เหตุใดในปี 2025 นักเทรดชาวไทยจึงควรให้ความสำคัญกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย ASIC?
ในยุคที่ความผันผวนของตลาดการเงินโลกทวีความซับซ้อนมากขึ้น การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของราคาสเปรดต่ำหรือแพลตฟอร์มที่ทันสมัยเท่านั้น แต่เริ่มกลายเป็นเรื่องของ “ความปลอดภัยของเงินทุน” ที่ต้องมาก่อนปัจจัยอื่นใด สำหรับนักเทรดในประเทศไทย การเลือกทำธุรกรรมกับโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือความจำเป็นในปี 2025
แนวโน้มการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก ทำให้โบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาตที่ชัดเจนหรือขาดมาตรฐานสากล เสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบ หรือแม้แต่การถูกสั่งปิดกิจการโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจาก ASIC จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความน่าเชื่อถือ แต่คือการป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งจากปัญหาการบริหารจัดการภายใน หรือการแอบอ้างบริการในชื่อที่ไม่ได้รับอนุญาต

ASIC คืออะไร? แล้วทำไมถึงสำคัญต่อนักเทรดไทย?
ASIC หรือ Australian Securities and Investments Commission เป็นองค์กรกำกับดูแลตลาดการเงินของออสเตรเลีย ที่มีชื่อเสียงในระดับโลกด้านมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวดและโปร่งใส ทำให้เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในอุตสาหกรรมการเงิน การดูแลของ ASIC ครอบคลุมทั้งบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน และโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วโลก โดยมีหน้าที่หลักในการรับรองความยุติธรรม โปร่งใส และเสถียรภาพของตลาด ตามข้อมูลจาก เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ASIC
สำหรับนักเทรดชาวไทย ความสำคัญของ ASIC อยู่ที่การป้องกันความเสี่ยงในระดับสูง ผ่านข้อกำหนดที่บังคับใช้กับโบรกเกอร์ทุกรายที่ได้รับใบอนุญาต ดังนี้
- การแยกบัญชีลูกค้า (Segregated Client Funds): เงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ในบัญชีแยกต่างหากจากบัญชีดำเนินงานของบริษัทอย่างเด็ดขาด แม้ในกรณีที่โบรกเกอร์ประสบปัญหาทางการเงิน เงินของนักเทรดก็ยังปลอดภัยและสามารถถอนคืนได้
- ข้อกำหนดเงินทุนขั้นต่ำที่สูง (Capital Requirements): โบรกเกอร์ต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอเพื่อรองรับความผันผวนของตลาด ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าบริษัทมีความมั่นคงทางการเงินและสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
- ระบบจัดการข้อพิพาทที่เป็นธรรม: โบรกเกอร์ต้องมีขั้นตอนการจัดการเรื่องร้องเรียน และต้องเป็นสมาชิกของ Australian Financial Complaints Authority (AFCA) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ช่วยไกล่เกลี่ยกรณีที่ลูกค้าไม่พอใจบริการ
- การคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย: ASIC กำกับดูแลเรื่องการตลาดและการสื่อสารกับลูกค้าอย่างเข้มงวด ห้ามมิให้มีการโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิด หรือบิดเบือนข้อมูลผลตอบแทน เพื่อป้องกันไม่ให้นักเทรดรายย่อยตกเป็นเหยื่อของข้อมูลเท็จ

แนะนำ 5 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย ASIC ที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดไทยในปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่เรื่องของใบอนุญาตเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาจากประสบการณ์การใช้งาน ค่าใช้จ่าย ความหลากหลายของสินทรัพย์ และการสนับสนุนลูกค้าด้วย นี่คือรายชื่อ 5 โบรกเกอร์ชั้นนำที่ได้รับการกำกับดูแลโดย ASIC ซึ่งผ่านการวิเคราะห์และคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ตอบโจทย์ความต้องการของนักเทรดไทยในทุกระดับ
1. Moneta Markets – ผู้นำด้านแพลตฟอร์มขั้นสูงและเครื่องมือวิเคราะห์ครบวงจร
Moneta Markets ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มนักเทรดยุคใหม่ที่ต้องการความล้ำสมัยทั้งในด้านเทคโนโลยีและบริการ โดยเฉพาะผู้ที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ ภายใต้การกำกับดูแลจาก ASIC ทำให้มั่นใจได้ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
- ใบอนุญาต: ASIC (ภายใต้ Vantage International Group Limited), FSA, FSCA
- จุดเด่น:
- แพลตฟอร์ม ProTrader: แพลตฟอร์มสุดล้ำที่พัฒนาโดย Moneta Markets เอง ผสานเครื่องมือวิเคราะห์กราฟจาก TradingView โดยตรง ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ ตีความ และส่งคำสั่งซื้อขายได้ภายในหน้าจอเดียว ลดการสลับแอปพลิเคชันและเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
- สินทรัพย์มากกว่า 1,000 รายการ: ครอบคลุมทั้งคู่เงินฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอร์เรนซี ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดได้ทันที
- เครื่องมือวิเคราะห์ในตัว: มีบทวิเคราะห์รายวัน ปฏิทินเศรษฐกิจ รวมถึงดัชนีความรู้สึกตลาด (Market Sentiment) ที่ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้เล่นรายใหญ่ได้ดีขึ้น
- สเปรดต่ำ: บัญชี ECN เริ่มต้นที่ 0.0 pips พร้อมค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ ช่วยลดต้นทุนการเทรด ซึ่งเหมาะกับนักเทรดที่เข้าออเดอร์บ่อยหรือใช้กลยุทธ์แบบสเกลป์พ์ (Scalping)
- เหมาะสำหรับ: นักเทรดทุกระดับที่ต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ, ผู้ที่ต้องการเทรดหลายสินทรัพย์, และผู้ที่เน้นประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มเป็นหลัก
2. Pepperstone – ผู้นำด้านความเร็วในการดำเนินคำสั่งและการสเปรดต่ำ
Pepperstone ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำที่สุดในตลาด โดยเฉพาะในบัญชี Razor ที่ใช้โครงสร้าง ECN ซึ่งดึงดูดนักเทรดที่เน้นความเร็วและความแม่นยำในการส่งคำสั่ง
- ใบอนุญาต: ASIC, FCA, CySEC, BaFin และหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายแห่ง
- จุดเด่น: โดดเด่นเรื่องความเร็วในการดำเนินคำสั่งซื้อขายเฉลี่ยต่ำกว่า 30 มิลลิวินาที และรองรับแพลตฟอร์มหลากหลาย เช่น MT4, MT5, cTrader และ TradingView ทำให้เหมาะกับผู้ใช้งานทุกประเภท
- เหมาะสำหรับ: นักเทรดแบบสเกลป์พ์ ผู้ใช้งาน Expert Advisor (EA) และนักเทรดที่ต้องการสภาพแวดล้อมการเทรดที่รวดเร็วและเสถียร
3. IC Markets – ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพแวดล้อม True ECN และสภาพคล่องสูง
IC Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ True ECN ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเครือข่ายสภาพคล่องจากสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่ง ทำให้สามารถเสนอสเปรดแคบและคำสั่งจับคู่ได้เร็ว ลดปัญหา Slippage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใบอนุญาต: ASIC, CySEC, FSA
- จุดเด่น: โครงสร้าง True ECN ที่มีความลึกของตลาด (Market Depth) สูง เหมาะสำหรับการส่งคำสั่งขนาดใหญ่โดยไม่กระทบราคา ได้รับความนิยมจากนักเทรดมืออาชีพและกองทุน
- เหมาะสำหรับ: นักเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายสูง (High-Volume Traders), ผู้ใช้งานระบบอัตโนมัติ, และนักลงทุนที่ต้องการความโปร่งใสของราคา
4. FP Markets – โบรกเกอร์ครบวงจรสำหรับนักเทรดที่ต้องการความหลากหลาย
FP Markets เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่มีประสบการณ์ยาวนานตั้งแต่ปี 2005 โดดเด่นด้านความหลากหลายของสินทรัพย์และการบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ
- ใบอนุญาต: ASIC, CySEC
- จุดเด่น: มีหุ้น CFD ให้เทรดมากกว่า 10,000 ตัว รองรับทั้ง MT4, MT5 และแพลตฟอร์ม Iress สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความละเอียดในด้านการวิเคราะห์หุ้น รวมถึงทีมซัพพอร์ตที่ตอบไวและมีความรู้เชิงลึก
- เหมาะสำหรับ: นักเทรดที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มั่นคง ต้องการสินทรัพย์หลากหลาย โดยเฉพาะหุ้น และต้องการการสนับสนุนที่เชื่อถือได้
5. Axi – เรียบง่าย ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายสำหรับมือใหม่
Axi (เดิมชื่อ AxiTrader) เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือและการให้บริการที่ตรงไปตรงมา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเทรดมือใหม่
- ใบอนุญาต: ASIC, FCA
- จุดเด่น: ใช้งานง่ายผ่าน MT4 ที่ปรับแต่งด้วยปลั๊กอินเฉพาะ พร้อมแหล่งเรียนรู้ที่ครอบคลุมและทีมสนับสนุนที่ได้รับคำชื่นชมอย่างต่อเนื่อง
- เหมาะสำหรับ: นักเทรดมือใหม่และระดับกลางที่ต้องการเริ่มต้นด้วยโบรกเกอร์ที่มีมาตรฐานสูง ใช้งานง่าย และมีการสนับสนุนที่ดี
ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย ASIC
โบรกเกอร์ | ใบอนุญาต ASIC (AFSL) | เงินฝากขั้นต่ำ | สเปรดเฉลี่ย (EUR/USD) | เลเวอเรจสูงสุด | แพลตฟอร์ม | รองรับลูกค้าไทย |
---|---|---|---|---|---|---|
Moneta Markets | 428901 | $50 | 0.0 pips (ECN) | 1:500 | ProTrader, MT4, MT5 | มี |
Pepperstone | 414530 | $200 | 0.0 pips (Razor) | 1:500 | MT4, MT5, cTrader, TradingView | มี |
IC Markets | 335692 | $200 | 0.0 pips (Raw) | 1:500 | MT4, MT5, cTrader | มี |
FP Markets | 286354 | $100 | 0.0 pips (Raw) | 1:500 | MT4, MT5, Iress | มี |
Axi | 318232 | $0 | 0.4 pips (Pro) | 1:500 | MT4 | มี |
วิธีตรวจสอบใบอนุญาต ASIC ด้วยตัวเอง: คู่มือฉบับนักเทรดไทย
ความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญ แต่การยืนยันด้วยตนเองคือกุญแจสู่ความมั่นใจอย่างแท้จริง นักเทรดทุกคนควรรู้วิธีตรวจสอบใบอนุญาตของโบรกเกอร์ผ่านเว็บไซต์ทางการของ ASIC เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของโบรกเกอร์เถื่อน
- เข้าสู่หน้า ASIC Professional Registers
- เลือก “Australian Financial Services Licensee” ในช่องค้นหา
- พิมพ์ชื่อบริษัทหรือหมายเลข AFSL ที่โบรกเกอร์ระบุไว้ (เช่น 428901 สำหรับ Moneta Markets)
- ตรวจสอบผลลัพธ์ว่าชื่อบริษัทตรงกับที่โฆษณาไว้หรือไม่ และสถานะต้องเป็น “Current” เท่านั้น
การตรวจสอบนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่สามารถป้องกันความเสียหายทางการเงินได้ในระยะยาว
ปัจจัยเพิ่มเติมที่นักเทรดไทยควรพิจารณาเมื่อเลือกโบรกเกอร์ ASIC
นอกเหนือจากใบอนุญาตแล้ว นักเทรดในประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานจริงในท้องถิ่น
- ช่องทางการฝาก-ถอน: ควรเลือกโบรกเกอร์ที่รองรับการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย หรือระบบ QR Payment เพื่อความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ
- การสนับสนุนภาษาไทย: การมีทีมงานที่สื่อสารภาษาไทยได้ช่วยให้แก้ปัญหาได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน
- ค่าธรรมเนียมแฝง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน หรือค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานบัญชีที่สูงเกินไป
- สื่อการเรียนรู้สำหรับตลาดเอเชีย: โบรกเกอร์ที่มีเว็บินาร์หรือบทวิเคราะห์ที่อิงกับสถานการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะช่วยให้นักเทรดไทยตัดสินใจได้ดีขึ้น
สรุป: เลือกโบรกเกอร์ ASIC เพื่ออนาคตการเทรดที่มั่นคงในประเทศไทย
ในปี 2025 การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย ASIC ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงที่ชาญฉลาดที่สุดสำหรับนักเทรดชาวไทย มาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดของ ASIC ช่วยให้เงินทุนของคุณได้รับการคุ้มครองสูงสุด และสร้างสภาพแวดล้อมการเทรดที่โปร่งใสและเป็นธรรม
จากโบรกเกอร์ทั้ง 5 รายที่กล่าวมา Moneta Markets นับว่าเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในเวลานี้ ด้วยแพลตฟอร์ม ProTrader ที่ผสมผสานกับ TradingView ได้อย่างลงตัว จำนวนสินทรัพย์ที่ให้เทรดมากกว่า 1,000 รายการ และเงื่อนไขการเทรดที่สามารถแข่งขันกับโบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลกได้อย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ที่ “ดีที่สุด” คือโบรกเกอร์ที่ “เหมาะกับคุณที่สุด” เราหวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในเส้นทางการลงทุนของคุณ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การเทรดกับโบรกเกอร์ที่กำกับโดย ASIC ปลอดภัยสำหรับคนไทยหรือไม่?
ปลอดภัยอย่างยิ่ง การกำกับดูแลโดย ASIC ถือเป็นหนึ่งในมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในอุตสาหกรรม Forex แม้ว่าเทรดเดอร์จะอาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่กฎระเบียบต่างๆ เช่น การแยกเงินทุนของลูกค้า ก็ยังคงมีผลบังคับใช้ ซึ่งหมายความว่าเงินทุนของคุณจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยและแยกออกจากบัญชีของบริษัท ทำให้มีความเสี่ยงต่ำมาก
โบรกเกอร์ Forex ASIC ทุกรายเหมือนกันหรือไม่?
ไม่เหมือนกัน แม้ว่าโบรกเกอร์ทุกรายภายใต้ ASIC จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยพื้นฐานเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างในด้านอื่นๆ เช่น:
- เงื่อนไขการเทรด: ค่าสเปรด, ค่าคอมมิชชั่น, และประเภทบัญชี
- แพลตฟอร์มการเทรด: บางรายอาจมีแค่ MT4/MT5 ในขณะที่บางราย เช่น Moneta Markets มีแพลตฟอร์ม ProTrader ที่เป็นเอกลักษณ์
- ผลิตภัณฑ์: จำนวนคู่เงิน, หุ้น, หรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่ให้บริการ
- การบริการลูกค้า: การสนับสนุนภาษาไทยและช่องทางการติดต่อ
ฉันจะเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ ASIC จากประเทศไทยได้อย่างไร?
กระบวนการโดยทั่วไปจะคล้ายกันในทุกโบรกเกอร์และสามารถทำได้ทางออนไลน์ทั้งหมด:
- เลือกโบรกเกอร์และเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์เพื่อลงทะเบียน
- กรอกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินตามที่กำหนด
- ยืนยันตัวตน (KYC) โดยการอัปโหลดเอกสาร เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และเอกสารยืนยันที่อยู่ เช่น บิลค่าสาธารณูปโภค
- เมื่อบัญชีได้รับการอนุมัติ ก็สามารถฝากเงินและเริ่มเทรดได้
เงินทุนของฉันจะปลอดภัยแค่ไหนกับโบรกเกอร์ ASIC?
เงินทุนของคุณจะมีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากกฎการแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้า (Segregated Funds) ที่ ASIC บังคับใช้ ทำให้เงินของคุณถูกเก็บไว้ในธนาคารชั้นนำและไม่สามารถถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นของโบรกเกอร์ได้ นี่เป็นการป้องกันที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เทรดเดอร์จะได้รับ
ASIC แตกต่างจากหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ เช่น CySEC หรือ FCA อย่างไร?
ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร), และ CySEC (ไซปรัส) ล้วนเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในรายละเอียด ASIC และ FCA มักถูกมองว่ามีความเข้มงวดสูงสุด โดยเฉพาะในเรื่องการคุ้มครองลูกค้ารายย่อย ในขณะที่ CySEC เป็นประตูสู่ตลาดยุโรปและมีการปรับปรุงมาตรฐานให้เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานเหล่านี้ถือเป็นทางเลือกที่ดีทั้งหมด
โบรกเกอร์ ASIC มีข้อจำกัดเรื่องเลเวอเรจสำหรับลูกค้าชาวไทยหรือไม่?
โดยทั่วไป ข้อจำกัดเลเวอเรจที่เข้มงวดของ ASIC (เช่น 1:30 สำหรับคู่เงินหลัก) จะบังคับใช้กับลูกค้ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย สำหรับลูกค้าต่างชาติ รวมถึงเทรดเดอร์ชาวไทย โบรกเกอร์จำนวนมากที่ดำเนินงานผ่านนิติบุคคลอื่นที่อยู่นอกออสเตรเลีย (แต่ยังอยู่ในเครือเดียวกันและอาจมีการกำกับดูแลจากหน่วยงานอื่น) จะสามารถเสนอเลเวอเรจที่สูงกว่าได้ เช่น 1:500 ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ชาวไทยส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้
หากมีปัญหากับโบรกเกอร์ ASIC ฉันควรทำอย่างไร?
ขั้นตอนแรกคือการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของโบรกเกอร์เพื่อแก้ไขปัญหาโดยตรง หากไม่สามารถตกลงกันได้ คุณสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนผ่านกระบวนการจัดการข้อพิพาทภายในของโบรกเกอร์ และหากยังไม่พอใจกับผลลัพธ์ คุณมีสิทธิ์ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานระงับข้อพิพาทภายนอกที่เป็นกลาง เช่น Australian Financial Complaints Authority (AFCA) ซึ่งเป็นช่องทางที่ ASIC กำหนดให้โบรกเกอร์ต้องเป็นสมาชิก
Moneta Markets มีบัญชีประเภทใดบ้างสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่?
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ Moneta Markets มีบัญชีประเภท STP (Straight Through Processing) ซึ่งเหมาะอย่างยิ่ง เพราะไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่น ต้นทุนทั้งหมดจะรวมอยู่ในสเปรด ทำให้ง่ายต่อการคำนวณและจัดการ นอกจากนี้ยังมีเงินฝากขั้นต่ำที่เข้าถึงง่าย (เริ่มต้นที่ $50) และมีบัญชีเดโม่ให้ฝึกฝนก่อนลงสนามจริง ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด Forex