ทำไมการเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่รองรับเงินบาท (THB)
สำหรับนักลงทุนชาวไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกของการซื้อขายฟอเร็กซ์ในปี 2025 การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับตนเองจึงไม่ใช่แค่เรื่องของแพลตฟอร์มหรือสเปรด แต่คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อต้นทุน ความสะดวก และความปลอดภัยในระยะยาว สิ่งที่ถูกมองข้ามบ่อยที่สุด แต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง คือการที่โบรกเกอร์นั้นรองรับการฝาก-ถอนด้วยสกุลเงินบาทโดยตรงหรือไม่
เมื่อเข้าสู่ปี 2025 โบรกเกอร์ที่เข้าใจตลาดไทยจะต้องสามารถเชื่อมโยงกับระบบนิเวศทางการเงินของประเทศได้อย่างราบรื่น หากคุณยังต้องแปลงเงินจากบาทเป็นดอลลาร์เพื่อฝากเข้าบัญชีเทรด คุณอาจกำลังเสียค่าใช้จ่ายแฝงโดยไม่รู้ตัว และเสียเวลาไปกับขั้นตอนที่ซับซ้อนโดยไม่จำเป็น
การมีโบรกเกอร์ที่รองรับ THB โดยตรงจึงกลายเป็น “ตัวเร่ง” ที่ช่วยให้เทรดเดอร์ไทยสามารถโฟกัสกับการวิเคราะห์ตลาดและบริหารความเสี่ยง แทนที่จะต้องมาปวดหัวกับเรื่องธุรกรรม การเลือกพันธมิตรทางการเงินที่ดี จึงไม่ต่างจากการเลือกผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ในสนามรบที่ไม่หยุดนิ่งอย่างตลาดฟอเร็กซ์

ข้อได้เปรียบของการเลือกโบรกเกอร์ที่รองรับเงินบาท
การใช้งานสกุลเงินท้องถิ่นในระบบการเทรดไม่ใช่แค่ความสะดวก แต่คือกลยุทธ์ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพที่นักลงทุนระดับสูงเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น ซึ่งสามารถสรุปเป็น 3 ข้อหลัก ดังนี้
1. ลดค่าใช้จ่ายแฝงจากการแปลงสกุลเงิน
ทุกครั้งที่คุณโอนเงินจากบัญชีไทยไปยังโบรกเกอร์ที่ไม่รองรับ THB โดยตรง ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน (FX fee) ทั้งขาไปและขากลับ อัตราที่ใช้มักไม่ใช่กลางตลาดที่คุณเห็นใน Google แต่เป็นอัตราที่รวมค่าบริการแล้ว ซึ่งอาจสูงกว่าจริงถึง 3-5% เมื่อคุณเทรดบ่อยครั้ง ต้นทุนแฝงเหล่านี้จะสะสมและกลายเป็นภาระที่กัดกินผลกำไรโดยไม่รู้ตัว โบรกเกอร์ที่รองรับ THB จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงจุดนี้ได้อย่างสิ้นเชิง
2. ความรวดเร็วและสะดวกในการทำธุรกรรม
การฝาก-ถอนเงินผ่านช่องทางที่คนไทยคุ้นเคย เช่น PromptPay หรือ QR Code ช่วยให้เงินเข้าบัญชีเทรดภายในไม่กี่นาที ไม่ต้องรอ 2-3 วันเหมือนการโอนเงินต่างประเทศ ความคล่องตัวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเร็ว หรือต้องการถอนกำไรทันทีเมื่อเห็นโอกาส
3. การจัดการพอร์ตการลงทุนที่เข้าใจง่าย
เมื่อทั้งเงินต้น กำไร และขาดทุนแสดงเป็นสกุลเงินบาท คุณจะสามารถประเมินผลลัพธ์ของการเทรดได้ตรงและแม่นยำโดยไม่ต้องแปลงค่าทุกครั้ง ซึ่งลดความผิดพลาดจากการประมาณการอัตราแลกเปลี่ยนด้วยตนเอง และทำให้การวางแผนการเงินส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีระบบมากขึ้น
เกณฑ์การคัดเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนชาวไทย
ในปี 2025 ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ไม่ได้วัดแค่จากชื่อเสียง แต่ต้องพิจารณาจากหลายมิติที่ส่งผลต่อประสบการณ์การเทรดจริง เราใช้เกณฑ์ที่เข้มงวดและสะท้อนความต้องการของเทรดเดอร์ไทยโดยตรง มาประเมินโบรกเกอร์แต่ละราย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ใบอนุญาตและการกำกับดูแล
ความปลอดภัยของเงินทุนคือสิ่งที่ต้องมาก่อนทุกอย่าง โบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร), หรือ CySEC (ไซปรัส) จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด รวมถึงการแยกเงินของลูกค้าออกจากเงินของบริษัท (Segregated Accounts) ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำคัญที่ป้องกันการยักย้ายเงินทุน
ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังไม่อนุญาตให้โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เปิดรับลูกค้ารายย่อยโดยตรง ดังนั้นการเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีใบอนุญาตจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น เพื่อให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
การรองรับการฝาก-ถอนเงินบาท
โบรกเกอร์ที่ “เข้าใจตลาดไทย” จะต้องรองรับช่องทางการชำระเงินที่คนไทยใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการโอนผ่านธนาคารออนไลน์, QR Code, หรือ PromptPay โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ระบบดิจิทัลพีเพิลของประเทศไทยมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย การที่โบรกเกอร์ไม่รองรับช่องทางเหล่านี้ถือว่าล้าหลังและไม่ได้ให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าในประเทศไทย

สเปรดและค่าธรรมเนียม
สเปรดคือต้นทุนหลักของการเทรด ยิ่งแคบยิ่งดี โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดที่เปิด-ปิดออเดอร์หลายครั้งในวันเดียว โบรกเกอร์ที่เสนอสเปรดต่ำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณทำกำไรได้แม้ในสภาวะตลาดที่เคลื่อนไหวน้อย นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาค่าคอมมิชชั่นในบัญชี ECN และค่า swap สำหรับการถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งอาจส่งผลต่อผลตอบแทนในระยะยาว
แพลตฟอร์มการเทรด
แพลตฟอร์มที่เสถียรและมีเครื่องมือครบครันคือปัจจัยสำคัญ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ยังคงเป็นมาตรฐานของวงการ ด้วยฟีเจอร์วิเคราะห์ทางเทคนิคที่ล้ำหน้า รองรับ Expert Advisors (EA) และสามารถใช้งานได้ทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป โบรกเกอร์ที่ดีควรมีทั้งสองแพลตฟอร์มนี้ และอาจเสริมด้วยแพลตฟอร์มเฉพาะของตนเองเพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน
การบริการลูกค้า
เมื่อเกิดปัญหา เช่น เงินไม่เข้าบัญชีหรือระบบล่ม คุณต้องการความช่วยเหลือทันที การมีทีมสนับสนุนที่สื่อสารภาษาไทยได้ พร้อมเวลาให้บริการที่ครอบคลุมช่วงเวลาเทรด (เช่น 24 ชั่วโมง 5 วัน) จะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน
5 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่รองรับเงินบาทดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025
จากเกณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวมา เราได้คัดเลือกโบรกเกอร์ 5 แห่งที่มีความโดดเด่นและเหมาะกับนักลงทุนชาวไทยมากที่สุดในปีนี้ ทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะดวก และประสิทธิภาพการใช้งาน
1. Moneta Markets – ความสะดวกที่เหนือระดับสำหรับเทรดเดอร์ไทย
Moneta Markets ได้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเทรดเดอร์ในประเทศไทย เพราะเข้าใจความต้องการของตลาดท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงิน
- ความเร็วและต้นทุนต่ำ: รองรับการฝาก-ถอนผ่าน Thai QR Code, PromptPay และธนาคารออนไลน์โดยตรง ทำให้การทำธุรกรรมเสร็จสิ้นภายในไม่กี่นาที และแทบไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
- แพลตฟอร์มหลากหลาย: มีให้เลือกทั้ง MT4, MT5 และ Pro Trader – แพลตฟอร์มในตัวที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
- เครื่องมือวิเคราะห์ระดับพรีเมียม: ให้บริการ Trading Central ฟรี ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลวิเคราะห์ตลาดคุณภาพสูงจากนักวิเคราะห์มืออาชีพ ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
เหมาะกับใคร: เทรดเดอร์ทุกระดับที่ต้องการความสะดวก ความเร็ว และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องการปวดหัวกับเรื่องการเงิน
2. Exness – ความเร็วในการถอนเงินและเลเวอเรจไม่จำกัด
Exness คือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงยาวนานในตลาดโลก และเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นที่โดดเด่นชัดเจน
- ถอนเงินทันที: ขึ้นชื่อเรื่องการถอนเงินที่รวดเร็ว “Instant Withdrawal” ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งให้ความมั่นใจสูงในเรื่องการเข้าถึงเงินทุน
- เลเวอเรจไม่จำกัด: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และต้องการยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ต โดยต้องเข้าใจความเสี่ยงอย่างชัดเจน
- รองรับการโอนผ่านธนาคารไทย: แม้ไม่ได้รองรับ QR Code ทุกประเภท แต่ก็มีช่องทางการเงินที่เพียงพอสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
เหมาะกับใคร: นักเทรดที่มีประสบการณ์สูง ต้องการความคล่องตัวในการจัดการเงินทุน และมองหาความยืดหยุ่นสูงสุดในการใช้เลเวอเรจ
3. IC Markets – ราชาแห่งสเปรดต่ำสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
สำหรับนักลงทุนที่เน้นต้นทุนเป็นหลัก IC Markets คือคำตอบที่แท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้กลยุทธ์ระยะสั้น
- สเปรด 0.0 pips: บนบัญชี Raw Spread ทำให้ต้นทุนต่ำที่สุด เหมาะสำหรับ Scalping และ Day Trading
- สภาพคล่องสูง: เชื่อมต่อกับผู้ให้สภาพคล่องระดับโลก ช่วยให้คำสั่งซื้อขายดำเนินการได้รวดเร็วและราบรื่น
- รองรับ MT4/MT5/cTrader: มีแพลตฟอร์มให้เลือกหลากหลาย รองรับการใช้งาน EA และกลยุทธ์อัตโนมัติ
เหมาะกับใคร: เทรดเดอร์มืออาชีพ, ผู้ใช้ EA, และนักเทรดสาย Scalping ที่ต้องการสภาพแวดล้อมการเทรดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
4. Pepperstone – ความเร็วและนวัตกรรมจากออสเตรเลีย
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่ได้รับความไว้วางใจระดับสากล โดยมีจุดแข็งด้านความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย (Execution Speed) และการรองรับแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง cTrader และ TradingView ซึ่งได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ที่เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง
5. XM – เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้
XM เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะมีทรัพยากรการเรียนรู้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเว็บินาร์, บทวิเคราะห์รายวัน, และวิดีโอสอนเทรดเป็นภาษาไทย นอกจากนี้ยังมีบัญชีทดลอง (Demo Account) ที่ใช้งานง่าย และโปรโมชั่นต้อนรับที่น่าสนใจ
ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่รองรับเงินบาท
โบรกเกอร์ | ใบอนุญาต (ตัวอย่าง) | สเปรดเริ่มต้น (EUR/USD) | เงินฝากขั้นต่ำ | ช่องทางการฝากเงินบาท | แพลตฟอร์ม |
---|---|---|---|---|---|
Moneta Markets | ASIC, FSCA | 0.0 pips (Pro) | ~$50 | QR Code, PromptPay, ธนาคารไทย | MT4, MT5, Pro Trader |
Exness | CySEC, FCA | 0.0 pips (Zero) | ~$10 | ธนาคารไทย, QR Code | MT4, MT5 |
IC Markets | ASIC, CySEC | 0.0 pips (Raw) | ~$200 | ธนาคารไทย | MT4, MT5, cTrader |
Pepperstone | ASIC, FCA | 0.0 pips (Razor) | ~$200 | ธนาคารไทย | MT4, MT5, cTrader |
XM | CySEC, ASIC | 0.6 pips (Ultra Low) | ~$5 | ธนาคารไทย | MT4, MT5 |
วิธีหลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ปิดตัวหนีในปี 2025
แม้ตลาดจะเติบโต แต่ความเสี่ยงจากโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาตหรือดำเนินการโดยมิจฉาชีพก็ยังมีอยู่ การตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจฝากเงินคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
1. ตรวจสอบใบอนุญาตจากแหล่งที่มาโดยตรง
อย่าเชื่อแค่โลโก้ที่แสดงบนเว็บไซต์ ให้เข้าไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ของ ASIC, FCA หรือ CySEC โดยตรง และค้นหาชื่อบริษัทเพื่อยืนยันสถานะใบอนุญาต
2. หลีกเลี่ยงข้อเสนอที่เกินจริง
หากมีการรับประกันผลตอบแทนสูง เช่น “ได้กำไร 30% ต่อเดือน” หรือ “โบนัส 500%” โดยไม่มีเงื่อนไขที่ชัดเจน นั่นคือสัญญาณเตือนว่าอาจเป็นกลโกง
3. ศึกษารีวิวจากหลายแหล่ง
อ่านรีวิวจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ฟอรัม หรือกลุ่มผู้ใช้งานจริง แต่ต้องใช้วิจารณญาณ แยกแยะระหว่างรีวิวจริงกับรีวิวที่ถูกจ้างมา
4. ทดลองด้วยเงินจำนวนน้อยก่อน
เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ และทดสอบการฝาก-ถอนทั้งหมด หากกระบวนการราบรื่น จึงค่อยพิจารณาเพิ่มเงิน
สรุป: โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดคือโบรกเกอร์ที่เหมาะกับคุณ
ไม่มีโบรกเกอร์ใดที่ “ดีที่สุด” สำหรับทุกคน แต่มีโบรกเกอร์ที่ “เหมาะสมที่สุด” สำหรับสไตล์การเทรดและความต้องการของคุณ
- หากคุณต้องการความสะดวกสูงสุด รองรับ PromptPay และ QR Code พร้อมแพลตฟอร์มที่ทันสมัย Moneta Markets คือตัวเลือกที่โดดเด่นในปี 2025
- หากคุณเป็น Scalper ที่ต้องการสเปรดต่ำที่สุด IC Markets คือคำตอบ
- หากคุณเพิ่งเริ่มต้น XM ให้ทรัพยากรที่ครบถ้วน
เราขอแนะนำให้คุณเปิดบัญชีทดลอง (Demo Account) กับโบรกเกอร์ที่สนใจ เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงก่อนตัดสินใจ ขอให้คุณมีปี 2025 ที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางการเทรด!
การเทรด Forex ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?
ปัจจุบัน การเทรด Forex สำหรับลูกค้ารายย่อยในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรงจาก ก.ล.ต. ซึ่งหมายความว่าโบรกเกอร์ที่ให้บริการไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานในประเทศ อย่างไรก็ตาม การเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ (เช่น ASIC, FCA) ไม่ได้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่เทรดเดอร์ต้องยอมรับความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลของโบรกเกอร์ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
โบรกเกอร์ Forex ใดที่น่าเชื่อถือและฝากถอนเงินบาทสะดวกที่สุดในปี 2025?
จากเกณฑ์การประเมินด้านความน่าเชื่อถือและความสะดวกสบายสำหรับคนไทย Moneta Markets ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นมากในปี 2025 เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC และที่สำคัญคือรองรับการฝากถอนผ่านระบบ Thai QR Code และ PromptPay ซึ่งทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วและง่ายดาย ต่างจากโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่ยังคงใช้เพียงการโอนผ่านธนาคารแบบเดิม
เงินฝากขั้นต่ำสำหรับเปิดบัญชี Forex คือเท่าไหร่?
เงินฝากขั้นต่ำแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์และประเภทบัญชี บางโบรกเกอร์ เช่น XM อาจมีเงินฝากขั้นต่ำเพียง $5 (ประมาณ 180 บาท) ในขณะที่โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets มีเงินฝากขั้นต่ำที่ประมาณ $50 (ประมาณ 1,800 บาท) ส่วนโบรกเกอร์ที่เน้นบัญชี ECN/Raw Spread เช่น IC Markets อาจมีเงินฝากขั้นต่ำสูงขึ้นที่ $200 (ประมาณ 7,200 บาท) ควรเลือกให้เหมาะสมกับเงินทุนของคุณ
โบรกเกอร์ Forex ที่ ก.ล.ต. รับรอง มีหรือไม่?
ณ ปัจจุบัน (ปี 2024-2025) ยังไม่มีโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ได้รับการรับรองโดยตรงจาก ก.ล.ต. ของประเทศไทย ดังนั้น ความปลอดภัยของเงินทุนจึงขึ้นอยู่กับการเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานการเงินในต่างประเทศที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้เท่านั้น
ฉันจะตรวจสอบใบอนุญาตของโบรกเกอร์ได้อย่างไร?
วิธีที่ดีที่สุดคือการเข้าไปยังเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง และใช้เลขทะเบียนหรือชื่อของบริษัทในการค้นหา อย่าเชื่อเพียงข้อมูลบนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ ตัวอย่างเช่น:
- ASIC (ออสเตรเลีย): ค้นหาในทะเบียน ASIC Connect
- FCA (สหราชอาณาจักร): ค้นหาใน Financial Services Register
- CySEC (ไซปรัส): ค้นหาในหน้า Regulated Entities
บัญชี ECN กับ Standard ต่างกันอย่างไร?
บัญชี Standard มักจะไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่โบรกเกอร์จะทำกำไรจากสเปรดที่กว้างกว่า เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่ต้องการคำนวณต้นทุนซับซ้อน บัญชี ECN (หรือ Raw Spread) จะมีสเปรดที่แคบมาก (อาจเริ่มที่ 0.0 pips) แต่จะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นต่อการเทรดแต่ละครั้ง เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์หรือเทรดบ่อยๆ ซึ่งต้นทุนโดยรวมมักจะต่ำกว่า
ทำไมบางโบรกเกอร์ถึงปิดหนี? จะป้องกันได้อย่างไร?
โบรกเกอร์ที่ปิดหนีส่วนใหญ่มักเป็นโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาตกำกับดูแล หรือมีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่ไม่เข้มงวด พวกเขาสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงนักลงทุนโดยเฉพาะ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ:
- เลือกเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำเท่านั้น
- ระวังโฆษณาชวนเชื่อที่การันตีผลตอบแทนสูงเกินจริง
- ทดลองฝาก-ถอนด้วยเงินจำนวนน้อยก่อนเสมอ
- เลือกใช้โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและดำเนินงานมานาน เช่น โบรกเกอร์ในลิสต์แนะนำของเรา
การฝากเงินบาทเข้าบัญชีเทรดมีขั้นตอนอย่างไร?
ขั้นตอนจะแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปสำหรับโบรกเกอร์ที่รองรับระบบของไทยอย่างดีเยี่ยม เช่น Moneta Markets จะมีขั้นตอนดังนี้:
- ล็อกอินเข้าสู่พื้นที่สมาชิกของโบรกเกอร์
- เลือกเมนู ‘ฝากเงิน’ (Deposit)
- เลือกช่องทาง ‘Thai QR Payment’ หรือ ‘Online Banking’
- ระบุจำนวนเงินที่ต้องการฝากเป็น THB
- ระบบจะสร้าง QR Code หรือนำคุณไปยังหน้าชำระเงินของธนาคาร
- ใช้แอปพลิเคชันของธนาคารบนมือถือสแกน QR Code หรือทำตามขั้นตอนของธนาคารเพื่อยืนยันการชำระเงิน
- ยอดเงินจะเข้าบัญชีเทรดของคุณภายในไม่กี่นาที