1. เทรดฟอเร็กซ์ คืออะไร? นิยามและหลักการพื้นฐานที่ควรรู้
การเทรดฟอเร็กซ์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Forex จากคำว่า Foreign Exchange หมายถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากนานาประเทศ นี่คือตลาดการเงินที่ใหญ่โตที่สุดบนโลก ด้วยสภาพคล่องที่สูงลิ่ว มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันทะลุ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทุนทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างกว้างขวาง สำหรับผู้เริ่มต้น Forex เปรียบเสมือนประตูทางเข้าสู่การลงทุนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทว่าก็ต้องอาศัยการศึกษาอย่างละเอียดเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ตามมา

1.1 Forex ย่อมาจากอะไร และเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง?
Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange ซึ่งคือตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศโดยตรง ที่นี่ ผู้คน องค์กร และธนาคารต่างทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากคู่หนึ่งไปสู่อีกคู่หนึ่ง เพื่อสนับสนุนการค้าขายระหว่างประเทศและการลงทุน แต่สำหรับนักเทรดรายบุคคล Forex กลายเป็นช่องทางเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาคู่สกุลเงิน ตลาดนี้ไม่มีสถานที่กลางที่เป็นตัวตนจริง แต่ดำเนินการผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เปิดซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ห้าวันต่อสัปดาห์
1.2 ใครคือผู้เล่นหลักในตลาด Forex? (ธนาคารกลาง, สถาบันการเงิน, โบรกเกอร์)
ตลาด Forex เต็มไปด้วยผู้เข้าร่วมหลากหลาย ตั้งแต่ยักษ์ใหญ่ไปจนถึงรายเล็กๆ ดังนี้
- ธนาคารกลาง: มีหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินและเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อรักษาความมั่นคงของค่าเงินในประเทศ
- ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่: เป็นกำลังหลักในการสร้างสภาพคล่องมหาศาล และเป็นจุดอ้างอิงราคาสำหรับผู้เล่นอื่นๆ
- สถาบันการเงินอื่นๆ: อย่างกองทุนเฮดจ์ฟันด์ บริษัทจัดการกองทุน หรือบริษัทประกัน ที่นำ Forex มาใช้บริหารความเสี่ยงหรือเก็งกำไร
- บริษัทข้ามชาติ: ใช้การซื้อขาย Forex เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจ เช่น ชำระค่าสินค้าหรือบริการข้ามพรมแดน
- โบรกเกอร์: ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงนักเทรดรายย่อยเข้ากับตลาดใหญ่ เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงการเทรด
- นักเทรดรายย่อย: คือผู้ลงทุนธรรมดาที่เทรดผ่านโบรกเกอร์ เพื่อหวังกำไรจากความผันผวนของราคา
1.3 Forex แตกต่างจากการลงทุนประเภทอื่นอย่างไร? (หุ้น, คริปโต)
การเทรด Forex มีจุดเด่นที่แตกต่างจากรูปแบบการลงทุนอื่นๆ อย่างหุ้นหรือคริปโตเคอร์เรนซี ดังต่อไปนี้
- สภาพคล่อง: Forex มีสภาพคล่องเหนือกว่าตลาดหุ้นหลายเท่า ช่วยให้นักเทรดเข้าออกตลาดได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็ว
- เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ห้าวันต่อสัปดาห์ ขณะที่ตลาดหุ้นมีช่วงเวลาจำกัด
- การใช้เลเวอเรจ: Forex อนุญาตให้ใช้เลเวอเรจสูง ซึ่งขยายทั้งโอกาสกำไรและความเสี่ยงขาดทุน
- ความผันผวน: แม้จะผันผวน แต่โดยรวมแล้ว Forex อาจเสถียรกว่าคริปโตที่ราคาพลิกผันรุนแรงในเวลาสั้นๆ
- สินทรัพย์: Forex เน้นซื้อขายคู่สกุลเงิน หุ้นคือการถือหุ้นบริษัท ส่วนคริปโตคือสินทรัพย์ดิจิทัล
- ศูนย์กลาง: ตลาดหุ้นมีศูนย์กลางชัดเจนอย่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คริปโตกระจายศูนย์ ส่วน Forex เป็นตลาด OTC ที่ซื้อขายผ่านเครือข่ายธนาคาร
2. กลไกการทำงานของตลาด Forex: ทำความเข้าใจคู่สกุลเงินและศัพท์สำคัญ
หลักการทำงานของตลาด Forex คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคู่หนึ่งกับอีกคู่หนึ่ง โดยราคาขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาด นักเทรดต่างพยายามทำนายทิศทางราคาของคู่สกุลเงินเพื่อชิงกำไรจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น การทำความรู้จักกับศัพท์เฉพาะและกระบวนการทำงานของตลาดจึงเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่

2.1 คู่สกุลเงิน (Currency Pairs): หัวใจของการเทรด Forex
ในการเทรด Forex สกุลเงินจะถูกซื้อขายในรูปแบบคู่เสมอ แต่ละคู่ประกอบด้วยสองส่วนหลัก
- สกุลเงินหลัก: คือสกุลเงินตัวแรกในคู่
- สกุลเงินอ้างอิง: คือสกุลเงินตัวที่สอง
ยกตัวอย่างคู่ EUR/USD โดย EUR เป็นสกุลเงินหลักและ USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง หากราคา EUR/USD อยู่ที่ 1.1000 แสดงว่า 1 ยูโรเท่ากับ 1.1000 ดอลลาร์สหรัฐ นักเทรดจะได้กำไรเมื่อสกุลเงินหลักแข็งค่าขึ้น (ซื้อ) หรืออ่อนค่าลง (ขาย) เทียบกับสกุลเงินอ้างอิง
คู่สกุลเงินหลักที่นิยมอย่าง EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF มีการซื้อขายหนาแน่นและสภาพคล่องดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีคู่รองและคู่อื่นๆ ที่สภาพคล่องต่ำกว่า เช่น คู่ที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทไทยอย่าง USD/THB หรือ EUR/THB ซึ่งมักมีความผันผวนสูงและส่วนต่างราคากว้างกว่า
2.2 Pip, Lot, และ Leverage: ศัพท์ที่นักเทรดต้องรู้
ศัพท์เหล่านี้เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่นักเทรด Forex ต้องเข้าใจให้ชัดเจน
- Pip: หน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กที่สุด สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่คือตัวเลขทศนิยมที่สี่ (0.0001) เช่น EUR/USD จาก 1.1000 เป็น 1.1001 คือเปลี่ยน 1 Pip แต่สำหรับคู่ที่มี JPY เป็นสกุลเงินอ้างอิง จะเป็นทศนิยมที่สอง (0.01)
- Lot: หน่วยวัดขนาดการซื้อขายมาตรฐาน
- Standard Lot: 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก
- Mini Lot: 10,000 หน่วย
- Micro Lot: 1,000 หน่วย
ขนาด Lot ส่งผลต่อมูลค่าของ Pip และกำไรหรือขาดทุนโดยตรง
- Leverage: เครื่องมือจากโบรกเกอร์ที่ช่วยให้นักเทรดควบคุมการซื้อขายขนาดใหญ่กว่าทุนจริง เช่น เลเวอเรจ 1:100 หมายถึงควบคุม 100,000 ดอลลาร์ด้วยทุน 1,000 ดอลลาร์ (มาร์จิ้น) มันเพิ่มกำไรได้มาก แต่ก็เร่งความสูญเสียได้เช่นกัน
- มาร์จิ้น: เงินทุนที่ต้องวางไว้เพื่อเปิดสถานะด้วยเลเวอเรจ ไม่ใช่ค่าธรรมเนียม แต่เป็นหลักประกันที่โบรกเกอร์กักไว้
2.3 ตลาด Forex เปิดทำการเมื่อไหร่? เวลาทำการและช่วงเวลาที่คึกคักที่สุด
ตลาด Forex ทำงานไม่หยุดนิ่ง 24 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ เริ่มจากตลาดซิดนีย์ แล้วตามด้วยโตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก โดยแต่ละแห่งมีเวลาทับซ้อนกัน ทำให้ตลาดไหลลื่นตลอดวันทำการ
- ตลาดซิดนีย์: ประมาณ 05:00 – 14:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
- ตลาดโตเกียว: ประมาณ 07:00 – 16:00 น.
- ตลาดลอนดอน: ประมาณ 14:00 – 23:00 น.
- ตลาดนิวยอร์ก: ประมาณ 20:00 – 05:00 น. ของวันถัดไป
ช่วงที่คึกคักที่สุดคือเวลาที่ตลาดใหญ่ทับซ้อน เช่น ลอนดอนกับนิวยอร์ก (20:00 – 23:00 น. ไทย) ซึ่งราคาเคลื่อนไหวแรงและเป็นโอกาสทองสำหรับนักเทรด
3. ข้อดีและข้อควรระวังของการเทรด Forex สำหรับคนไทย
การเทรด Forex นำมาซึ่งทั้งประโยชน์และความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนชาวไทยต้องชั่งน้ำหนักให้ดี เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและลดโอกาสสูญเสีย

3.1 ข้อดี: โอกาสทำกำไร, สภาพคล่องสูง, และความยืดหยุ่น
- โอกาสกำไรสูง: ด้วยเลเวอเรจ นักเทรดทำกำไรได้มากจากทุนน้อย แม้ราคาเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
- สภาพคล่องชั้นนำ: เข้าออกตลาดได้ง่าย ไม่ติดปัญหาหาคู่เทรด
- เปิด 24 ชั่วโมง: เทรดได้ตามเวลาที่สะดวก ห้าวันต่อสัปดาห์
- กำไรสองทาง: ทำเงินได้ทั้งราคาขึ้นและลง
- ค่าธรรมเนียมต่ำ: Spread ต่ำกว่าการลงทุนอื่นๆ
3.2 ข้อควรระวัง: ความเสี่ยงจาก Leverage, ความผันผวน, และความซับซ้อน
- เสี่ยงจากเลเวอเรจ: ขยายขาดทุนได้เร็ว หากตลาดสวนทาง ทุนอาจหายหมดในพริบตา
- ความผันผวน: สูงในช่วงข่าวเศรษฐกิจสำคัญ ราคาพลิกผันรุนแรงและคาดเดายาก
- ความซับซ้อน: ต้องมีความรู้เศรษฐกิจ การวิเคราะห์เทคนิค และจัดการความเสี่ยง
- กฎหมายในไทย: การเทรดกับโบรกเกอร์ต่างชาติไม่ถูกควบคุมโดยตรง แต่การชักชวนลงทุนหรือดำเนินโบรกเกอร์ในไทยโดยไร้ใบอนุญาตอาจผิดกฎหมาย ควรศึกษาจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
3.3 คำถามที่พบบ่อย: เทรด Forex คือการพนันจริงหรือ?
คำถามที่ว่าเทรด Forex คือการพนันหรือไม่ มักถูกถกเถียง โดยเฉพาะในสังคมไทยที่มองการเก็งกำไรในแง่ลบ
ที่จริงแล้ว การเทรด Forex ไม่ใช่การพนันหากทำด้วยความรู้และกลยุทธ์ที่เหมาะสม มันอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจ ข่าวสาร และกราฟราคา เพื่อประเมินทิศทางที่เป็นไปได้ ซึ่งคล้ายการลงทุนที่ต้องใช้ทักษะและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
แต่หากขาดความรู้ การวางแผน หรือการควบคุมความเสี่ยง มันอาจกลายเป็นการพนันได้ การเทรดโดยอาศัยโชคหรืออารมณ์ล้วนๆ ไม่ต่างจากเสี่ยงโชค
ดังนั้น การศึกษาอย่างจริงจัง สร้างวินัย และพัฒนากลยุทธ์ จะช่วยเปลี่ยนจากเสี่ยงโชคสู่การลงทุนที่ยั่งยืน
4. เริ่มต้นเทรด Forex อย่างไร? ขั้นตอนสำหรับมือใหม่ในประเทศไทย
สำหรับผู้เริ่มต้นในไทย การยึดขั้นตอนที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสำเร็จ การวางแผนตั้งแต่แรกคือกุญแจสำคัญ
4.1 เลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือและเหมาะสมกับคนไทย
การเลือกโบรกเกอร์คือก้าวแรกที่สำคัญ โบรกเกอร์ดีควรมีลักษณะเหล่านี้
- การกำกับดูแล: ได้รับการควบคุมจากหน่วยงานชั้นนำโลก เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย), CySEC (ไซปรัส) เพื่อความปลอดภัยของทุน
- Spread และค่าคอม: เปรียบเทียบส่วนต่างราคาและค่าคอม โบรกเกอร์ที่มีค่าต่ำและชัดเจนช่วยประหยัดต้นทุน
- แพลตฟอร์ม: เสถียร ใช้งานง่าย มีเครื่องมือครบ เช่น MetaTrader 4 หรือ 5 ที่นิยมทั่วโลก
- ฝาก-ถอน: รองรับช่องทางสะดวกสำหรับไทย เช่น โอนธนาคารหรือ E-wallet
- บริการลูกค้า: มีภาษาไทยและตอบสนองเร็ว
4.2 เปิดบัญชีเทรดและยืนยันตัวตน (KYC)
หลังเลือกโบรกเกอร์ ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อป้องกันการฟอกเงิน เอกสารทั่วไปคือ
- บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
- เอกสารยืนยันที่อยู่ เช่น บิลค่าน้ำหรือสเตทเมนต์ธนาคาร
กระบวนการนี้อาจใช้เวลา 1-3 วันทำการ ขึ้นกับโบรกเกอร์
4.3 ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนเทรดจริง
ก่อนใช้เงินจริง การฝึกกับบัญชีทดลอง (Demo) เป็นสิ่งจำเป็น มันจำลองการเทรดจริงด้วยเงินปลอม ช่วยให้
- เรียนรู้แพลตฟอร์ม MT4/MT5
- ทดลองกลยุทธ์โดยไร้ความเสี่ยง
- คุ้นเคยกับความผันผวน
- สร้างความมั่นใจ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำฝึกอย่างน้อย 1-3 เดือน จนทำกำไรสม่ำเสมอในเดโม
4.4 สร้างแผนการเทรดและบริหารความเสี่ยง
แผนการเทรดและการจัดการความเสี่ยงคือหัวใจของความสำเร็จ
- แผนการเทรด: กำหนดวิธีเข้า-ออกตลาด คู่สกุลเงิน เวลา และเป้ากำไร/ขาดทุน
- บริหารความเสี่ยง:
- ขนาดเทรด: ไม่เกิน 1-2% ของทุนต่อครั้ง
- Stop Loss: ตั้งจุดตัดขาดทุนเสมอ
- Take Profit: ล็อกกำไรเมื่อถึงเป้า
- หลีกเลี่ยง Overtrade: อย่าเปิดออเดอร์มากหรือใช้เลเวอเรจสูงเกิน
การยึดแผนและกฎเสี่ยงอย่างเคร่งครัดจะปกป้องทุนในระยะยาว
5. สรุป: Forex ไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่เป็นโอกาสที่ต้องศึกษา
การเทรด Forex มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงไม่แพ้กัน มันไม่ใช่ทางลัดรวยอย่างที่เข้าใจผิด แต่ต้องอาศัยความรู้ วินัย และประสบการณ์ การเรียนรู้ต่อเนื่องคือสิ่งจำเป็นในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุด
สำหรับนักลงทุนไทย ต้องระวังพิเศษในการเลือกโบรกเกอร์ ศึกษากฎหมาย และเข้าใจความเสี่ยง เริ่มด้วยเงินที่ยอมเสียได้และบัญชีทดลอง เพื่อก้าวสู่ Forex อย่างมั่นคง ขอให้เตรียมตัวด้วยความรู้และสติ เพื่อคว้าโอกาสและหลีกเลี่ยงกับดัก
6. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับเทรด Forex ในประเทศไทย
6.1 เริ่มต้นเทรด Forex ใช้เงินเท่าไหร่สำหรับคนไทย?
คุณสามารถเริ่มเทรด Forex ด้วยทุนไม่มากนัก ขึ้นกับโบรกเกอร์ที่เลือก หลายแห่งเปิดบัญชีด้วยเงินฝากต่ำสุดแค่ 10-100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 300-3,000 บาท) แต่เพื่อเทรดจริงจังและจัดการความเสี่ยงได้ดี ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำทุนเริ่มต้นอย่างน้อย 500-1,000 ดอลลาร์ เพื่อรองรับการเทรด Lot เล็กและควบคุมความเสี่ยง
6.2 การเทรด Forex ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่ และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
ตอนนี้ การเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างชาติยังไม่ถูกกำกับโดยหน่วยงานไทยโดยตรง จึงไม่มีกฎหมายชัดเจนว่าผิดหรือถูก แต่การชักชวนลงทุนหรือทำธุรกิจโบรกเกอร์ในไทยโดยไร้ใบอนุญาตอาจผิด พ.ร.บ. หลักทรัพย์ และ พ.ร.บ. ธุรกิจเงินทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย และ ก.ล.ต. เตือนถึงความเสี่ยงจากโบรกเกอร์ไม่น่าเชื่อถือ ผู้ลงทุนควรศึกษาอย่างละเอียดและระมัดระวัง
6.3 โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง และแนะนำที่ไหนดี?
โบรกเกอร์เหมาะสำหรับคนไทยควรมีคุณสมบัติดังนี้
- กำกับดูแลจากหน่วยงานสากลชั้นนำ เช่น FCA, ASIC, CySEC
- Spread ต่ำและโปร่งใส
- แพลตฟอร์มเสถียรอย่าง MT4/MT5
- รองรับฝาก-ถอนสะดวกสำหรับไทย
- บริการลูกค้าตอบเร็ว อาจมีภาษาไทย
ไม่แนะนำชื่อเฉพาะเพราะเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงได้ ควรค้นคว้าและเปรียบเทียบเองจากแหล่งน่าเชื่อถือ
6.4 การเทรด Forex สามารถทำกำไรได้วันละ 1,000 บาทจริงหรือ? มีกลยุทธ์อย่างไร?
ทำกำไรวันละ 1,000 บาทจาก Forex เป็นไปได้ แต่ไม่ง่ายและไม่รับประกัน ขึ้นกับทุน ประสบการณ์ กลยุทธ์ การจัดการเสี่ยง และตลาด การทำกำไรสม่ำเสมอต้องมี
- ความรู้: วิเคราะห์เทคนิคและพื้นฐาน
- วินัย: ยึดแผนเทรด
- จัดการเสี่ยง: จำกัดขาดทุน ไม่เสี่ยงเกิน
- กลยุทธ์: เช่น Scalping สำหรับเทรดสั้น Day Trading รายวัน หรือ Swing Trading ตามรอบ
ตั้งเป้าสมเหตุสมผลและเน้นเรียนรู้มากกว่าหากำไรรายวัน
6.5 มีแหล่งเรียนรู้หรือชุมชน Forex สำหรับคนไทยที่ไหนบ้างที่น่าเชื่อถือ?
แหล่งเรียนรู้และชุมชนสำหรับคนไทยมีหลายแห่ง
- เว็บไซต์และบล็อก: ให้ความรู้พื้นฐานและกลยุทธ์ภาษาไทย
- YouTube: ช่องสอน Forex มากมาย
- กลุ่ม Facebook/Line: ชุมชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เลือกกลุ่มที่ให้ข้อมูลดี หลีกเลี่ยงที่ชักชวนลงทุนเกินจริง
- คอร์สออนไลน์/สัมมนา: แบบฟรีหรือเสียเงิน เลือกผู้สอนมีประสบการณ์
ตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่งและเลือกเนื้อหาที่ถูกต้อง เป็นกลาง
6.6 การฝาก-ถอนเงินกับโบรกเกอร์ Forex ในไทยมีวิธีไหนบ้างที่สะดวกและปลอดภัย?
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่รองรับวิธีฝาก-ถอนหลากหลายเพื่อความสะดวก วิธีทั่วไปคือ
- โอนธนาคาร (Wire Transfer): ปลอดภัยแต่ช้าและค่าธรรมเนียมสูง
- บัตรเครดิต/เดบิต (Visa/MasterCard): รวดเร็ว แต่บางธนาคารไทยจำกัดธุรกรรมต่างชาติ
- E-wallets: เช่น Skrill, Neteller, FasaPay, Perfect Money รวดเร็ว ค่าต่ำ
- Local Transfer ผ่านตัวกลาง: บางแห่งรับเงินบาท สะดวกแต่ตรวจสอบตัวกลางให้ดี
เช็คค่าธรรมเนียมและเวลากับโบรกเกอร์แต่ละแห่ง
6.7 จะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ Forex ที่เลือกไม่ใช่มิจฉาชีพ?
หลีกเลี่ยงมิจฉาชีพด้วยวิธีเหล่านี้
- ตรวจใบอนุญาต: ต้องมีจากหน่วยงานอย่าง FCA, ASIC, CySEC และเช็คได้จริง
- อ่านรีวิว: จากฟอรัมหรือเว็บรีวิวเป็นกลาง
- ระวังสัญญาเกินจริง: ไม่มีใครการันตีกำไรหรือไร้เสี่ยง
- ทดลอง Demo: ลองแพลตฟอร์มและบริการ
- ฝาก-ถอนราบรื่น: ระบบโปร่งใสไร้ปัญหา
ถ้าสงสัย หลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัย
6.8 ตลาด Forex มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรบ้าง?
นักเทรดรายย่อยอาจไม่กระทบโดยตรง แต่ตลาด Forex โดยรวมส่งผลต่อไทยดังนี้
- อัตราแลกเปลี่ยน: THB ผันผวนกระทบนำเข้า-ส่งออก อ่อนค่าช่วยส่งออกแต่นำเข้าสูง
- ลงทุนต่างชาติ: ผันผวนอาจลด FDI หรือลงทุนหลักทรัพย์ไทย
- เงินเฟ้อ: ราคานำเข้าส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ
- ท่องเที่ยว: กระทบค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวและรายได้
ธปท. ดูแลเสถียรภาพ THB เพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจมาก
6.9 ควรใช้โปรแกรมเทรด MT4 หรือ MT5 ดีกว่ากันสำหรับมือใหม่ในไทย?
MT4 และ MT5 เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม
- MT4: รุ่นเก่าแต่เสถียร ใช้งานง่าย เหมาะ Forex มี EA และ Indicator มาก
- MT5: รุ่นใหม่ ฟังก์ชันครบ เทรดสินทรัพย์หลากหลาย มีเครื่องมือวิเคราะห์ดีกว่า
สำหรับมือใหม่ไทย MT4 เหมาะเริ่มต้นเพราะนิยมสำหรับ Forex มีชุมชนกว้าง แต่ถ้าจะเทรดสินค้าอื่น MT5 ดีกว่า
6.10 เทรด Forex ต่างจากการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างไร?
Forex แตกต่างจากหุ้นใน SET หลายด้าน
- สินทรัพย์: Forex คู่เงิน หุ้นคือหุ้นบริษัท
- ตลาด: Forex OTC ทั่วโลก 24/5 SET มีศูนย์กลาง เวลาจำกัด
- Leverage: Forex สูง หุ้นจำกัดหรือไม่มี
- สภาพคล่อง: Forex สูงกว่า
- ปัจจัยราคา: Forex จากเศรษฐกิจโลก หุ้นจากผลประกอบการและเศรษฐกิจไทย
- ความเสี่ยง: คล้ายแต่จัดการต่าง
เข้าใจความต่างเพื่อเลือกการลงทุนที่เหมาะสม