โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีการจัดอันดับสูงสุดในประเทศไทย ปี 2025: ความน่าเชื่อถือและเทคโนโลยี

สารบัญ

เกณฑ์การประเมินโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์สำหรับนักลงทุนชาวไทยในปี 2025

การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ไม่ใช่แค่การเปรียบเทียบชื่อเสียงหรือโปรโมชั่นเท่านั้น แต่ต้องดูจากหลายมิติที่ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์การเทรดและผลตอบแทนในระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนชาวไทยที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านการเงินและการสื่อสาร การประเมินของเราจึงถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อตอบโจทย์ความต้องการจริงของผู้ใช้งานในประเทศไทย เราใช้กรอบการวิเคราะห์ 5 ด้านหลัก ได้แก่:

ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล

ความปลอดภัยของเงินทุนคือพื้นฐานสำคัญที่สุดก่อนเริ่มต้น การเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก เช่น ASIC จากออสเตรเลีย, CySEC ของไซปรัส หรือ FCA จากสหราชอาณาจักร หมายถึงโบรกเกอร์นั้นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการเงินที่เข้มงวด มีระบบแยกบัญชีลูกค้า (Segregated Accounts) และมีประกันความเสี่ยงในกรณีล้มละลาย ซึ่งเป็นการป้องกันเงินของคุณอย่างแท้จริง

ค่าธรรมเนียมและสเปรด

ต้นทุนการเทรดอาจกินกำไรของคุณไปอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะหากคุณเทรดบ่อยครั้ง เราจึงวิเคราะห์ทั้งสเปรดเฉลี่ยในคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD และ XAU/USD รวมถึงค่าคอมมิชชั่น, ค่า swap และค่าธรรมเนียมแฝงที่อาจไม่ถูกประกาศไว้อย่างชัดเจน โบรกเกอร์ที่ดีจะต้องมีโครงสร้างค่าใช้จ่ายโปร่งใส ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง และให้เงื่อนไขที่เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดของแต่ละบุคคล

ภาพประกอบการเทรดฟอเร็กซ์ในประเทศไทย

การฝาก-ถอนผ่านธนาคารในประเทศไทย

สำหรับเทรดเดอร์ไทย การทำธุรกรรมผ่านธนาคารในประเทศคือปัจจัยชี้ขาด โบรกเกอร์ที่รองรับการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารไทย เช่น Thai QR Payment หรือ Internet Banking โดยตรง จะช่วยลดเวลาในการโอนเงินจากวันเหลือเพียงไม่กี่นาที ไม่ต้องผ่านตัวกลาง และลดความเสี่ยงจากค่าธรรมเนียมธนาคารต่างประเทศ จุดนี้เองที่ทำให้โบรกเกอร์บางรายได้เปรียบอย่างมากในตลาดไทย

บริการลูกค้าภาษาไทย

เมื่อเกิดปัญหา คุณต้องการความช่วยเหลือทันที และต้องเข้าใจกันโดยไม่ต้องแปล โบรกเกอร์ที่มีทีมสนับสนุนภาษาไทยที่พร้อมตลอดเวลา ผ่านช่องทาง Live Chat, อีเมล หรือโทรศัพท์ จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอหลายชั่วโมงเพื่อให้เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษตอบกลับ ทีมซัพพอร์ตที่มีความรู้และมีความเป็นมืออาชีพจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

แพลตฟอร์มและเครื่องมือวิเคราะห์

แพลตฟอร์มการเทรดคือเครื่องมือทำงานหลักของคุณ หากแพลตฟอร์มล่มหรือช้าแม้เพียงไม่กี่วินาที ก็อาจทำให้คุณเสียโอกาสหรือขาดทุนได้ เราจึงให้คะแนนสูงกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงผู้ที่พัฒนาแพลตฟอร์มเฉพาะตัว เช่น ProTrader หรือ cTrader ที่มาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์กราฟระดับมืออาชีพ และรองรับการใช้งานบนมือถือได้อย่างราบรื่น

10 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025

จากเกณฑ์การประเมินที่เข้มงวดทั้ง 5 ข้อ นี่คือรายชื่อโบรกเกอร์ที่ผ่านการคัดกรองและได้รับคะแนนสูงสุด พร้อมเหตุผลที่ทำให้แต่ละรายเหมาะกับนักเทรดชาวไทยในปีนี้

1. Moneta Markets – ผู้มาแรงที่รวมทุกความต้องการของเทรดเดอร์ยุคใหม่

เหมาะกับ: นักเทรดที่เน้นต้นทุนต่ำ ความรวดเร็ว และความทันสมัย

จุดแข็งเด่น:

  • สเปรดเริ่มต้น 0.0 pips บนบัญชี ECN: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาย Scalping และ Day Trading ที่ต้องการต้นทุนต่ำสุด
  • ระบบฝากถอนผ่าน QR Code ที่รวดเร็วที่สุดในตลาด: รองรับการฝากและถอนผ่านธนาคารไทยโดยตรง ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที ทำให้คุณควบคุมเงินทุนได้อย่างเต็มที่
  • แพลตฟอร์ม ProTrader ที่ผสานกับ TradingView: ให้คุณวิเคราะห์กราฟด้วยเครื่องมือระดับมืออาชีพในตัวเดียว ไม่ต้องสลับแอป
  • การกำกับดูแลจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้): รับประกันความปลอดภัยของเงินทุนในระดับสากล

2. IC Markets – ผู้นำด้านเทคโนโลยี ECN สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ

เหมาะกับ: นักเทรดที่เน้นความเร็ว ความถูกต้อง และผู้ใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ

จุดแข็งเด่น: ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ ECN ที่ดีที่สุด โดยเสนอสเปรดดิบเริ่มต้น 0.0 pips และมีสภาพคล่องจากผู้ให้บริการหลายราย ทำให้การส่งคำสั่งซื้อขาย (Order Execution) เร็วมาก พร้อมรองรับ MT4, MT5 และ cTrader อย่างเต็มรูปแบบ จึงเป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพและผู้ใช้ EA

3. Exness – เบอร์หนึ่งเรื่องการถอนเงินทันที

เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในเรื่องเงินทุนและเลเวอเรจ

จุดแข็งเด่น: มีระบบการถอนเงินอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง สามารถถอนกำไรได้แทบจะทันที (Instant Withdrawal) ผ่านธนาคารไทยโดยตรง พร้อมให้เลเวอเรจสูงสุดไม่จำกัด (ตามเงื่อนไข) และมีประเภทบัญชีหลากหลาย ตั้งแต่บัญชี Standard Cent สำหรับมือใหม่ ไปจนถึงบัญชี Pro สำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูง

4. Pepperstone – ความสมดุลของบริการและเทคโนโลยี

เหมาะกับ: นักเทรดที่ต้องการบริการครบวงจรและทีมสนับสนุนที่เชื่อถือได้

จุดแข็งเด่น: ได้รับการยอมรับในระดับโลกด้านคุณภาพการบริการลูกค้า มีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้มากที่สุดรายหนึ่ง ได้แก่ MT4, MT5, cTrader และการเชื่อมต่อกับ TradingView โดยตรง สเปรดต่ำ การดำเนินคำสั่งเร็ว และมีการกำกับดูแลจาก ASIC, FCA และ CySEC ทำให้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

5. XM – จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่

เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้และทดลองเทรดอย่างมีระบบ

จุดแข็งเด่น: เงินฝากขั้นต่ำต่ำมาก (เริ่มต้นที่ $5) มีบัญชี Micro ให้ทดลองเทรดด้วยล็อตเล็ก ๆ พร้อมแหล่งเรียนรู้ภาษาไทยที่ครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสอนเทรด บทความวิเคราะห์ หรือเว็บินาร์รายสัปดาห์ เป็นโบรกเกอร์ที่สร้างระบบนิเวศสำหรับมือใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม

6. FP Markets – โบรกเกอร์เก่าแก่ที่ยังทันสมัย

เหมาะกับ: นักเทรดที่ต้องการความน่าเชื่อถือและเครื่องมือครบครัน

จุดแข็งเด่น: ก่อตั้งมานานและอยู่ภายใต้การกำกับของ ASIC มีสเปรดต่ำในบัญชี Raw ECN และมีเครื่องมือเสริมสำหรับ MT4/MT5 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม Iress สำหรับผู้ที่สนใจเทรดหุ้น CFD ควบคู่ไปกับฟอเร็กซ์

7. Eightcap – ทางเลือกสำหรับผู้รักเทคโนโลยีและคริปโต

เหมาะกับ: นักเทรดที่สนใจเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ

จุดแข็งเด่น: มีการผสานกับ Capitalise.ai ซึ่งช่วยให้เทรดด้วยกลยุทธ์แบบไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมเปิดโอกาสให้เทรด CFD ของคริปโตเคอร์เรนซีหลากหลายชนิด ตั้งแต่ Bitcoin ไปจนถึงเหรียญอัลต์ ทำให้เหมาะกับผู้ที่มองหาความหลากหลายในพอร์ต

8. Vantage – โซเชียลเทรดดิ้งและโบนัสจัดเต็ม

เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการเรียนรู้จากการคัดลอกเทรดเดอร์เก่ง ๆ และต้องการโบนัสเพิ่มทุน

จุดแข็งเด่น: มีระบบ Copy Trading ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้มือใหม่สามารถคัดลอกกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ที่ทำกำไรได้จริง นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นเงินฝากและโบนัสต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น

9. Tickmill – ต้นทุนต่ำสุดสำหรับเทรดเดอร์หนัก

เหมาะกับ: นักเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายสูง

จุดแข็งเด่น: โดดเด่นในบัญชี Pro และ VIP ที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมบางแห่ง ทำให้ต้นทุนโดยรวมต่ำแม้เทรดบ่อยครั้ง เซิร์ฟเวอร์มีความเสถียรสูง และเหมาะกับการใช้งาน EA หรือการเทรดความถี่สูง

10. Axi – โบรกเกอร์ที่เน้นความสัมพันธ์ระยะยาว

เหมาะกับ: นักเทรดทุกระดับที่ต้องการความมั่นคงและข้อมูลวิเคราะห์ที่มีคุณภาพ

จุดแข็งเด่น: มีชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือและการบริการลูกค้า มี Axi Academy ที่ให้ความรู้แบบเจาะลึก พร้อมบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญรายวัน เป็นโบรกเกอร์ที่เน้นการสร้างนักเทรดที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ไม่ใช่แค่การดึงดูดด้วยโปรโมชั่น

ภาพแสดงอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำสำหรับนักลงทุนไทย

ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำสำหรับนักลงทุนไทย

เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบโบรกเกอร์ 5 อันดับแรกในรูปแบบตาราง พร้อมข้อมูลสำคัญที่คุณต้องรู้ก่อนเลือกใช้บริการ

โบรกเกอร์ (Broker) สเปรดเฉลี่ย (EUR/USD) เลเวอเรจสูงสุด หน่วยงานกำกับดูแล การฝากเงินผ่านธนาคารไทย
Moneta Markets เริ่มต้น 0.0 pips 1:1000 ASIC, FSCA ✅ (QR Code, Online Banking)
IC Markets เริ่มต้น 0.0 pips 1:1000 ASIC, CySEC ✅ (Online Banking)
Exness เริ่มต้น 0.3 pips ไม่จำกัด (ตามเงื่อนไข) FCA, CySEC ✅ (QR Code, Online Banking)
Pepperstone เริ่มต้น 0.0 pips 1:500 ASIC, FCA, CySEC ✅ (Online Banking)
XM เริ่มต้น 0.6 pips 1:1000 ASIC, CySEC ✅ (QR Code, Online Banking)

เลือกโบรกเกอร์อย่างไรให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ

ไม่มีโบรกเกอร์ใดที่เหมาะกับทุกคน การเลือกต้องเริ่มจากการเข้าใจตัวเองก่อนว่าคุณเป็นเทรดเดอร์แบบไหน ลองพิจารณาตามประเภทต่อไปนี้

สำหรับผู้เริ่มต้น

หากคุณเพิ่งก้าวเข้าสู่โลกฟอเร็กซ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเทคนิคหรือต้นทุนสูงเกินไป XM จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมด้วยเงินฝากขั้นต่ำต่ำ และแหล่งเรียนรู้ภาษาไทยที่ครบครัน ในขณะที่ Moneta Markets ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีระบบฝากถอนผ่าน QR Code ที่ใช้งานง่าย และแพลตฟอร์ม ProTrader ที่ออกแบบมาให้เข้าใจง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน

สำหรับนักเทรดสาย Scalping

การเทรดแบบ Scalping ต้องอาศัยสเปรดต่ำและความเร็วในการส่งคำสั่งที่สูงมาก โบรกเกอร์ประเภท ECN อย่าง IC Markets, Pepperstone และ Moneta Markets (ในบัญชี ECN) จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips และ Slippage ต่ำ ทำให้คำสั่งดำเนินการได้ตามราคาที่ต้องการ

สำหรับผู้ใช้ Expert Advisors (EA)

หากคุณใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ สิ่งที่ต้องการคือเซิร์ฟเวอร์ที่เสถียร ไม่ดีเลย์ และไม่มีการจำกัดกลยุทธ์การเทรด โบรกเกอร์อย่าง IC Markets และ Tickmill มีชื่อเสียงในด้านนี้ นอกจากนี้ บริการ VPS (Virtual Private Server) ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเซิร์ฟเวอร์หลักของโบรกเกอร์ก็ช่วยลด Latency ได้อย่างมาก ซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จของ EA โดยตรง

สรุป: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในปี 2025 สำหรับนักลงทุนไทย

การเลือกโบรกเกอร์คือก้าวแรกที่กำหนดความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ การประเมินของเราในปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าความปลอดภัย, ต้นทุนการเทรด, และความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมกับธนาคารไทย คือ 3 ปัจจัยหลักที่นักลงทุนชาวไทยให้ความสำคัญมากที่สุด

ในบรรดาโบรกเกอร์ทั้งหมด Moneta Markets คือชื่อที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ ด้วยการผสานเทคโนโลยีแพลตฟอร์มขั้นสูงกับความสะดวกของระบบ QR Code ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนไทยได้อย่างลงตัว พร้อมสเปรดต่ำและการกำกับดูแลระดับโลก ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีโบรกเกอร์ใดที่เหมาะกับทุกคน หวังว่ารายชื่อ **โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีการจัดอันดับสูงสุด** นี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และก้าวเข้าสู่เส้นทางการเทรดในปี 2025 ด้วยความพร้อมและเป้าหมายที่ชัดเจน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทยคือใคร?

ความน่าเชื่อถือขึ้นอยู่กับการกำกับดูแลเป็นหลัก โบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานชั้นนำอย่าง ASIC (ออสเตรเลีย) หรือ FCA (สหราชอาณาจักร) ถือว่ามีความน่าเชื่อถือสูง จากรายชื่อของเรา โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets, IC Markets, และ Pepperstone ล้วนอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวดเหล่านี้

Forex ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?

การเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศยังไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรงในประเทศไทย แต่ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย การเทรดจึงอยู่ในพื้นที่สีเทา สิ่งสำคัญคือการเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินทุนของคุณจะปลอดภัย ตามข้อมูลจาก Reuters ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดในหลายประเทศ

โบรกเกอร์ Forex ใดที่ได้รับการรับรองจาก กลต. ของไทย?

ปัจจุบันยังไม่มีโบรกเกอร์ Forex รายย่อยใดที่ได้รับการรับรองโดยตรงจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของประเทศไทย เทรดเดอร์ไทยส่วนใหญ่จึงเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานระดับโลกแทน

ฉันควรเริ่มต้นเทรด Forex ด้วยเงินเท่าไหร่?

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีเงินฝากขั้นต่ำที่ค่อนข้างต่ำ (ประมาณ $50 – $200) อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เริ่มต้นด้วยเงินทุนที่คุณพร้อมจะเสียได้โดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต และควรเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่มากพอที่จะบริหารความเสี่ยงได้ดี (เช่น $500 – $1,000) เพื่อให้สามารถทนต่อความผันผวนของตลาดได้

โบรกเกอร์ Forex ไหนมีสเปรดต่ำที่สุด?

โบรกเกอร์ประเภท ECN มักจะมีสเปรดต่ำที่สุด โดยเริ่มต้นที่ 0.0 pips แต่จะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นแทน โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านสเปรดต่ำได้แก่ Moneta Markets, IC Markets, และ Pepperstone ซึ่งเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์สาย Scalping และ Day Trading

MT4 หรือ MT5 ดีกว่ากันสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย?

MT5 เป็นเวอร์ชันที่ใหม่กว่าและมีฟีเจอร์ทางเทคนิคที่เหนือกว่า เช่น Timeframe ที่มากกว่า และ Indicator ในตัวที่เยอะกว่า อย่างไรก็ตาม MT4 ยังคงเป็นที่นิยมอย่างสูงเนื่องจากมี EA และ Custom Indicator ให้เลือกใช้จำนวนมหาศาล สำหรับมือใหม่ ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถใช้งานได้ดี แต่หากต้องการเทคโนโลยีล่าสุด MT5 คือคำตอบ

วิธีการตรวจสอบใบอนุญาตของโบรกเกอร์ Forex ทำอย่างไร?

คุณสามารถตรวจสอบได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแล โดยนำชื่อบริษัทหรือหมายเลขใบอนุญาตที่โบรกเกอร์ระบุไว้บนเว็บไซต์ ไปค้นหาในฐานข้อมูลของหน่วยงานนั้นๆ เช่น ค้นหาในทะเบียนของ ASIC หรือ CySEC เพื่อยืนยันสถานะใบอนุญาต

โบรกเกอร์ไหนดีที่สุดสำหรับมือใหม่ในปี 2025?

สำหรับมือใหม่ในปี 2025 เราแนะนำให้มองหาโบรกเกอร์ที่สมดุลระหว่างการใช้งานง่าย, การสนับสนุนที่ดี และต้นทุนที่ต่ำ

  • Moneta Markets: เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากระบบฝาก-ถอนผ่าน QR Code ที่ง่ายและรวดเร็ว ทำให้ลดความกังวลเรื่องธุรกรรม และมีแพลตฟอร์ม ProTrader ที่ใช้งานง่าย
  • XM: ยังคงเป็นตัวเลือกคลาสสิกสำหรับมือใหม่ ด้วยเงินฝากขั้นต่ำที่น้อยและมีแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ภาษาไทยที่ครอบคลุมที่สุด

ทั้งสองโบรกเกอร์นี้มีทีมซัพพอร์ตภาษาไทยที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *