Copy Trade คืออะไร? ทำไมนักลงทุนในประเทศไทยถึงนิยมในปี 2025
ในยุคที่เวลาคือทรัพยากรอันมีค่าที่สุด การลงทุนรูปแบบใหม่ที่ช่วยประหยัดแรง แต่ยังคงโอกาสทำกำไรได้จริง จึงกลายเป็นที่ต้องการของนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่มีงานประจำ หนึ่งในเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้ดีที่สุดในปี 2025 คือ **Copy Trade** หรือ “การคัดลอกการเทรด” — เทคโนโลยีที่เปลี่ยนวิธีลงทุนในตลาด Forex อย่างสิ้นเชิง
Copy Trade คือระบบที่ให้คุณในฐานะ “นักลงทุน” (Investor) สามารถติดตามและคัดลอกคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์มืออาชีพ หรือที่เรียกว่า “Master Trader” ได้อัตโนมัติทันทีที่พวกเขาเปิดออเดอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหรือออกตำแหน่ง การจัดการความเสี่ยง หรือการตั้งค่า Take Profit – ทุกอย่างจะถูกส่งผ่านเข้าสู่พอร์ตของคุณโดยอัตโนมัติ ตามสัดส่วนของเงินทุนที่คุณกำหนดไว้แต่แรก
กลไกพื้นฐานง่ายมาก: เลือกนักเทรดที่คุณเชื่อมั่น → ตั้งค่าการคัดลอก → ระบบจัดการทุกอย่างให้คุณโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเฝ้ากราฟ ไม่ต้องวิเคราะห์ตลาดด้วยตัวเอง คุณก็สามารถมีโอกาสทำกำไรได้เหมือนมืออาชีพ
แล้วทำไม Copy Trade ถึงกำลังมาแรงในไทยช่วงนี้?
หนึ่งในเหตุผลหลักคือ **ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่** ที่ไม่มีเวลาศึกษาเทคนิคการเทรดลึกๆ แต่ยังอยากหาช่องทางลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากประจำ หรือซื้อกองทุนรวม อีกทั้ง Copy Trade ยังเปิดโอกาสให้ผู้เริ่มต้นได้เรียนรู้กลยุทธ์จริงจากประสบการณ์ของผู้อื่น โดยไม่ต้องเสี่ยงจากการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง — ทั้งหมดนี้ทำให้ Copy Trade กลายเป็น “ประตูบานแรก” ที่เข้าถึงง่ายและปลอดภัยมากกว่าการเทรดด้วยตัวเองสำหรับมือใหม่
ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Copy Trading ที่ต้องรู้ก่อนเริ่ม
แม้ Copy Trade จะดูน่าสนใจ แต่ก็ไม่ใช่การลงทุนที่ไร้ความเสี่ยง เหมือนการใช้เครื่องมือใดๆ ในตลาดการเงิน การเข้าใจทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างรอบด้านจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีสติ และตั้งเป้าหมายได้อย่างสมเหตุสมผล
ข้อดี (Pros)
- ประหยัดเวลาได้อย่างมหาศาล: ไม่ต้องนั่งจ้องจอทั้งวัน หรือศึกษากราฟเทคนิคหลายชั่วโมง แค่เลือกเทรดเดอร์ดีๆ แล้วปล่อยให้ระบบทำงานแทนคุณ
- เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่มีความรู้: เป็นวิธีเรียนรู้ตลาด Forex แบบเนียนๆ โดยไม่ต้องเข้าใจทุกอย่างตั้งแต่วันแรก
- เรียนรู้จากกลยุทธ์ของผู้มีประสบการณ์: คุณสามารถติดตามหลาย Master Trader ศึกษาแนวทางการบริหารพอร์ต จัดการความเสี่ยง หรือแม้แต่จิตวิทยาการเทรด แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในอนาคต
- กระจายความเสี่ยงได้ง่าย: แทนที่จะพึ่งคนเดียว คุณสามารถกระจายเงินไปติดตามหลายเทรดเดอร์ที่มีสไตล์ต่างกัน เช่น บางส่วนเน้นความปลอดภัย ส่วนอีกคนอาจรับความเสี่ยงสูงเพื่อผลตอบแทนมาก
ข้อเสีย (Cons)
- ไม่มีใครรับประกันผลกำไร: ผลลัพธ์ในอดีตไม่ใช่ตัวการันตีว่าจะทำกำไรได้ในอนาคต หาก Master Trader เปลี่ยนกลยุทธ์หรือตัดสินใจผิดพลาด คุณก็ต้องรับผลไปด้วย
- ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนอื่น: คุณไม่สามารถควบคุมการเทรดได้ทั้งหมด การขาดวินัยของนักเทรดที่คุณติดตาม อาจส่งผลต่อพอร์ตของคุณทันที
- ค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจมองข้าม: บางโบรกเกอร์มีค่าคอมมิชชั่น หรือหักส่วนแบ่งกำไรจากผู้ติดตาม (Profit Share) ซึ่งอาจกินกำไรของคุณไปโดยไม่รู้ตัว ต้องอ่านเงื่อนไขให้ละเอียด
5 ปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ Copy Trade ที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย
การเริ่มต้นกับ Copy Trade ไม่ใช่แค่เลือกใครสักคนมาคัดลอก แต่เริ่มต้นตั้งแต่การเลือก “บ้าน” หรือโบรกเกอร์ที่คุณจะใช้บริการ เพราะแพลตฟอร์มที่ดี คือรากฐานของการลงทุนที่ยั่งยืน นี่คือ 5 ปัจจัยหลักที่นักลงทุนไทยควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
1. ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาต (Credibility & Regulation)
ไม่ว่าโบรกเกอร์จะโฆษณาดีแค่ไหน จุดสำคัญที่สุดคือ “มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เชื่อถือได้หรือไม่” โบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมจาก ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร), หรือ CySEC (ไซปรัส) มักมีมาตรฐานการดำเนินงานสูง มีการแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท (Segregated Accounts) และมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลและเงินทุนที่เข้มงวด คุณสามารถตรวจสอบสถานะใบอนุญาตได้จากเว็บไซต์ทางการ เช่น ASIC เพื่อยืนยันความโปร่งใส
2. คุณภาพของ Master Traders (Quality of Master Traders)
หัวใจของ Copy Trade คือ “คน” ที่คุณจะคัดลอก โบรกเกอร์ที่ดีควรแสดงข้อมูลผลการเทรดอย่างโปร่งใส รวมถึง “Max Drawdown” หรือระดับการขาดทุนสูงสุดที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงที่สำคัญที่สุด ยิ่ง Max Drawdown ต่ำ แปลว่ายิ่งมีความเสี่ยงน้อย คุณควรเลือกนักเทรดที่มีประวัติยาวนาน ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และมีจำนวนผู้ติดตามที่สูง
3. ค่าธรรมเนียมและสเปรด (Fees and Spreads)
สเปรด (ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask) และค่าคอมมิชชั่น คือต้นทุนการเทรดของคุณ หากสเปรดสูง หรือมีค่าธรรมเนียมแฝง แม้กำไรจะดูดี แต่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจหดหายไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะผู้ที่คัดลอกการเทรดบ่อยครั้ง ควรเปรียบเทียบต้นทุนระหว่างโบรกเกอร์ให้ละเอียด
4. แพลตฟอร์มใช้งานง่ายหรือไม่ (Platform Usability)
สำหรับมือใหม่ การมีหน้าจอที่เข้าใจง่าย ค้นหานักเทรด ดูสถิติ และตั้งค่าการคัดลอกได้ในไม่กี่คลิก คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์ม Copy Trade เป็นของตัวเอง มักให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าการเชื่อมต่อกับบริการบุคคลที่สามที่อาจซับซ้อน
5. การฝาก-ถอนเงินและการสนับสนุนลูกค้าในประเทศไทย (Thai Local Support)
นี่คือ “ปัจจัยชีวิตจริง” ที่คนไทยต้องเจอ โบรกเกอร์ที่รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย หรือ Thai QR Payment จะช่วยให้ธุรกรรมรวดเร็ว ไม่ต้องรอ 2-3 วัน และไม่เสียค่าธรรมเนียมแฝง อีกทั้ง หากมีทีมสนับสนุนที่พูดภาษาไทยได้ จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาฉุกเฉินได้ทันทีโดยไม่ต้องรอนาน
จัดอันดับ 5 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ Copy Trade ยอดนิยมในประเทศไทย อัปเดตล่าสุด ปี 2025
จากข้อมูลเชิงลึกและการประเมินอย่างรอบด้าน เรานำเสนอโบรกเกอร์ที่โดดเด่นที่สุดในตลาดไทยสำหรับการใช้งาน Copy Trade ปี 2025 โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือ ต้นทุนการเทรด การสนับสนุนผู้ใช้ชาวไทย และคุณภาพของระบบทั้งหมด
1. Moneta Markets – แพลตฟอร์มใช้งานง่ายและสเปรดต่ำที่สุด
เหมาะสำหรับ: มือใหม่ถึงระดับกลาง ที่เน้นการเริ่มต้นที่ง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย และต้องการประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น
Moneta Markets คือโบรกเกอร์ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มนักลงทุนไทย โดยเฉพาะจากความสามารถของแพลตฟอร์ม CopyTrader ที่ออกแบบมาเพื่อความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพสูง ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม ทุกอย่างใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้ทันที
จุดเด่นที่ตรวจสอบได้จริง:
- แพลตฟอร์ม CopyTrader ที่ใช้งานง่าย: หน้าจอสะอาด แสดงข้อมูลผลการเทรดของ Master Trader อย่างชัดเจน พร้อมระบบกรองตามสไตล์การเทรด ระดับความเสี่ยง และ Max Drawdown
- สเปรดต่ำมาก: โดยเฉพาะคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD ที่สเปรดเริ่มต้นเพียงไม่กี่พิป ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรให้ผู้ที่คัดลอกบ่อย
- การดำเนินคำสั่งที่รวดเร็วและแม่นยำ: ใช้เทคโนโลยี ECN และเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางการเทรดระดับโลก ลดปัญหา Slippage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สนับสนุนผู้ใช้ชาวไทยโดยตรง: มีทีมงานซัพพอร์ตภาษาไทย และรองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารในประเทศไทย ทำให้เรื่องการเงินไม่ใช่อุปสรรค
ข้อควรพิจารณา: แม้จำนวน Master Trader อาจยังไม่มากเท่าโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ แต่ทุกคนผ่านการคัดกรองคุณภาพมาแล้ว จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเลือกคนที่ไม่น่าเชื่อถือ
2. Exness – เลเวอเรจไม่จำกัดและฝากถอนทันที
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการใช้เลเวอเรจสูง หรือต้องการความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ต
Exness คือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่คุ้นหูสำหรับนักเทรดไทย มีจุดแข็งด้าน “ความเร็ว” ทั้งในเรื่องการฝาก-ถอนเงินที่เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที และการดำเนินคำสั่งเทรดที่มีความเร็วสูงมาก แพลตฟอร์ม Social Trading ของ Exness ใช้งานง่าย และมีจำนวน Master Trader จำนวนมากให้เลือก
จุดเด่น:
- เลเวอเรจสูงสุดไม่จำกัด: เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ต้นทุนต่ำในการควบคุมขนาดตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น
- การเงินรวดเร็ว: รองรับหลายช่องทาง เช่น ธนาคารไทย, TrueMoney, และ Cryptocurrency
- มีชื่อเสียงและดำเนินงานมายาวนาน: เป็นที่รู้จักในระดับสากล ทำให้มั่นใจในความมั่นคง
ข้อควรระวัง: ค่าสเปรดในบัญชีบางประเภทอาจสูงกว่าคู่แข่ง และการใช้เลเวอเรจสูงเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงได้อย่างมากหากไม่บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
3. FBS – โบนัสเยอะและมีบัญชีหลากหลาย
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเพิ่มเงินทุนเริ่มต้นด้วยโบนัส และชอบโปรโมชั่นต่างๆ
FBS มีชื่อเสียงด้านการตลาดและการให้โบนัสที่ค่อนข้างบ่อย ทั้งโบนัสเงินฝาก 100% และแคมเปญลุ้นรางวัล มีแอปพลิเคชัน FBS CopyTrade ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานบนมือถือ ทำให้สามารถจัดการการคัดลอกได้ทุกที่ทุกเวลา
จุดเด่น:
- โปรโมชั่นที่น่าสนใจ: ช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถทดลองระบบ Copy Trade ด้วยทุนมากขึ้น
- เงินฝากขั้นต่ำต่ำ: เริ่มต้นเพียง $1 ทำให้เข้าถึงง่าย
ข้อควรระวัง: คุณภาพของ Master Trader บนแพลตฟอร์มมีความหลากหลาย ผู้ใช้ต้องใช้เวลาในการคัดเลือกอย่างระมัดระวัง และควรตรวจสอบผลลัพธ์ในระยะยาว ไม่ใช่แค่ดูผลกำไรช่วงสั้นๆ
4. FXTM – แหล่งข้อมูลการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม
เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการเทรดไปพร้อมกับการคัดลอก
FXTM (หรือ ForexTime) มีชื่อเสียงด้านการให้ความรู้ ทั้งบทความวิเคราะห์ วิดีโอสอน และสัมมนาออนไลน์ฟรี แพลตฟอร์ม FXTM Invest แสดงข้อมูลผลการดำเนินงานของ Master Trader ได้อย่างโปร่งใส และมีระบบจัดอันดับที่ช่วยให้เลือกคนที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น
จุดเด่น:
- แหล่งความรู้ครบวงจร: เหมาะกับผู้ที่ตั้งใจจะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้เป็นเทรดเดอร์อิสระในอนาคต
- ข้อมูล Master Trader โปร่งใส: แสดงผลตอบแทน ความเสี่ยง และ Max Drawdown อย่างชัดเจน
ข้อควรระวัง: โครงสร้างค่าธรรมเนียมอาจซับซ้อนกว่าโบรกเกอร์อื่นเล็กน้อย ควรศึกษาเงื่อนไขให้ดีก่อนเริ่มต้น
5. Pepperstone – มีแพลตฟอร์มให้เลือกหลากหลาย
เหมาะสำหรับ: นักเทรดระดับกลางถึงสูงที่ต้องการความยืดหยุ่นและเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมจากนักเทรดมืออาชีพ ด้วยสเปรดต่ำและคุณภาพการส่งคำสั่งที่ยอดเยี่ยม แม้ไม่มีแพลตฟอร์ม Copy Trade เป็นของตัวเอง แต่รองรับการเชื่อมต่อกับบริการบุคคลที่สามอย่าง Myfxbook AutoTrade และ ZuluTrade ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ
จุดเด่น:
- สเปรดและค่าคอมมิชชั่นต่ำ: เหมาะกับผู้ที่เทรดบ่อยและต้องการต้นทุนต่ำ
- เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มภายนอกได้: ให้อิสระสูงในการเลือกเครื่องมือและกลยุทธ์
ข้อควรระวัง: การตั้งค่าผ่านบริการภายนอกอาจซับซ้อนสำหรับมือใหม่ และไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการระบบ “ครบในที่เดียว”
ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ Copy Trade ชั้นนำในประเทศไทย ปี 2025
| โบรกเกอร์ (Broker) | ใบอนุญาต (Regulation) | เงินฝากขั้นต่ำ (Min. Deposit) | แพลตฟอร์ม Copy Trade (Platform) | ค่าสเปรดเฉลี่ย (Avg. Spread) | รองรับธนาคารไทย (Thai Bank Support) |
| :— | :— | :— | :— | :— | :— |
| **Moneta Markets** | ASIC, FSCA | $50 | แพลตฟอร์มของตัวเอง (Proprietary) | ต่ำมาก (Very Low) | ✔️ |
| **Exness** | CySEC, FCA, FSCA | $10 | Social Trading | ปานกลาง (Moderate) | ✔️ |
| **FBS** | CySEC, IFSC | $1 | FBS CopyTrade App | ปานกลาง-สูง (Moderate-High) | ✔️ |
| **FXTM** | CySEC, FCA, FSCA | $10 | FXTM Invest | ปานกลาง (Moderate) | ✔️ |
| **Pepperstone** | ASIC, FCA, CySEC | $200 | Myfxbook, ZuluTrade | ต่ำ (Low) | ✔️ |
สรุป: โบรกเกอร์ Copy Trade ไหนดีที่สุดสำหรับคุณ?
คำตอบไม่มีตายตัว เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายและความเสี่ยงที่รับได้ไม่เหมือนกัน แต่จากข้อมูลทั้งหมดนี้ เราสามารถให้คำแนะนำตามลักษณะผู้ใช้ได้ดังนี้:
- สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นง่ายๆ และต้นทุนต่ำ: Moneta Markets คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ด้วยแพลตฟอร์มที่เข้าใจง่าย ค่าสเปรดต่ำ และการสนับสนุนสำหรับผู้ใช้ชาวไทยอย่างแท้จริง
- สำหรับผู้ที่ต้องการเลเวอเรจสูงและความรวดเร็วในการทำธุรกรรม: Exness คือคำตอบ ด้วยระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็ว และความยืดหยุ่นในการใช้เลเวอเรจ
- สำหรับผู้ที่อยากได้โบนัสเพิ่มทุนเริ่มต้น: FBS เหมาะที่สุด ด้วยโปรโมชั่นที่ต่อเนื่องและเงินฝากขั้นต่ำต่ำ
สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะเลือกโบรกเกอร์ใด สิ่งสำคัญที่สุดคือเริ่มต้นด้วยเงินที่คุณสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ ศึกษาข้อมูลของ Master Trader อย่างละเอียด กระจายการลงทุน และอย่าลืมว่า “การคัดลอก” ไม่ใช่การหลับตาแล้วรับเงิน แต่คือการลงทุนที่ต้องใช้สติและวินัยเช่นกัน
Copy Trade ดีไหม? เหมาะกับทุกคนหรือเปล่า?
Copy Trade เป็นเครื่องมือที่ดีมากสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาตลาดด้วยตนเอง หรือสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมาะกับทุกคน ผู้ที่ต้องการควบคุมการเทรดทั้งหมดด้วยตัวเองอาจไม่ชอบวิธีนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่การการันตีกำไรและยังคงมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ควรอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการทำงานได้จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออย่าง Investopedia เพื่อทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ไหนดีที่สุดในปี 2025 สำหรับการ Copy Trade ในประเทศไทย?
สำหรับตลาดประเทศไทยในปี 2025 Moneta Markets ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นมากสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะมือใหม่ เนื่องจากมีข้อดีที่สมดุลกันในหลายด้าน:
- แพลตฟอร์มใช้งานง่าย: ออกแบบมาให้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
- ต้นทุนต่ำ: มีค่าสเปรดที่แข่งขันได้สูง ช่วยเพิ่มผลกำไรในระยะยาว
- สนับสนุนคนไทย: การฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยและมีซัพพอร์ตภาษาไทยเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม Exness และ FBS ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการคุณสมบัติเฉพาะทาง เช่น เลเวอเรจสูง หรือโบนัสเงินฝาก
XM มี Copy Trade หรือไม่? (จาก Pantip)
XM ไม่มีบริการ Copy Trading ในรูปแบบแพลตฟอร์มแยกเหมือนโบรกเกอร์อื่น เช่น Exness Social Trading หรือ FBS CopyTrade แต่ XM มีบริการที่เรียกว่า MQL5 Signals ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อบัญชีเทรด MT4/MT5 ของคุณเข้ากับชุมชน MQL5 เพื่อคัดลอกสัญญาณเทรด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนกว่าและอาจไม่เหมาะกับมือใหม่เท่ากับระบบ Copy Trade ที่มาพร้อมกับโบรกเกอร์โดยตรง
FBS มี CopyTrade ไหม และใช้งานอย่างไร?
มีครับ FBS มีแอปพลิเคชันสำหรับ Copy Trade โดยเฉพาะชื่อว่า “FBS CopyTrade” ซึ่งเป็นแอปบนมือถือที่ใช้งานง่าย วิธีการคือ:
- ดาวน์โหลดแอป FBS CopyTrade และสมัครสมาชิก
- ฝากเงินเข้าบัญชีนักลงทุนของคุณ
- เลือก Master Trader ที่คุณสนใจจากรายการจัดอันดับ
- กด “คัดลอก” และตั้งค่าพารามิเตอร์การลงทุน
- ระบบจะเริ่มคัดลอกการเทรดโดยอัตโนมัติ
IUX Markets มีบริการ Copy Trade ได้ไหม?
มีครับ IUX Markets มีบริการ Copy Trade ให้บริการ แต่แพลตฟอร์มและจำนวน Master Trader อาจยังไม่แพร่หลายและเป็นที่รู้จักเท่ากับโบรกเกอร์ใหญ่อย่าง Exness หรือ Moneta Markets หากสนใจควรศึกษาข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ในการเริ่ม Copy Trading?
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีเงินฝากขั้นต่ำที่ค่อนข้างต่ำ เช่น $10 หรือ $50 ทำให้สามารถเริ่มต้นได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การกระจายความเสี่ยงมีประสิทธิภาพ (เช่น การติดตาม Master มากกว่า 1 คน) และเพื่อให้พอร์ตทนทานต่อความผันผวนได้ดีขึ้น แนะนำให้เริ่มต้นด้วยเงินทุนอย่างน้อย $200 – $500 และควรเป็นเงินเย็นที่คุณพร้อมรับความเสี่ยงได้
จะเลือก Master Trader ที่ดีได้อย่างไร?
ควรพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ใช่แค่ดูผลกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว:
- ประวัติการเทรด (Trading History): ควรมีประวัติการเทรดอย่างน้อย 6-12 เดือน
- ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ (Consistent Return): มองหาการเติบโตที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่กำไรสูงหวือหวาในเวลาสั้นๆ
- Max Drawdown ต่ำ: เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงที่สำคัญที่สุด ยิ่งต่ำยิ่งดี (ควรต่ำกว่า 30%)
- จำนวนผู้ติดตาม (Copiers): จำนวนผู้ติดตามที่เยอะและเงินทุนที่บริหารจัดการสูงเป็นสัญญาณที่ดี
- สไตล์การเทรด: เลือกคนที่สไตล์การเทรดตรงกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
Copy Trading ผิดกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?
ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายในประเทศไทยที่ควบคุมการเทรด Forex ของบุคคลทั่วไปโดยตรง การทำ Copy Trading ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่น่าเชื่อถือจึงไม่ถือว่าผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานสากลที่เข้มงวด (เช่น ASIC, FCA) เพื่อความปลอดภัยของเงินทุน
Exness Copy Trade กับ Forex4you อันไหนดีกว่ากัน? (จาก Pantip)
ทั้งสองโบรกเกอร์มีบริการ Copy Trade ที่ดี แต่มีจุดเด่นต่างกัน Exness (Social Trading) มีจุดเด่นที่ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่สูงกว่าในไทย มีสภาพคล่องสูง และระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วมาก ในขณะที่ Forex4you (Share4you) เป็นผู้บุกเบิกในวงการ Copy Trade มีระบบที่เสถียรและใช้งานมานาน แต่ในปัจจุบัน Exness อาจมีฐานผู้ใช้และ Master Trader ในไทยที่ใหญ่กว่า ทำให้หาคนติดตามได้ง่ายกว่า
Moneta Markets มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?
Moneta Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำอย่าง ASIC (Australian Securities and Investments Commission) และ FSCA (Financial Sector Conduct Authority of South Africa) การมีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เข้มงวดเหล่านี้หมายความว่าโบรกเกอร์ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานที่โปร่งใส มีการแยกเงินทุนของลูกค้าออกจากเงินของบริษัท ซึ่งให้ความปลอดภัยในระดับสูงแก่นักลงทุน
