) อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับ

เงื่อนไขการถอนกำไรจากโบนัส Forex มักจะมีอะไรบ้าง?

เงื่อนไขที่พบบ่อยที่สุดคือ:

  • Lot Requirement: คุณต้องทำการซื้อขายให้ครบตามจำนวนล็อตที่โบรกเกอร์กำหนด
  • ระยะเวลา: โบนัสและเงื่อนไขอาจมีวันหมดอายุ คุณต้องทำให้ครบเงื่อนไขภายในเวลาที่กำหนด
  • การถอนเงินต้น: บางครั้งการถอนเงินฝากของคุณออกมาก่อนทำครบเงื่อนไข อาจทำให้โบนัสและกำไรที่ได้จากโบนัสถูกยกเลิกไป

การรับโบนัสเงินฝากมีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

ข้อดี:

  • เพิ่มเงินทุนในพอร์ต ทำให้มี Margin มากขึ้น และสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น
  • เพิ่มโอกาสในการทำกำไร เพราะสามารถเปิดออเดอร์ในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้

ข้อเสีย:

  • อาจทำให้เทรดเดอร์ทำการ Overtrade หรือเปิดสถานะใหญ่เกินความเสี่ยงที่รับได้จริง
  • ติดเงื่อนไขการถอนเงินที่ซับซ้อน ทำให้ไม่สามารถถอนเงินทุนหรือกำไรได้อย่างอิสระจนกว่าจะทำตามเงื่อนไขครบ

เราสามารถปฏิเสธการรับโบนัสจากโบรกเกอร์ได้หรือไม่?

ได้ครับ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะให้สิทธิ์คุณในการเลือกว่าจะรับโบนัสหรือไม่ในขั้นตอนการฝากเงิน หรือคุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อแจ้งความประสงค์ไม่ขอรับโบนัสได้ การไม่รับโบนัสจะทำให้บัญชีของคุณไม่มีข้อผูกมัดและสามารถฝาก-ถอนเงินได้อย่างอิสระตามปกติ ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

ระหว่างโบนัสต้อนรับเยอะๆ ครั้งเดียว กับโปรโมชั่นย่อยๆ แต่มีบ่อย ควรเลือกแบบไหน?

สำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาความคุ้มค่าในระยะยาว การเลือกโบรกเกอร์ที่มีโปรโมชั่นย่อยๆ แต่จัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เช่น การแข่งขันเทรด หรือโบนัสตามฤดูกาล มักจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะมันแสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์ใส่ใจลูกค้าปัจจุบันและพยายามมอบผลประโยชน์ให้อย่างต่อเนื่อง โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ เพราะมีความโดดเด่นในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่หลากหลายตลอดทั้งปี ทำให้การเทรดไม่น่าเบื่อและมีโอกาสได้รับความคุ้มค่าอยู่เสมอ

ในประเทศไทย มีหน่วยงานใดกำกับดูแลโบรกเกอร์ Forex หรือไม่?

ปัจจุบัน ในประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลการเทรด Forex สำหรับลูกค้ารายย่อยโดยตรง ดังนั้นเทรดเดอร์ชาวไทยส่วนใหญ่จึงเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือในระดับสากล เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร), หรือ CySEC (ไซปรัส) การเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินทุนของคุณได้ในระดับหนึ่ง

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *