บทนำ: ทำไม Swing Trader ในปี 2025 ต้องใส่ใจเรื่องการเลือกโบรกเกอร์มากกว่าที่เคย?
กลยุทธ์ Swing Trading ยังคงครองใจเทรดเดอร์ชาวไทยไม่เสื่อมคลาย เพราะช่วยให้เข้าร่วมตลาดได้โดยไม่จำเป็นต้องนั่งจ้องจอตลอดเวลา แต่ยังสามารถคว้าผลกำไรจากแนวโน้มราคาที่ขยับตัวในระยะกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปี 2025 ตลาด Forex กลับมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอย่างมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยี ค่าธรรมเนียม และนวัตกรรมบริการ ทำให้ “การเลือกโบรกเกอร์” ไม่ใช่แค่เรื่องของสเปรดต่ำหรือบัญชีทดลองฟรีอีกต่อไป แต่กลายเป็นปัจจัยชี้ขาดที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรขั้นสุดท้ายในพอร์ตของคุณ
นักลงทุนจำนวนมากยังมองข้ามต้นทุนที่มองไม่เห็นแต่สะสมได้เร็วอย่าง “ค่า Swap” หรือค่าธรรมเนียมการถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือโพซิชันเป็นสัปดาห์หรือหลายวัน ค่าใช้จ่ายนี้สามารถกลายเป็นภาระที่กินกำไรไปอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเวอเรจสูงหรือเทรดในสกุลเงินที่มีดอกเบี้ยต่างกันมาก บทความนี้จึงไม่ใช่แค่การจัดอันดับโบรกเกอร์ทั่วไป แต่เป็นการเจาะลึกเฉพาะนักเทรดสไตล์ Swing Trade ชาวไทยอย่างแท้จริง โดยเน้นเกณฑ์ที่มีผลต่อผลลัพธ์ในระยะยาว ทั้งค่า Swap, แพลตฟอร์มวิเคราะห์, ความน่าเชื่อถือ และความสะดวกในการทำธุรกรรม เพื่อช่วยให้คุณเลือกพันธมิตรทางการเงินที่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริงในปี 2025

Swing Trading คืออะไร? ทบทวนกลยุทธ์สำหรับเทรดเดอร์ไทย
ก่อนจะเข้าสู่การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ มาทำความเข้าใจใหม่ถึงแก่นแท้ของ Swing Trading ให้ชัดเจนกันสักหน่อย นี่คือรูปแบบการเทรดที่เน้นการจับจังหวะ “การแกว่งตัว” ของราคา ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ โดยนักเทรดจะวิเคราะห์แนวโน้มใหญ่ และเข้าสถานะเพื่อรอให้ราคาเคลื่อนไปถึงเป้าหมายตามที่คาดการณ์ไว้ ต่างจาก Day Trader ที่ต้องปิดออเดอร์ภายในวันเดียว หรือ Position Trader ที่ถือโพซิชันเป็นเดือนหรือปี
หัวใจของกลยุทธ์นี้คือการใช้ไทม์เฟรมที่สูงขึ้น เช่น 4 ชั่วโมง (H4), รายวัน (D1) หรือแม้แต่รายสัปดาห์ (W1) เพื่อค้นหารูปแบบกราฟ เช่น Head and Shoulders, Double Top หรือแนวโน้มที่ยังไม่จบ ซึ่งต้องอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แม่นยำ และที่สำคัญที่สุดคือ “การถือออเดอร์ข้ามคืน” ซึ่งเกิดขึ้นแทบทุกครั้ง ทำให้ต้นทุนที่เรียกว่า “ค่า Swap” กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากไม่จัดการให้ดี อาจทำให้กำไรที่ได้จากทิศทางของราคาหายไปกับค่าธรรมเนียมที่สะสมทุกวัน
คุณสมบัติ | Day Trading | Swing Trading | Position Trading |
---|---|---|---|
ระยะเวลาถือครอง | ไม่กี่นาที – หลายชั่วโมง (ปิดภายในวัน) | หลายวัน – หลายสัปดาห์ | หลายสัปดาห์ – หลายเดือน/ปี |
ไทม์เฟรมที่ใช้ | M1, M5, M15, H1 | H4, D1, W1 | W1, MN |
ความสำคัญของค่า Swap | ไม่มี (ปิดออเดอร์ก่อนตลาดปิด) | สูงมาก | สูง |
ความสำคัญของค่าสเปรด | สูงมาก (เข้าออกบ่อย) | ปานกลาง | ต่ำ |
5 เกณฑ์สำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ Forex สำหรับ Swing Trade ในประเทศไทย ปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่เปรียบเทียบตัวเลข แต่ต้องเข้าใจว่าสไตล์การเทรดของคุณต้องการอะไร สำหรับ Swing Trader ชาวไทย 5 ปัจจัยต่อไปนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริง
1. ค่า Swap ที่ต่ำหรือเป็นศูนย์ (Swap Fees)
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ถือออเดอร์หลายวัน การจ่าย “ค่า Swap” ทุกวันอาจทำให้กำไรหายไปโดยไม่รู้ตัว ค่า Swap เกิดจากความต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินในคู่เงินที่คุณเทรด เช่น หากคุณถือ EUR/USD ฝั่งขาย แล้วอัตราดอกเบี้ยของดอลลาร์สหรัฐสูงกว่ายูโร คุณก็จะต้องจ่ายค่า Swap ทุกคืนที่ถือออเดอร์ไว้
ในระยะสั้น อาจดูเหมือนไม่มาก แต่เมื่อถือ 10-14 วัน ต้นทุนนี้สามารถรวมกันได้ถึงหลายดอลลาร์ต่อล็อต ทำให้กำไรสุทธิลดลงอย่างชัดเจน ดังนั้น โบรกเกอร์ที่มี ค่า Swap ต่ำ หรือมี บัญชี Swap-free (บัญชีอิสลาม) จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่ต้องระวังว่าบางโบรกเกอร์อาจชดเชยด้วยค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียมการบริหารแทน ต้องตรวจสอบเงื่อนไขให้ดี
2. สเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้
แม้ Swing Trader จะไม่ได้เปิด-ปิดออเดอร์บ่อย แต่ “สเปรด” ยังคงเป็นต้นทุนแรกเริ่มที่ต้องจ่ายทุกครั้งที่เข้าตลาด ยิ่งสเปรดแคบเท่าไร จุดเริ่มต้นของคุณก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อใช้กลยุทธ์ที่ตั้ง Take Profit ใกล้หรือต้องการความแม่นยำสูง
โบรกเกอร์ที่เสนอบัญชีแบบ Raw/ECN มักมีสเปรดเริ่มต้นที่ต่ำมาก (ใกล้ 0.0 pips) แต่จะคิดค่าคอมมิชชั่นต่อการซื้อขาย 1 ล็อต ซึ่งถ้ารวมกันแล้วต่ำกว่าโบรกเกอร์แบบ Standard ก็ถือว่าคุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อเทรดคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD หรือทองคำ (XAU/USD)
3. แพลตฟอร์มที่เสถียรและมีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
นักวิเคราะห์แนว Swing ต้องการแพลตฟอร์มที่ไม่เพียงแค่ “ใช้ได้” แต่ต้อง “ดีพอ” สำหรับการวางแผนระยะกลาง แพลตฟอร์มอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ยังคงเป็นมาตรฐาน แต่ปัจจุบัน แพลตฟอร์มที่ผสานเทคโนโลยีของ TradingView เข้ามา กลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะมีอินดิเคเตอร์กว่าร้อยตัว เครื่องมือวาดกราฟที่แม่นยำ และรองรับการตั้งค่าแจ้งเตือนอัตโนมัติ
โบรกเกอร์ที่ให้คุณวิเคราะห์บน TradingView แล้วกดเทรดได้ทันที โดยไม่ต้องสลับหน้าต่าง จึงช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความผิดพลาดจากความล่าช้า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในกลยุทธ์ที่ต้องรอจังหวะ
4. ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาต
ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์รายย่อยหรือมืออาชีพ การรักษาเงินทุนไว้ให้ปลอดภัยคือสิ่งที่ต้องมาก่อนเสมอ ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มี ใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร) หรือ CySEC (ไซปรัส) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีมาตรฐานสูง มีการแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท (Segregated Accounts) และมีระบบชดเชยความเสียหายในกรณีล้มละลาย (Compensation Scheme)
การเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีการกำกับดูแล หรือมีชื่อเสียงไม่ดี อาจเสี่ยงต่อการถูกโกง หรือถอนเงินไม่ได้ในยามจำเป็น
5. การฝาก-ถอนที่สะดวกสำหรับคนไทย
ความรวดเร็วในการทำธุรกรรมเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อต้องการถอนกำไรออกมาใช้ โบรกเกอร์ที่ดีควรรองรับ ช่องทางการเงินแบบท้องถิ่น เช่น ระบบพร้อมเพย์ (PromptPay), QR Code, หรือการโอนผ่านธนาคารในประเทศโดยตรง ซึ่งช่วยลดเวลาการดำเนินการจากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่นาที
นอกจากนี้ ทีมสนับสนุนลูกค้าที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ พร้อมให้ความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความเครียดเวลาเกิดปัญหา
จัดอันดับ: 5 โบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับ Swing Trade ที่สุดในไทย ปี 2025
จากเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อ โดยเน้นน้ำหนักเป็นพิเศษที่ “ค่า Swap” และ “คุณภาพแพลตฟอร์มวิเคราะห์” นี่คือรายชื่อโบรกเกอร์ที่ผ่านการประเมินมาอย่างเข้มงวด และเหมาะสมที่สุดสำหรับนักเทรดชาวไทยที่ใช้กลยุทธ์ Swing Trade ในปี 2025
1. Moneta Markets: ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมด้วยค่า Swap ที่แข่งขันได้และแพลตฟอร์ม ProTrader
Moneta Markets คือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2025 และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักวิเคราะห์ทางเทคนิค เหตุผลสำคัญคือการให้ความสำคัญกับต้นทุนระยะยาวและการใช้งานที่ล้ำสมัย
- ข้อดี:
- ค่า Swap ต่ำที่สุดในตลาดสำหรับคู่เงินหลักและทองคำ: จุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดของ Moneta Markets คือการจัดการค่า Swap ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะใน EUR/USD, GBP/USD และ XAU/USD ซึ่งมีอัตราต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน ทำให้ Swing Trader ประหยัดต้นทุนได้มากเมื่อถือออเดอร์เป็นสัปดาห์
- แพลตฟอร์ม ProTrader ที่ขับเคลื่อนด้วย TradingView: ไม่ต้องเชื่อมต่อให้ยุ่งยาก แค่ล็อกอินเข้า ProTrader ก็ใช้งานกราฟ เครื่องมือวาด หรืออินดิเคเตอร์ระดับมืออาชีพจาก TradingView ได้ทันที ซึ่งเหมาะกับนักวิเคราะห์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
- บัญชีหลากหลายสำหรับทุกสไตล์: ทั้งบัญชี ECN ที่สเปรดต่ำ เหมาะกับผู้ที่เน้นต้นทุน หรือบัญชี Standard ที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น เหมาะกับผู้เริ่มต้น
- มีใบอนุญาตจาก ASIC และ FSCA: แสดงถึงความโปร่งใสและการกำกับดูแลที่เข้มงวดตามมาตรฐานสากลจาก Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
- ข้อสังเกต: แม้จะมีจุดแข็งชัดเจน แต่จำนวนคู่เงินรองอาจยังไม่มากเท่ากับโบรกเกอร์ขนาดยักษ์บางแห่ง
2. IC Markets: สภาพคล่องสูงและสเปรด Raw ที่ต่ำมาก
IC Markets ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเร็วและต้นทุนการเข้าออเดอร์
- ข้อดี:
- สเปรด 0.0 pips ในบัญชี Raw Spread: หนึ่งในโบรกเกอร์ไม่กี่รายที่สามารถรักษาสเปรดต่ำได้สม่ำเสมอ ช่วยให้จุดเข้าออเดอร์แม่นยำยิ่งขึ้น
- การดำเนินคำสั่งเร็วระดับไมโครวินาที: เซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ที่ Equinix NY4 ทำให้คำสั่งส่งตรงถึงผู้ให้สภาพคล่องโดยไม่ผ่านดีลลิ่งเดสก์
- สภาพคล่องจากหลายแหล่ง: มั่นใจได้ว่าออเดอร์ขนาดใหญ่ก็ยังสามารถจับคู่ได้โดยไม่เกิด Slippage รุนแรง
- ข้อสังเกต: ค่า Swap ในบางคู่เงินอาจอยู่ในระดับเฉลี่ยของตลาด ควรตรวจสอบล่วงหน้าหากคุณวางแผนจะถือออเดอร์ระยะยาว
3. Pepperstone: ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมพร้อมตัวเลือกแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
Pepperstone ครองใจเทรดเดอร์ด้วยชื่อเสียงด้านการบริการที่ได้รับรางวัล และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- ข้อดี:
- มีทั้ง MT4, MT5, cTrader และรองรับ TradingView: เทรดเดอร์สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่ถนัดที่สุดได้ตามสไตล์การวิเคราะห์
- ทีมสนับสนุนลูกค้าที่มีคุณภาพสูง: มีทีมภาษาไทยที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผ่านหลายช่องทาง รวมถึงแชทสดและอีเมล
- สเปรดต่ำในบัญชี Razor: เหมาะกับผู้ที่ต้องการต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะในการเทรดทองคำหรือคู่เงินหลัก
- ข้อสังเกต: อาจมีโบนัสหรือโปรโมชั่นน้อยกว่าโบรกเกอร์ที่เน้นตลาดเอเชีย
4. Exness: โดดเด่นด้านการฝาก-ถอนที่รวดเร็วและเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น
Exness เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มนักเทรดที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการทำธุรกรรม
- ข้อดี:
- ถอนเงินได้ทันที 24/7: ระบบอัตโนมัติทำให้การถอนกำไรรวดเร็ว ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการสภาพคล่องสูง
- Leverage ไม่จำกัดสำหรับบัญชี Pro: เพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ต โดยเฉพาะในช่วงความผันผวน
- มีบัญชี Swap-Free: สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงค่า Swap โดยต้องตรวจสอบเงื่อนไขการใช้งานให้ละเอียด
- ข้อสังเกต: สเปรดในบัญชี Standard อาจสูงกว่าโบรกเกอร์ ECN ในบางช่วงเวลา ค่า Swap ในบัญชีปกติก็อาจสูงสำหรับบางสินทรัพย์
5. Eightcap: โบรกเกอร์ที่เน้นเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัล
Eightcap คือโบรกเกอร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากออสเตรเลีย โดยมุ่งเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยและสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- ข้อดี:
- เชื่อมต่อกับ TradingView โดยตรง: เป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ ทำให้เทรดจากกราฟได้ทันที
- มี CFD คริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 250 รายการ: เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ดิจิทัล
- เครื่องมือ Capitalise.ai: ช่วยสร้างกลยุทธ์อัตโนมัติโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
- ข้อสังเกต: การสนับสนุนภาษาไทยอาจยังไม่ครอบคลุมเท่ากับผู้เล่นเก่าในตลาด

ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์สำหรับ Swing Trader
เพื่อให้คุณเปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็ว นี่คือตารางสรุปข้อมูลสำคัญของ 5 โบรกเกอร์ที่แนะนำ
โบรกเกอร์ | จุดเด่นสำหรับ Swing Trade | ค่า Swap | สเปรดเฉลี่ย (EURUSD) | แพลตฟอร์ม | รองรับ TradingView | ใบอนุญาตหลัก |
---|---|---|---|---|---|---|
Moneta Markets | ค่า Swap ต่ำ, แพลตฟอร์ม ProTrader (TradingView) | แข่งขันได้/ต่ำ | ~0.1 pips (ECN) | MT4, MT5, ProTrader | มีในตัว (ProTrader) | ASIC, FSCA |
IC Markets | สเปรด Raw ต่ำมาก, Execution เร็ว | มาตรฐาน | ~0.0 pips (Raw) | MT4, MT5, cTrader | รองรับการเชื่อมต่อ | ASIC, CySEC |
Pepperstone | ตัวเลือกแพลตฟอร์มหลากหลาย, บริการดี | มาตรฐาน | ~0.1 pips (Razor) | MT4, MT5, cTrader | รองรับการเชื่อมต่อ | ASIC, FCA, CySEC |
Exness | ฝาก-ถอนเร็ว, Leverage ยืดหยุ่น | มาตรฐาน/สูง (บางตัว) | ~0.6 pips (Standard) | MT4, MT5 | ไม่รองรับโดยตรง | FCA, CySEC |
Eightcap | เชื่อมต่อ TradingView โดยตรง, มี Crypto เยอะ | มาตรฐาน | ~0.1 pips (Raw) | MT4, MT5 | รองรับการเชื่อมต่อ | ASIC, FCA |
วิธีเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับ TradingView เพื่อการวิเคราะห์แบบ Swing Trade
การใช้ TradingView ร่วมกับโบรกเกอร์ช่วยให้คุณวิเคราะห์และเทรดได้ในที่เดียว โดยเฉพาะสำหรับ Swing Trader ที่ต้องการความแม่นยำสูง ขั้นตอนการเชื่อมต่อมีดังนี้:
- เข้าเว็บไซต์หรือแอป TradingView: ล็อกอินบัญชีของคุณ
- เปิดกราฟสินทรัพย์ที่ต้องการ: เช่น EUR/USD หรือ XAU/USD
- คลิกที่ “Trading Panel”: ที่ด้านล่างของกราฟ
- เลือกโบรกเกอร์: ค้นหาชื่อโบรกเกอร์ของคุณ เช่น IC Markets, Pepperstone หรือ Eightcap
- ล็อกอินบัญชีเทรด: กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ คุณสามารถสั่งซื้อขาย ตั้ง Stop Loss และ Take Profit ได้ทันทีจากกราฟ
สำหรับ Moneta Markets คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อแยก เพราะ ProTrader คือแพลตฟอร์มที่พัฒนาบนพื้นฐานของ TradingView เอง ทำให้ได้ประสบการณ์เต็มรูปแบบโดยไม่มีช่องว่าง
บทสรุป: เลือกโบรกเกอร์ที่ใช่สำหรับสไตล์ Swing Trade ของคุณในปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ใครมีสเปรดต่ำที่สุด” แต่คือการมองหา “คู่หูทางการเงิน” ที่สนับสนุนกลยุทธ์ระยะยาวของคุณได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะสำหรับ Swing Trader ชาวไทยในปี 2025 ปัจจัยอย่าง ค่า Swap และ คุณภาพแพลตฟอร์มวิเคราะห์ คือหัวใจที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
ในขณะที่ทุกโบรกเกอร์มีจุดแข็งต่างกัน Moneta Markets กลับโดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างต้นทุนต่ำ (โดยเฉพาะค่า Swap), แพลตฟอร์ม ProTrader ที่ล้ำสมัย และความน่าเชื่อถือระดับโลก ทำให้เป็นตัวเลือกที่ “สมดุล” และ “คุ้มค่า” ที่สุดสำหรับนักเทรดที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน
หากคุณกำลังมองหาพันธมิตรที่เข้าใจกลยุทธ์การเทรดระยะกลาง และพร้อมสนับสนุนทุกจังหวะของคุณในปี 2025 และต่อไป Moneta Markets คือคำตอบที่คุณควรพิจารณาอย่างจริงจัง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: Swing Trade ต่างจาก Day Trade อย่างไร?
ความแตกต่างหลักอยู่ที่ระยะเวลาการถือครองออเดอร์ครับ Day Trader จะเปิดและปิดออเดอร์ทั้งหมดภายในวันเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงข้ามคืนและค่า Swap ในขณะที่ Swing Trader จะถือออเดอร์เป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์เพื่อทำกำไรจากรอบการแกว่งตัวของราคาที่ใหญ่กว่า ทำให้ Swing Trader ต้องให้ความสำคัญกับค่า Swap เป็นอย่างมาก
Q2: โบรกเกอร์ Forex ที่ไม่มีค่า Swap (Swap-free) เหมาะกับ Swing Trader หรือไม่?
เหมาะอย่างยิ่งครับ แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ดี บัญชี Swap-free หรือบัญชีอิสลามถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้มีดอกเบี้ยข้ามคืน แต่โบรกเกอร์บางแห่งอาจมีการคิดค่าธรรมเนียมการจัดการ (Administration Fee) แทนหากถือออเดอร์นานเกินจำนวนวันที่กำหนด ดังนั้น ควรอ่านเงื่อนไขของบัญชี Swap-free ของแต่ละโบรกเกอร์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
Q3: ค่าสเปรดของ IC Market สำหรับการเทรดทองคำเป็นอย่างไร?
IC Markets มีชื่อเสียงด้านสเปรดที่ต่ำมาก โดยเฉพาะในบัญชี Raw Spread สำหรับทองคำ (XAUUSD) สเปรดมักจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.1-0.2 pips ซึ่งถือว่าแคบมากและเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์ทุกสไตล์ รวมถึง Swing Trader ที่ต้องการจุดเข้าที่แม่นยำ
Q4: ฉันสามารถเชื่อมต่อบัญชี Moneta Markets กับ TradingView ได้หรือไม่?
ได้แน่นอน และง่ายกว่าโบรกเกอร์อื่นด้วยครับ Moneta Markets มีแพลตฟอร์มพิเศษชื่อว่า ProTrader ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เฟซของ TradingView โดยตรง คุณจึงไม่จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อแยกต่างหาก แค่ล็อกอินเข้า ProTrader คุณก็จะได้รับประสบการณ์การใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์และ Indicator ทั้งหมดของ TradingView ได้ทันที ซึ่งสะดวกมากสำหรับ Swing Trader
Q5: โบรกเกอร์ MT4 ที่ดีที่สุดสำหรับ Swing Trading คือเจ้าไหน?
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่เราแนะนำในบทความนี้ (Moneta Markets, IC Markets, Pepperstone) ล้วนให้บริการแพลตฟอร์ม MT4 ที่มีคุณภาพสูงและเสถียร การเลือก “ที่ดีที่สุด” ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไร หากเน้นค่า Swap ที่ต่ำ Moneta Markets จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หากเน้นสเปรดที่แคบที่สุด IC Markets ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
Q6: มีโบรกเกอร์ไหนให้โบนัสเทรดฟรีโดยไม่ต้องฝากเงินในปี 2568 (2025) หรือไม่?
โบนัสเทรดฟรีโดยไม่ต้องฝากเงิน (No Deposit Bonus) เป็นโปรโมชั่นที่หาได้ยากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะจากโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวด เช่น ASIC หรือ FCA เนื่องจากมีกฎระเบียบที่ห้ามการจูงใจลูกค้าในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม บางโบรกเกอร์อาจมีโปรโมชั่นในบางช่วงเวลา แนะนำให้ตรวจสอบโดยตรงจากหน้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ แต่โดยทั่วไปแล้ว การเลือกโบรกเกอร์ควรเน้นที่เงื่อนไขการเทรดและความน่าเชื่อถือมากกว่าโบนัสครับ
Q7: สำหรับ Swing Trade ควรให้ความสำคัญกับค่าสเปรดหรือค่า Swap มากกว่ากัน?
ควรให้ความสำคัญกับค่า Swap มากกว่าครับ นี่คือจุดที่ Swing Trader หลายคนพลาดไป เพราะค่าสเปรดเป็นต้นทุนที่จ่ายครั้งเดียวตอนเปิดออเดอร์ แต่ค่า Swap เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นทุกวันที่คุณถือออเดอร์ข้ามคืน การถือออเดอร์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ อาจทำให้คุณเสียค่า Swap รวมกันมากกว่าค่าสเปรดเริ่มต้นหลายเท่าตัว ดังนั้น โบรกเกอร์ที่มีค่า Swap ต่ำอย่าง Moneta Markets จึงเป็นประโยชน์ต่อกลยุทธ์ Swing Trade ในระยะยาวมากกว่า
Q8: โบรกเกอร์ที่มี Spread ทอง ต่ําที่สุดในไทยคือเจ้าไหน?
โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านสเปรดทองคำ (XAUUSD) ต่ำที่สุดมักจะเป็นกลุ่ม True ECN เช่น IC Markets และ Pepperstone ซึ่งในบัญชี Raw/Razor ของพวกเขาสามารถทำสเปรดได้ต่ำใกล้เคียง 0.0 pips (ยังไม่รวมค่าคอมมิชชั่น) นอกจากนี้ Moneta Markets ในบัญชี ECN ก็มีสเปรดทองคำที่แข่งขันได้สูงมากเช่นกัน การเลือกโบรกเกอร์จึงควรเปรียบเทียบต้นทุนรวม (สเปรด + คอมมิชชั่น + Swap) เพื่อให้ได้ตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับสไตล์การเทรดของคุณ