สเปรดในการเทรด Forex ทำความเข้าใจกับค่าสเปรดให้เห็นภาพชัดเจน

สารบัญ

สเปรด (Spread) คืออะไร? เข้าใจง่ายเหมือนสเปรดทาขนมปัง

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการเทรด คำว่า “สเปรด” อาจฟังดูซับซ้อน หรือดูเหมือนศัพท์เทคนิคที่เข้าใจยาก แต่จริงๆ แล้วมันง่ายกว่าที่คิด หากลองเปรียบเทียบกับสิ่งใกล้ตัวอย่าง “สเปรดทาขนมปัง” ก็จะเห็นภาพชัดเจนทันที สเปรดบนขนมปังคือชั้นของเนย แยม หรือเนื้อสัตว์ที่วางอยู่ระหว่างแผ่นขนมปังสองชิ้น ทำให้ขนมปังธรรมดาๆ กลายเป็นอาหารจานอร่อย ในทำนองเดียวกัน สเปรดในตลาด Forex ก็คือ “ช่องว่าง” เล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างราคาสองระดับ ซึ่งเป็นต้นทุนพื้นฐานที่ทุกคนต้องจ่ายทุกครั้งที่เริ่มต้นซื้อขาย

หากพูดในเชิงเทคนิคอย่างตรงไปตรงมา ค่าสเปรด Forex คือ ความต่างของราคาเสนอซื้อ (Bid Price) และราคาเสนอขาย (Ask Price) ของคู่สกุลเงินใดๆ ก็ตาม ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของการซื้อขาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ “ค่าบริการ” ที่โบรกเกอร์เรียกเก็บเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ไม่ว่าคุณจะเปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) ก็ตาม ค่าใช้จ่ายนี้จะถูกหักออกไปตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่ตลาด

illustration of Forex trading

ราคา Bid และ Ask: หัวใจสำคัญของค่าสเปรด

เพื่อให้เข้าใจอย่างแท้จริงว่าสเปรดเกิดขึ้นได้อย่างไร เราต้องเริ่มต้นจากสององค์ประกอบหลักที่เป็นพื้นฐานของมัน นั่นคือ ราคา Bid และ Ask สองตัวเลขนี้จะปรากฏคู่กันตลอดเวลาบนหน้าจอเทรดดิ้งแพลตฟอร์ม และมีบทบาทต่อการคำนวณต้นทุนโดยตรง

ราคา Bid คืออะไร?

ราคา Bid คือ ราคาที่โบรกเกอร์ “ยินดีรับซื้อ” สกุลเงินหลัก (Base Currency) จากคุณ หรือในมุมมองของเทรดเดอร์ คือราคาที่คุณสามารถ “ขาย” คู่สกุลเงินนั้นได้ทันที ณ ขณะนั้น โดยทั่วไป ราคา Bid จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเสมอ ซึ่งทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของช่องว่างที่เรียกว่า “สเปรด”

ราคา Ask คืออะไร?

ในทางกลับกัน ราคา Ask คือ ราคาที่โบรกเกอร์ “ยินดีขาย” สกุลเงินหลักให้กับคุณ หรือก็คือราคาที่คุณต้องจ่ายหากต้องการ “ซื้อ” คู่เงินนั้นๆ ณ เวลานั้น ดังนั้น ราคา Ask จะสูงกว่าราคา Bid เสมอ

สิ่งที่ต้องจดจำให้ขึ้นใจคือ ราคา Ask เสมอสูงกว่าราคา Bid และช่องว่างระหว่างสองตัวเลขนี้เองที่เรียกว่า “ค่าสเปรด” ซึ่งเป็นกำไรพื้นฐานของโบรกเกอร์ โดยไม่จำเป็นต้องเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมในทุกกรณี

graphic comparing Bid and Ask prices

วิธีคำนวณค่าสเปรด Forex แบบจับมือทำ

การคำนวณสเปรดไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพียงแค่รู้จักหน่วยวัดที่ใช้ในตลาด Forex ซึ่งก็คือ “Pip” (Price Interest Point) หรือหน่วยที่บ่งบอกการเปลี่ยนแปลงเล็กที่สุดของราคา

สำหรับคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD หรือ AUD/USD ค่า Pip จะอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่ 4 (0.0001) ส่วนคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับเยนญี่ปุ่น เช่น USD/JPY ค่า Pip จะอยู่ที่ทศนิยมตำแหน่งที่ 2 (0.01) ซึ่งต้องระวังไม่สับสนในการคำนวณ

สูตรคำนวณสเปรดมีเพียงหนึ่งเดียว:

Spread = Ask Price – Bid Price

ลองยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น สมมติว่าคู่เงิน EUR/USD กำลังแสดงราคาดังนี้:

  • ราคา Bid: 1.0730
  • ราคา Ask: 1.0732

นำตัวเลขมาคำนวณ:

1.0732 (Ask) – 1.0730 (Bid) = 0.0002

ค่าที่ได้ 0.0002 เมื่อแปลงเป็นหน่วย Pip จะเท่ากับ 2 Pips ดังนั้น สเปรดของคู่เงินนี้อยู่ที่ 2 Pips นั่นหมายความว่าทันทีที่คุณเปิดออเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น Buy หรือ Sell ตำแหน่งของคุณจะเริ่มต้นด้วยผลขาดทุนเล็กน้อย 2 Pips ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานก่อนที่คุณจะเริ่มทำกำไรได้

รู้จักประเภทของสเปรด: แบบคงที่ (Fixed) vs. ผันแปร (Variable)

โบรกเกอร์แต่ละรายเสนอรูปแบบการคำนวณสเปรดที่แตกต่างกัน โดยหลักๆ แล้วมีสองประเภทหลัก ซึ่งแต่ละแบบมีจุดแข็งและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ

สเปรดคงที่ (Fixed Spread)

สเปรดชนิดนี้จะคงที่ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวอย่างไร ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงข่าวสำคัญหรือความผันผวนสูง ค่าสเปรดก็ยังเหมือนเดิม ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการความแน่นอนในการวางแผนต้นทุนล่วงหน้า โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisor) ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา

  • ข้อดี: คำนวณต้นทุนได้แม่นยำ ไม่ต้องกังวลเรื่องสเปรดถ่างในช่วงประกาศข่าว
  • ข้อเสีย: มักมีค่าสเปรดที่สูงกว่าในช่วงตลาดปกติ และอาจเจอกรณี Requote (การที่โบรกเกอร์ปฏิเสธคำสั่งซื้อขายที่คุณเสนอ) บ่อยกว่า

สเปรดผันแปร (Variable/Floating Spread)

สเปรดประเภทนี้จะขึ้นลงตามสภาพตลาด โดยสะท้อนอุปสงค์และอุปทานจริงในตลาด หากตลาดมีสภาพคล่องสูง เช่น ช่วงเปิดตลาดลอนดอน-นิวยอร์ก ค่าสเปรดอาจต่ำมาก หรือแม้แต่ใกล้ 0 Pips แต่ในช่วงข่าวสำคัญหรือตลาดเงียบ สเปรดอาจ “ถ่างออก” ได้อย่างรวดเร็ว โบรกเกอร์ที่ให้บริการประเภทนี้มักเป็นบัญชี ECN หรือ STP ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ให้สภาพคล่อง

  • ข้อดี: ค่าสเปรดต่ำในช่วงตลาดนิ่ง สะท้อนราคาจริงจากตลาดโลก โปร่งใสสูง
  • ข้อเสีย: คาดการณ์ต้นทุนได้ยาก สเปรดอาจพุ่งสูงในช่วงความผันผวน ทำให้เข้าออเดอร์ไม่ตรงราคาที่ต้องการ

เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจ นี่คือตารางเปรียบเทียบรายละเอียดที่ควรรู้:

คุณสมบัติ สเปรดคงที่ (Fixed Spread) สเปรดผันแปร (Variable Spread)
การคาดการณ์ต้นทุน ง่ายและแน่นอน ยาก คาดการณ์ไม่ได้
ค่าสเปรดช่วงตลาดปกติ ค่อนข้างสูง ต่ำมาก
ค่าสเปรดช่วงข่าว คงที่ กว้างมาก (ถ่าง)
เหมาะสำหรับ มือใหม่, Scalper, นักเทรดด้วย EA นักเทรดที่มีประสบการณ์, Day Trader
chart showing factors affecting spread width

ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้ค่าสเปรดกว้างหรือแคบ?

ค่าสเปรดไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบสุ่ม แต่มีปัจจัยหลักหลายอย่างที่ขับเคลื่อนมันโดยตรง การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกเวลาเทรดได้เหมาะสม และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

  • สภาพคล่อง (Liquidity): ยิ่งคู่เงินมีผู้ซื้อขายมาก ค่าสเปรดยิ่งแคบ คู่เงินหลักอย่าง EUR/USD หรือ GBP/USD มีปริมาณการซื้อขายสูงทั่วโลก ทำให้มีสภาพคล่องดีและสเปรดต่ำ ในทางกลับกัน คู่เงินแปลก (Exotic Pairs) เช่น USD/THB หรือ TRY/JPY มักมีสภาพคล่องต่ำ ส่งผลให้สเปรดกว้างมาก ตามข้อมูลจาก Investopedia การมีสภาพคล่องสูงช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมได้โดยตรง
  • ความผันผวน (Volatility): ในช่วงเวลาที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น การตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยของธนาคารกลาง หรือรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ (Non-Farm Payrolls) ตลาดจะเกิดความไม่แน่นอน โบรกเกอร์จึงขยายสเปรดเพื่อลดความเสี่ยง ทำให้ช่วงเหล่านี้ไม่เหมาะกับการเทรดแบบเน้นความแม่นยำ
  • ช่วงเวลาการซื้อขาย (Trading Session): ตลาด Forex แม้จะเปิด 24 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่มีการซื้อขายหนาแน่นที่สุดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กซ้อนทับกัน ประมาณ 19:00 – 23:00 น. ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นช่วงที่สเปรดแคบที่สุด ส่วนช่วงเช้ามืดของไทยที่เหลือแค่ตลาดซิดนีย์เปิด อาจพบกับสเปรดที่กว้างกว่าปกติ
  • โบรกเกอร์ (Broker): รูปแบบการดำเนินงานของแต่ละโบรกเกอร์มีผลโดยตรงต่อสเปรด ตัวอย่างเช่น Moneta Markets ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดไทย มีการเสนอสเปรดต่ำตั้งแต่ 0.0 Pips บนบัญชี ECN พร้อมกับค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง ทำให้ราคาสะท้อนตลาดจริง จึงเหมาะกับนักเทรดที่ต้องการความโปร่งใสและต้นทุนต่ำ

วิธีตรวจสอบและเปรียบเทียบค่าสเปรดของแต่ละโบรกเกอร์

การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำและยุติธรรม ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรด นี่คือวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลอย่างมืออาชีพ

  1. ตรวจสอบจากหน้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์: โบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง Exness, XM หรือ Moneta Markets มักมีหน้า “เงื่อนไขการซื้อขาย” ที่ระบุค่าสเปรดเฉลี่ย (Average Spread) และสเปรดขั้นต่ำ (Minimum Spread) อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นข้อมูลเริ่มต้นที่ควรดูเปรียบเทียบ
  2. เปิดบัญชีทดลอง (Demo Account): วิธีที่ดีที่สุดคือการทดสอบด้วยตัวเอง โดยเปิดบัญชีเดโมและล็อกอินเข้าสู่แพลตฟอร์ม เช่น MT4 หรือ MT5 เพื่อดูค่าสเปรดแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพว่าสเปรดจริงมีความผันผวนแค่ไหน
  3. ระวังความแตกต่างระหว่าง “สเปรดเฉลี่ย” กับ “สเปรดขั้นต่ำ”: อย่าหลงเชื่อเลข “0 Pips” ที่โฆษณาไว้ เพราะมันอาจเป็นเพียงค่าที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นชั่วคราว ควรให้ความสำคัญกับ “สเปรดเฉลี่ย” ที่คุณจะเจอในชีวิตจริงของเทรดเดอร์ ตามที่ BabyPips.com แนะนำว่า ควรดูต้นทุนรวม ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่ต่ำที่สุด
  4. เปรียบเทียบต้นทุนรวม (สเปรด + คอมมิชชั่น): สำหรับบัญชี ECN หรือ Raw Spread ที่มีสเปรดต่ำมาก คุณต้องคำนึงถึงค่าคอมมิชชั่นที่เพิ่มเข้ามา เช่น ต่อ 1 ล็อต ซึ่งเมื่อนำมารวมกับสเปรดจริง อาจทำให้ต้นทุนโดยรวมสูงกว่าบัญชี Standard ที่ไม่มีคอมมิชชั่นแต่สเปรดสูงกว่า

บทสรุป: ทำไมการเข้าใจเรื่องสเปรดจึงสำคัญต่อนักเทรด?

สรุปแล้ว ค่าสเปรด Forex คือ ต้นทุนพื้นฐานที่ทุกคนต้องเผชิญทุกครั้งที่เข้าสู่ตลาด ไม่ต่างจากค่าธรรมเนียมทางด่วนที่ต้องจ่ายก่อนออกเดินทาง การเข้าใจว่าสเปรดเกิดจากอะไร คำนวณอย่างไร ต่างกันอย่างไรระหว่างประเภทต่างๆ และปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อความกว้างของมัน จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม เช่น Moneta Markets ที่ให้ทั้งสเปรดต่ำและสภาพคล่องดี การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีกิจกรรมสูง และการหลีกเลี่ยงการเปิดออเดอร์ในช่วงข่าวสำคัญ ล้วนเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กๆ อย่างค่าสเปรด เพราะมันคือหนึ่งในปัจจัยที่อาจเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของคุณจากขาดทุนเป็นกำไรได้ในที่สุด

ค่าสเปรด คิดยังไง?

ค่าสเปรดคำนวณจากสูตรง่ายๆ คือ ราคา Ask (ราคาเสนอขาย) ลบด้วย ราคา Bid (ราคาเสนอซื้อ) ผลลัพธ์ที่ได้มักจะแสดงในหน่วย Pip ซึ่งเป็นหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กที่สุด

สเปรด 0 Pips มีจริงหรือไม่?

มีจริงในบางประเภทบัญชีของโบรกเกอร์ (เช่น ECN หรือ Raw Spread) ซึ่งให้ราคาโดยตรงจากตลาด แต่โดยทั่วไปแล้ว โบรกเกอร์จะคิดค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหากแทนค่าสเปรด ดังนั้นจึงยังคงมีต้นทุนการเทรดอยู่ ไม่ได้หมายความว่าเทรดฟรี

ค่าสเปรดของโบรกเกอร์ Exness หรือ XM ดูได้ที่ไหน?

คุณสามารถดูค่าสเปรดแบบเรียลไทม์ได้โดยตรงบนแพลตฟอร์มการเทรด MT4/MT5 ของโบรกเกอร์นั้นๆ ผ่านหน้าต่าง Market Watch หรือตรวจสอบตารางค่าสเปรดเฉลี่ยและสเปรดขั้นต่ำได้ที่หน้าเว็บไซต์ทางการของพวกเขาในส่วนของ “เงื่อนไขการซื้อขาย” หรือ “ประเภทบัญชี”

สเปรดกว้าง (High Spread) หมายความว่าอย่างไร?

สเปรดกว้างหมายถึงส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask มีมาก ซึ่งแปลว่าต้นทุนในการเปิดออเดอร์จะสูงขึ้น มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง (เช่น ตอนประกาศข่าว) หรือมีสภาพคล่องต่ำ (เช่น คู่เงินที่ไม่ค่อยมีคนเทรด)

เทรดทอง (Gold/XAUUSD) มีค่าสเปรดเท่าไหร่?

ค่าสเปรดของทองคำจะแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์และช่วงเวลา โดยทั่วไปทองคำจะมีความผันผวนสูง ทำให้สเปรดอาจกว้างกว่าคู่เงินหลักบางคู่ เช่น EUR/USD แต่ก็ยังถือว่ามีสภาพคล่องสูง ควรตรวจสอบค่าสเปรดแบบเรียลไทม์บนแพลตฟอร์มก่อนทำการเทรด

เราจะเสียค่าสเปรดตอนไหน?

คุณจะ “จ่าย” ค่าสเปรดทันทีที่คุณเปิดออเดอร์ (ทั้ง Buy และ Sell) โดยออเดอร์ของคุณจะเริ่มต้นด้วยผลลัพธ์ที่ติดลบเท่ากับขนาดของสเปรดทันที ราคาจะต้องเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์เพื่อครอบคลุมต้นทุนสเปรดก่อนที่คุณจะเริ่มทำกำไร

ทำไมค่าสเปรดตอนกลางคืนถึงกว้างกว่าปกติ?

เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดการเงินหลักๆ ของโลก เช่น ตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ปิดทำการไปแล้ว ทำให้ปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่องในตลาดลดลงอย่างมาก เมื่อสภาพคล่องต่ำ โบรกเกอร์จึงต้องเพิ่มส่วนต่างของราคา หรือสเปรดให้กว้างขึ้นเพื่อจัดการความเสี่ยง

ระหว่างสเปรดคงที่กับผันแปร แบบไหนดีกว่ากันสำหรับมือใหม่?

สเปรดคงที่ (Fixed Spread) อาจเหมาะกับมือใหม่มากกว่า เพราะช่วยให้คำนวณต้นทุนได้ง่ายและคาดการณ์ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องสเปรดถ่างในช่วงข่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น นักเทรดหลายคนอาจชอบสเปรดผันแปร (Variable Spread) เพราะมีค่าต่ำกว่าในช่วงที่ตลาดปกติ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการเทรดในระยะยาว

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *