Hedge Fund คืออะไร? เจาะลึก 5 กลยุทธ์และความเสี่ยงที่นักลงทุนไทยควรรู้

สารบัญ

เจาะลึกเฮดจ์ฟันด์: จากนิยาม กลยุทธ์ สู่วิธีการลงทุนในบริบทไทย

เฮดจ์ฟันด์ไม่ได้เป็นแค่กองทุนธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือลงทุนที่ยืดหยุ่นมาก ออกแบบมาเพื่อให้ผลตอบแทนสูงสุดโดยไม่สนใจว่าตลาดจะขึ้นหรือลง แตกต่างจากกองทุนรวมที่มักตามดัชนีตลาดไปเสียส่วนใหญ่ นอกจากนี้ มันยังมีจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากเครื่องมือลงทุนแบบเก่าๆ อย่างชัดเจน

illustration of a unique flexible investment vehicle different from traditional funds aiming for absolute return

เฮดจ์ฟันด์คืออะไร แก่นสารและลักษณะเฉพาะ

เฮดจ์ฟันด์คือกองทุนรวมชนิดหนึ่งที่รวบรวมเงินจากนักลงทุนจำกัดจำนวน โดยส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่หรือสถาบันต่างๆ แล้วให้ผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญดูแล เป้าหมายหลักคือทำผลตอบแทนบวกให้สม่ำเสมอ ไม่ว่าตลาดจะผันผวนอย่างไร จุดต่างสำคัญคือเฮดจ์ฟันด์มีอิสระในการเลือกกลยุทธ์และเครื่องมือการเงินที่ซับซ้อนกว่ากองทุนรวมทั่วไปมากนัก

illustration of an expert fund manager collecting capital from limited large investors using complex strategies

ที่มาของเฮดจ์ฟันด์และการพัฒนา

แนวคิดเรื่องเฮดจ์ฟันด์เริ่มต้นในปี 1949 จากอัลเฟรด วินสโลว์ โจนส์ ผู้ที่มองเห็นช่องทางในการเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงด้วยกลยุทธ์ซื้อหุ้นที่คาดว่าจะขึ้นและขายชอร์ตหุ้นที่คาดว่าจะลงพร้อมกัน ชื่อเฮดจ์มาจากการป้องกันความเสี่ยงที่ใช้ตั้งแต่แรก แม้ตอนนี้เฮดจ์ฟันด์หลายแห่งจะเน้นทำกำไรเป็นหลักมากกว่าการป้องกันอย่างเดียว

illustration of complex global investment world with hedge fund concept emerging for high net worth investors

จุดต่างหลักจากกองทุนรวมทั่วไป

เพื่อให้เข้าใจเฮดจ์ฟันด์ให้ลึกซึ้ง ควรเปรียบเทียบกับกองทุนรวมที่นักลงทุนรายย่อยคุ้นเคยมากกว่า

คุณสมบัติ เฮดจ์ฟันด์ กองทุนรวม
เป้าหมาย สร้างผลตอบแทนสัมบูรณ์ ไม่สนทิศทางตลาด สร้างผลตอบแทนเทียบกับดัชนี
กลยุทธ์ ยืดหยุ่นสูง ซับซ้อน ใช้เครื่องมือหลากหลาย เช่น อนุพันธ์ เลเวอเรจ จำกัด มักลงทุนในสินทรัพย์ที่กำหนด ข้อจำกัดด้านเลเวอเรจ
ผู้ลงทุน นักลงทุนรายใหญ่ สถาบัน ผู้มีฐานะสุทธิสูง นักลงทุนทั่วไป รายย่อย
การกำกับดูแล เข้มงวดน้อยกว่า รายงานข้อมูลน้อยกว่า เข้มงวดสูง โปร่งใส รายงานข้อมูลสม่ำเสมอ
สภาพคล่อง ต่ำ มีระยะเวลาล็อกอัพ สูง ซื้อขายได้ทุกวันทำการ
ค่าธรรมเนียม สูง เช่น 2% ของสินทรัพย์ + 20% ของกำไร ต่ำกว่า มีค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ

ความหมายของ ‘เฮดจ์’ และความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

คำว่าเฮดจ์มักถูกสับสนกับเฮดจ์ฟันด์โดยตรง แต่จริงๆ แล้วการเฮดจ์คือวิธีจัดการความเสี่ยง โดยลงทุนเพื่อลดผลกระทบจากราคาที่เคลื่อนไหวไม่เป็นใจในสินทรัพย์หลัก เช่น ใช้อนุพันธ์อย่างออปชั่นหรือฟิวเจอร์สป้องกันความผันผวนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์หรืออัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนเฮดจ์ฟันด์คือชื่อกองทุนที่ในอดีตใช้การเฮดจ์เป็นหลัก แต่ปัจจุบันหลายแห่งขยายกลยุทธ์ไปไกลกว่านั้น เน้นทำผลตอบแทนสูงสุดด้วยเครื่องมือหลากหลาย เช่น เลเวอเรจหรือลงทุนทั่วโลก ดังนั้น การเฮดจ์เป็นแค่เครื่องมือหนึ่งที่เฮดจ์ฟันด์อาจใช้ ไม่ใช่ทั้งหมด

กลยุทธ์การลงทุนหลากหลายในเฮดจ์ฟันด์

ความยืดหยุ่นในการเลือกกลยุทธ์ลงทุนคือจุดแข็งหลักที่ทำให้เฮดจ์ฟันด์มีโอกาสทำผลตอบแทนโดดเด่น ผู้จัดการกองทุนสามารถใช้เครื่องมือการเงินมากมาย รวมถึงอนุพันธ์และการกู้ยืมเพื่อขยายผลตอบแทนได้อย่างอิสระ

กลยุทธ์ Long/Short Equity

กลยุทธ์คลาสสิกและได้รับความนิยมสูงสุดนี้ ผู้จัดการจะซื้อหุ้นที่คาดว่าราคาขึ้นและขายชอร์ตหุ้นที่คาดว่าราคาลงในเวลาเดียวกัน วัตถุประสงค์คือทำกำไรจากส่วนต่างราคาและลดผลกระทบจากความผันผวนตลาดโดยรวม

กลยุทธ์ Event-Driven

กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในบริษัทที่กำลังเจอเหตุการณ์ใหญ่ เช่น การรวมกิจการ การปรับโครงสร้างหนี้ การล้มละลาย หรือเปลี่ยนผู้บริหาร ผู้จัดการจะประเมินผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์แล้วเข้าลงทุนเพื่อคว้ากำไรจากความเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์

กลยุทธ์ Global Macro

เฮดจ์ฟันด์ที่ใช้นโยบายนี้จะวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองโลก เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ นโยบายการเงิน สงครามการค้า หรือการเลือกตั้ง แล้วลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน หรืออนุพันธ์

กลยุทธ์ Relative Value

กลยุทธ์นี้มุ่งหากำไรจากความผิดปกติของราคาในตลาด โดยซื้อสินทรัพย์ที่ถูกประเมินต่ำและขายสินทรัพย์ที่ถูกประเมินสูง ซึ่งทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกัน เช่น ตราสารหนี้ที่คล้ายกันแต่ราคาต่างกันเล็กน้อย

กลยุทธ์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

  • กลยุทธ์เชิงปริมาณ: อาศัยโมเดลคณิตศาสตร์และอัลกอริทึมเพื่อหาโอกาสลงทุนและเทรดอย่างรวดเร็ว
  • กลยุทธ์สินเชื่อ: ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นกู้ หรือหนี้ที่เสี่ยงสูง โดยคาดหวังการฟื้นตัวหรือปรับโครงสร้าง

ความเสี่ยงและผลตอบแทนของเฮดจ์ฟันด์

เฮดจ์ฟันด์ถูกชื่นชมเรื่องโอกาสทำผลตอบแทนสูง แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่ไม่ธรรมดา รวมถึงโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างจากกองทุนทั่วไป

โอกาสทำผลตอบแทนเหนือตลาด

จุดมุ่งหมายหลักของเฮดจ์ฟันด์คือสร้างผลตอบแทนบวกสม่ำเสมอ หรืออัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดโดยรวม ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นแบบไหน ด้วยความยืดหยุ่นในการเลือกกลยุทธ์ การใช้เลเวอเรจ และการกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ทำให้มีศักยภาพสร้างอัลฟ่า หรือผลตอบแทนส่วนเกินเหนือตลาดได้

ความเสี่ยงที่ต้องชั่งน้ำหนักอย่างละเอียด

ถึงจะมีจุดเด่น แต่เฮดจ์ฟันด์มีความเสี่ยงหลายด้านที่นักลงทุนควรระวัง:

  • ความเสี่ยงสภาพคล่อง: มักลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ค่อยนิยมหรือคล่องตัวต่ำ บวกกับกฎล็อกอัพที่จำกัดการถอนเงิน
  • ความเสี่ยงเลเวอเรจ: การกู้ยืมเพิ่มขนาดลงทุนช่วยขยายกำไร แต่ก็ขยายขาดทุนได้มหาศาลเช่นกัน
  • ความเสี่ยงผู้จัดการกองทุน: ผลงานขึ้นกับฝีมือผู้จัดการ หากตัดสินใจพลาดอาจขาดทุนหนัก
  • ความเสี่ยงคู่สัญญา: จากการใช้อนุพันธ์หรือกู้ยืม ที่คู่สัญญาอาจไม่ทำตามสัญญา
  • ความเสี่ยงกฎระเบียบ: แม้กำกับดูแลน้อย แต่การเปลี่ยนกฎอาจกระทบกลยุทธ์และการทำงาน

โครงสร้างค่าธรรมเนียม ‘2 และ 20’

เฮดจ์ฟันด์มีค่าธรรมเนียมสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไป โดยใช้รูปแบบ ‘2 และ 20’ ซึ่งหมายถึง

  • ค่าบริหารจัดการ: ราว 2% ต่อปีจากมูลค่าสินทรัพย์ที่ดูแล
  • ค่าผลงาน: ราว 20% จากกำไร โดยมักมีเงื่อนไขไฮวอเตอร์มาร์ค คือต้องทำกำไรเกินจุดสูงสุดเก่า

ค่าธรรมเนียมแบบนี้ทำให้เฮดจ์ฟันด์ต้องทำผลตอบแทนสูงจริงๆ เพื่อให้นักลงทุนได้กำไรสุทธิที่น่าพอใจ

เฮดจ์ฟันด์กับนักลงทุนไทย: โอกาสและอุปสรรค

สำหรับนักลงทุนไทย การเข้าเฮดจ์ฟันด์โดยตรงยังค่อนข้างยากและมีเงื่อนไขซับซ้อน บทนี้จะพาไปดูภาพรวมและทางเลือกสำหรับคนสนใจ

การกำกับดูแลในไทย

ตอนนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ยังไม่อนุญาตให้ตั้งเฮดจ์ฟันด์แบบสากลที่เปิดให้นักลงทุนรายย่อยทั่วไปเข้าร่วมอย่างเสรีเหมือนกองทุนรวม เพราะเฮดจ์ฟันด์ซับซ้อน เสี่ยงสูงจากเลเวอเรจและคล่องตัวต่ำ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ขาดความรู้ในการประเมินความเสี่ยง ก.ล.ต. ดูแลคุ้มครองผู้ลงทุน และพัฒนาตลาดทุนให้ยั่งยืนภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

วิธีที่นักลงทุนไทยเข้าถึงเฮดจ์ฟันด์

ถึงจะไม่มีเฮดจ์ฟันด์ไทยที่จดทะเบียนเปิดกว้าง แต่ผู้ที่เหมาะสมสามารถเข้าผ่านทางอ้อมหรือต่างประเทศได้:

  • ผ่านบริการธนาคารและเวลธ์เมเนจเมนต์: ธนาคารใหญ่หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่มีบริการสำหรับลูกค้าระดับสูง อาจเสนอผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงเฮดจ์ฟันด์ต่างชาติ เช่น กองทุนรวมที่ลงในเฮดจ์ฟันด์ หรือโครงสร้างซับซ้อนที่อิงผลตอบแทนเฮดจ์ฟันด์
  • ลงทุนตรงต่างประเทศ: ผู้มีฐานะสูงพิเศษสามารถลงเฮดจ์ฟันด์ต่างชาติผ่านโบรกเกอร์หรือธนาคารต่างประเทศ แต่ต้องคำนึงถึงกฎแลกเปลี่ยนเงินและภาษี
  • กองทุนส่วนบุคคล: ผู้มีทุนมากอาจตั้งกองทุนส่วนตัวให้ผู้จัดการมืออาชีพดูแลแบบเฮดจ์ฟันด์ แต่ต้องตามกฎ ก.ล.ต. สำหรับกองทุนส่วนบุคคล

นักลงทุนควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและศึกษาความเสี่ยงให้ดีก่อนลงทุนทางเหล่านี้

ความเป็นไปได้ในการตั้งเฮดจ์ฟันด์ในไทย

สำหรับคนอยากตั้งเฮดจ์ฟันด์ในไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการหรือผู้ก่อตั้ง ถือเป็นเรื่องท้าทายมาก เพราะ

  • ข้อจำกัดกฎหมาย: ก.ล.ต. ยังไม่มีกรอบกฎหมายรองรับการตั้งเฮดจ์ฟันด์แบบยืดหยุ่นสูงเหมือนต่างประเทศ
  • ทุนและทีมงาน: ต้องใช้ทุนเริ่มต้นมหาศาลและทีมผู้เชี่ยวชาญที่เก่งเรื่องจัดการความเสี่ยงและกลยุทธ์ซับซ้อน
  • การกำกับดูแลกองทุนส่วนบุคคล: ถ้าดูแลเงินคนอื่นแบบใกล้เคียง ต้องจดทะเบียนบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งมีกฎเข้มงวดตาม กฎของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ก.ล.ต.

อย่างไรก็ตาม ในยุคนี้ มีนักลงทุนบางกลุ่มสร้างทีมเทรดหรือกลุ่มลงทุนที่ใช้กลยุทธ์เชิงปริมาณคล้ายเฮดจ์ฟันด์ ด้วยทุนตัวเองหรือจากคนรู้จัก ซึ่งอาจไม่ต้องกำกับดูแลแบบ正式 แต่ต้องระวังกฎระดมทุนจากประชาชน

สรุป: บทบาทเฮดจ์ฟันด์ในพอร์ตลงทุนไทย

สรุปแล้ว เฮดจ์ฟันด์เป็นเครื่องมือลงทุนที่ทรงพลัง ด้วยความสามารถสร้างผลตอบแทนบวกสม่ำเสมอและกลยุทธ์หลากหลาย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไป และค่าธรรมเนียมแพงกว่า

สำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะรายย่อย การเข้าถึงตรงยังยากและไม่แนะนำเพราะกฎระเบียบและความเสี่ยงสูง แต่ผู้มีฐานะสูงอาจใช้ทางอ้อมอย่างบริการเวลธ์เมเนจเมนต์ของธนาคารหรือลงทุนต่างประเทศ การลงเฮดจ์ฟันด์ควรเป็นส่วนเล็กๆ ในพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง และใช้เงินที่ยอมรับขาดทุนได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เฮดจ์ฟันด์คืออะไร และแตกต่างจากกองทุนรวมในไทยอย่างไร?

เฮดจ์ฟันด์เป็นกองทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนสัมบูรณ์โดยไม่สนทิศทางตลาด มีความยืดหยุ่นสูงในการใช้กลยุทธ์และเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน รวมถึงการใช้เลเวอเรจ มักลงทุนโดยนักลงทุนรายใหญ่หรือสถาบัน และมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดน้อยกว่า

ส่วนกองทุนรวมในไทย (Mutual Fund) เน้นสร้างผลตอบแทนเทียบกับดัชนี มีกลยุทธ์ที่จำกัดกว่า และมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดเพื่อคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก

นักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยสามารถลงทุนในเฮดจ์ฟันด์ได้โดยตรงหรือไม่ มีทางเลือกอื่นไหม?

โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยไม่สามารถลงทุนในเฮดจ์ฟันด์ได้โดยตรง เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎระเบียบของ ก.ล.ต. และความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์

ทางเลือกอื่นสำหรับนักลงทุนที่มีฐานะสุทธิสูงคือการลงทุนผ่านบริการ Wealth Management ของธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเฮดจ์ฟันด์ต้างประเทศ หรือการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในเฮดจ์ฟันด์ (Fund of Hedge Funds) ซึ่งมักมีเงื่อนไขและข้อจำกัดเฉพาะ

การลงทุนในเฮดจ์ฟันด์มีความเสี่ยงและผลตอบแทนสูงจริงหรือ และเหมาะกับใคร?

ใช่ การลงทุนในเฮดจ์ฟันด์มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่ามาก ทั้งความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ และความเสี่ยงจากผู้จัดการกองทุน

เฮดจ์ฟันด์เหมาะสำหรับนักลงทุนสถาบัน ผู้มีฐานะสุทธิสูง หรือผู้ที่เข้าใจความเสี่ยงเป็นอย่างดี มีเงินลงทุนจำนวนมาก และสามารถรับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยไม่เหมาะกับนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการความปลอดภัยและสภาพคล่องสูง

ค่าธรรมเนียมของเฮดจ์ฟันด์ที่เรียกว่า “2 และ 20” หมายความว่าอย่างไร?

“2 และ 20” คือโครงสร้างค่าธรรมเนียมทั่วไปของเฮดจ์ฟันด์ โดยหมายถึง:

  • 2% ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (Assets Under Management – AUM): เป็นค่าธรรมเนียมบริหารจัดการที่เรียกเก็บเป็นประจำทุกปี
  • 20% ของกำไร: เป็นค่าธรรมเนียมผลงานที่เรียกเก็บจากกำไรที่กองทุนทำได้ ซึ่งมักจะมีเงื่อนไข High Water Mark คือต้องทำกำไรได้สูงกว่าจุดสูงสุดเดิมก่อนจึงจะคิดค่าธรรมเนียม

โครงสร้างนี้ทำให้ค่าธรรมเนียมของเฮดจ์ฟันด์สูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปมาก

หากต้องการเริ่มต้นศึกษาหรือทำงานในวงการเฮดจ์ฟันด์ในประเทศไทย ควรเริ่มต้นอย่างไร?

เนื่องจากเฮดจ์ฟันด์ในรูปแบบสากลยังไม่แพร่หลายในไทย การเริ่มต้นอาจต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้างความรู้และประสบการณ์ในตลาดทุน:

  • ศึกษาความรู้ด้านการลงทุนเชิงลึก: โดยเฉพาะด้านการวิเคราะห์เชิงปริมาณ อนุพันธ์ และกลยุทธ์การลงทุนที่ซับซ้อน
  • ทำงานในสถาบันการเงิน: เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคาร หรือบริษัทจัดการกองทุน ที่มีแผนกวิเคราะห์ลงทุน, ตราสารอนุพันธ์ หรือ Wealth Management
  • สร้างเครือข่าย: กับผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงินทั้งในและต่างประเทศ
  • พิจารณาศึกษาต่อ: ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุนในระดับสูง

หากสนใจทำงานกับเฮดจ์ฟันด์ต่างประเทศ อาจต้องเตรียมตัวด้านภาษาและทักษะเฉพาะทางเพื่อสมัครงานในศูนย์กลางทางการเงินของโลก

มีเฮดจ์ฟันด์สัญชาติไทยที่โดดเด่นบ้างไหม?

ในประเทศไทยยังไม่มีเฮดจ์ฟันด์สัญชาติไทยที่จดทะเบียนและดำเนินงานในรูปแบบที่เปิดเผยและเข้าถึงได้เหมือนเฮดจ์ฟันด์ในต่างประเทศ เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎระเบียบของ ก.ล.ต. อย่างไรก็ตาม อาจมีกองทุนส่วนบุคคลที่บริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ และใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับเฮดจ์ฟันด์แต่ไม่ได้เปิดให้ลงทุนแก่สาธารณะชนทั่วไป

เฮดจ์ฟันด์ในไทยถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานใด และมีข้อกำหนดพิเศษอะไรบ้าง?

ปัจจุบันเฮดจ์ฟันด์ในรูปแบบสากล (เช่นในสหรัฐฯ หรือยุโรป) ไม่มีกรอบการกำกับดูแลโดยตรงจาก ก.ล.ต. ของไทย หากมีการจัดตั้งกองทุนที่บริหารเงินของบุคคลอื่นในลักษณะใกล้เคียงกับเฮดจ์ฟันด์ เช่น กองทุนส่วนบุคคล จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และมีข้อกำหนดที่แตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไป

ข้อกำหนดพิเศษสำหรับกองทุนส่วนบุคคลมักจะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของนักลงทุน (ต้องเป็นผู้มีเงินลงทุนจำนวนมาก), ข้อจำกัดในการโฆษณาชวนเชื่อ และการรายงานข้อมูลที่แตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไป เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนมีความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงได้

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *