อัปเดตปี 2025: รีวิว 5 โบรกเกอร์ Forex ที่มี Trailing Stop ที่น่าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทย
ในโลกของการซื้อขายฟอเร็กซ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความผันผวน การจัดการความเสี่ยงและการรักษาผลกำไรไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นหัวใจหลักของการเทรดอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนชาวไทยในปี 2025 ที่ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซับซ้อนและตลาดที่ตอบสนองต่อข่าวสารอย่างไว การใช้เครื่องมือที่ชาญฉลาดจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในกลยุทธ์การจัดการพอร์ตคือ “Trailing Stop”
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า Trailing Stop คืออะไร ทำงานอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราจะแนะนำและเปรียบเทียบ **โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มี Trailing Stop** ที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดในประเทศไทย เพื่อช่วยให้คุณเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุด พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพให้กลยุทธ์การเทรดของคุณในปี 2025 อย่างเต็มรูปแบบ

Trailing Stop คืออะไร? ทำไมจึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ในปี 2025
Trailing Stop เป็นคำสั่งหยุดขาดทุนรูปแบบหนึ่ง แต่ต่างจาก Stop Loss แบบดั้งเดิมตรงที่มันไม่ได้อยู่กับที่ แต่จะ “เคลื่อนที่ตาม” ราคาเมื่อตำแหน่งของคุณเริ่มทำกำไรได้ มันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยล็อคกำไรที่เกิดขึ้นแล้ว ในขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสให้คุณได้รับประโยชน์จากแนวโน้มที่ยังคงเคลื่อนไหวต่อไป
ความแตกต่างหลักระหว่าง Trailing Stop และ Stop Loss คือ:
- Stop Loss: คือการตั้งจุดหยุดขาดทุนที่ราคาคงที่ เช่น เปิดออร์เดอร์ที่ 1.0800 แล้วตั้ง Stop Loss ที่ 1.0770 จุดนี้จะไม่ขยับแม้ราคาจะขึ้นไปถึง 1.0900 ก็ตาม
- Trailing Stop: เมื่อราคาเคลื่อนที่ตามทิศทางที่คุณคาดการณ์ไว้ จุดหยุดขาดทุนจะขยับตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ แต่จะหยุดนิ่งทันทีหากตลาดเริ่มย้อนกลับ และจะปิดออร์เดอร์เมื่อราคากลับมาถึงระดับที่กำหนดไว้
ในปี 2025 ที่ตลาดมีแนวโน้มจะเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก เช่น อัตราดอกเบี้ย ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัล Trailing Stop จึงกลายเป็นเครื่องมือที่นักเทรดยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีระบบ ยังช่วยลดภาระการเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ทำให้การเทรดมีวินัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลักการทำงานของ Trailing Stop: ตัวอย่างการใช้งานจริง
เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ลองพิจารณาตัวอย่างการเทรดคู่เงิน EUR/USD ดังนี้:
สมมติว่าคุณเปิดออร์เดอร์ Buy EUR/USD ที่ราคา 1.0800 และตั้ง Trailing Stop ที่ระยะ 30 pips
- เริ่มต้น: จุดหยุดขาดทุนเริ่มต้นของคุณอยู่ที่ 1.0770 (1.0800 – 30 pips)
- ราคาขยับขึ้น: เมื่อราคาขยับไปที่ 1.0850 (กำไร 50 pips) Trailing Stop จะขยับขึ้นมาเป็น 1.0820 โดยอัตโนมัติ แปลว่าคุณได้ล็อคกำไรไว้แล้วอย่างน้อย 20 pips
- ราคาขยับต่อ: หากแนวโน้มยังแรงและราคาขยับไปที่ 1.0900 Trailing Stop จะเลื่อนขึ้นมาอยู่ที่ 1.0870
- ตลาดเริ่มย้อนกลับ: เมื่อราคาเริ่มปรับตัวลง และแตะ 1.0870 พอดี ออร์เดอร์ของคุณจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ คุณยังคงได้กำไร 70 pips (1.0870 – 1.0800) แทนที่จะเสียทุกอย่างหากไม่มีระบบนี้
นี่คือพลังของ Trailing Stop: มันช่วยให้คุณ “เดินหน้าลุยกำไร” แต่ก็มี “เบรกสำรอง” ที่เคลื่อนที่ตามคุณไปตลอดทาง

จัดอันดับโบรกเกอร์ Forex ที่มี Trailing Stop ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025
การจัดอันดับนี้ไม่ได้ดูแค่ “มี” หรือ “ไม่มี” ฟังก์ชัน Trailing Stop เท่านั้น แต่เราประเมินจากหลายมิติที่ส่งผลต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของนักเทรด ไม่ว่าจะเป็น ความเสถียรของแพลตฟอร์ม ความแม่นยำในการดำเนินคำสั่ง อัตรา Slippage ต้นทุนการเทรด และการสนับสนุนสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
1. Moneta Markets – ความแม่นยำและความเสถียรระดับพรีเมียม
Moneta Markets ได้รับการยกย่องให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักเทรดที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของ Trailing Stop อย่างแท้จริง ด้วยการสนับสนุนแพลตฟอร์มหลักของอุตสาหกรรมอย่าง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟังก์ชัน Trailing Stop ได้อย่างสะดวกและคุ้นเคย
สิ่งที่ทำให้ Moneta Markets โดดเด่นคือ ความเร็วและความแม่นยำในการดำเนินคำสั่ง (execution speed) ที่สูงมาก แม้ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนอย่างรุนแรง เช่น ช่วงประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดว่า Trailing Stop ของคุณจะปิดออร์เดอร์ได้ตามราคาที่ตั้งไว้หรือไม่
นอกจากนี้ Moneta Markets ยังมีประเภทบัญชีที่หลากหลาย ทั้งบัญชี Standard และบัญชี Raw Spread ที่มีค่าสเปรดต่ำพร้อมค่าคอมมิชชั่นในระดับแข่งขันได้ ทำให้เหมาะกับทั้งเทรดเดอร์ระยะสั้นและระยะยาว ที่สำคัญคือทีมสนับสนุนลูกค้าของ Moneta Markets มีความเข้าใจบริบทของตลาดไทย มีช่องทางการติดต่อที่รวดเร็ว และพร้อมให้ความช่วยเหลือในภาษาที่คุณคุ้นเคย
2. Pepperstone – แพลตฟอร์มหลากหลายและเทคโนโลยีล้ำสมัย
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านเทคโนโลยีและความเสถียรของระบบ มีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้ง MT4, MT5 และ cTrader ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพ
จุดเด่นของ Pepperstone คือการรองรับ Trailing Stop ทั้งแบบ Client-Side และ Server-Side (เฉพาะใน cTrader) ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถตั้ง Trailing Stop ให้ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์ได้ แม้คุณจะปิดโปรแกรมหรือปิดคอมพิวเตอร์ไปแล้วก็ตาม นี่คือข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเฝ้าหน้าจอตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ Pepperstone ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงและสภาพแวดล้อมการเทรดที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Scalping, Day Trading หรือ Position Trading
3. IC Markets – ค่าสเปรดต่ำสุด รองรับการเทรดความถี่สูง
IC Markets เป็นที่รู้จักในวงการว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำที่สุด โดยเฉพาะในบัญชี Raw Spread ที่มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์ที่ต้องเข้าออกออร์เดอร์บ่อยๆ เช่น Scalping หรือ Algorithmic Trading
การใช้ Trailing Stop บน IC Markets จึงมีข้อได้เปรียบในเรื่องต้นทุน เพราะแม้คุณจะถูกปิดออร์เดอร์หลายครั้งจาก Trailing Stop คุณก็ยังเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าโบรกเกอร์อื่นๆ
นอกจากนี้ IC Markets ยังมีความเร็วในการดำเนินคำสั่งที่สูงมาก และรองรับการใช้งานบน cTrader ที่มี Trailing Stop แบบ Server-Side ทำให้เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง
4. XM – ความน่าเชื่อถือและบริการสำหรับนักเทรดมือใหม่
XM เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและฐานผู้ใช้งานกว้างขวางในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มนักเทรดมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางการลงทุน
XM รองรับฟังก์ชัน Trailing Stop บนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 อย่างเต็มรูปแบบ แม้จะไม่มี cTrader แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ XM ยังมีจุดเด่นด้านการจัดโปรโมชั่น โบนัส และการสัมมนาออนไลน์ที่ช่วยพัฒนาความรู้ให้กับนักเทรดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ที่มองหาโบรกเกอร์ที่ปลอดภัย มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำ และมีบริการสนับสนุนภาษาไทย XM ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
5. Exness – การทำธุรกรรมรวดเร็ว ไม่มีค่าธรรมเนียม
Exness มีชื่อเสียงในเรื่องความเร็วในการฝากและถอนเงิน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่รองรับช่องทางการชำระเงินหลายรูปแบบ เช่น ธนาคารท้องถิ่น วอลเล็ตอิเล็กทรอนิกส์ และคริปโตเคอร์เรนซี
ฟังก์ชัน Trailing Stop บน Exness ใช้งานได้ตามมาตรฐานผ่าน MT4 และ MT5 แม้จะไม่มีแพลตฟอร์ม cTrader แต่ก็เพียงพอสำหรับนักเทรดทั่วไปที่ต้องการเครื่องมือพื้นฐานในการบริหารความเสี่ยง
Exness จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการทำธุรกรรมและการใช้งานที่ง่าย
ตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์ Trailing Stop ของโบรกเกอร์ชั้นนำในไทย
โบรกเกอร์ | แพลตฟอร์ม | ประเภท Trailing Stop | ค่าสเปรดเฉลี่ย (EUR/USD) | ใบอนุญาต (ตัวอย่าง) |
---|---|---|---|---|
Moneta Markets | MT4, MT5, ProTrader | Client-Side (บน MT4/MT5) | 0.0 pips + คอมมิชชั่น / 1.2 pips | ASIC, FSCA |
Pepperstone | MT4, MT5, cTrader | Client-Side / Server-Side (บน cTrader) | 0.0 pips + คอมมิชชั่น / 1.1 pips | ASIC, FCA, CySEC |
IC Markets | MT4, MT5, cTrader | Client-Side / Server-Side (บน cTrader) | 0.0 pips + คอมมิชชั่น / 0.8 pips | ASIC, CySEC |
XM | MT4, MT5 | Client-Side | 0.6 pips + คอมมิชชั่น / 1.7 pips | ASIC, CySEC |
Exness | MT4, MT5 | Client-Side | 0.0 pips + คอมมิชชั่น / 1.0 pips | FCA, CySEC |
หมายเหตุ: Trailing Stop แบบ Client-Side (เช่น บน MT4/MT5) ต้องเปิดโปรแกรมและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเพื่อให้ทำงานได้ ในขณะที่ Server-Side จะทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์ แม้คุณจะปิดโปรแกรมแล้วก็ตาม
เทคนิคการใช้ Trailing Stop ขั้นสูงสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
การใช้ Trailing Stop ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องอาศัยกลยุทธ์และเทคนิคที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่การตั้งค่าตามความรู้สึก
- ปรับระยะ Trailing Stop ตามความผันผวนของสินทรัพย์: คู่เงินที่ผันผวนสูง เช่น GBP/JPY หรือ XAU/USD (ทองคำ) ควรตั้งระยะ Trailing Stop ให้กว้างกว่าคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD เพื่อหลีกเลี่ยงการถูก “เขย่า” ออกจากตลาดก่อนเวลาอันควร
- ใช้ ATR (Average True Range) กำหนดระยะ: ATR เป็นอินดิเคเตอร์ที่วัดความผันผวนโดยเฉลี่ย เทรดเดอร์มืออาชีพมักตั้ง Trailing Stop ที่ 1.5 ถึง 2 เท่าของค่า ATR ณ ขณะนั้น เพื่อให้ระยะห่างมีเหตุผลและยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ATR
- ใช้ร่วมกับ Moving Averages: สำหรับการเทรดแนวโน้ม คุณสามารถใช้ EMA 20 หรือ EMA 50 เป็นแนว Trailing Stop แบบไดนามิกได้ โดยปิดออร์เดอร์เมื่อราคาปิดต่ำกว่า (สำหรับ Buy) หรือสูงกว่า (สำหรับ Sell) เส้นค่าเฉลี่ยนั้น
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ Trailing Stop และวิธีหลีกเลี่ยง
- ตั้งระยะแคบเกินไป: การตั้ง Trailing Stop ที่ 10-15 pips ในคู่เงินหลักอาจทำให้คุณถูกปิดออร์เดอร์บ่อยครั้งจากความผันผวนตามธรรมชาติของตลาด แนะนำให้ทดสอบระยะที่เหมาะสมในบัญชีเดโมก่อน
- ใช้ในตลาดที่ไม่มีเทรนด์: Trailing Stop ทำงานได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน แต่ในตลาด Sideways การใช้งานอาจทำให้คุณถูกปิดออร์เดอร์บ่อยและขาดทุนสะสม
- ลืมว่า MT4/MT5 ต้องเปิดตลอดเวลา: Trailing Stop บน MT4 และ MT5 เป็นแบบ Client-Side ดังนั้นหากคุณปิดโปรแกรมหรืออินเทอร์เน็ตหลุด ระบบจะหยุดทำงานทันที ทางแก้คือใช้ VPS (Virtual Private Server) เพื่อรันแพลตฟอร์มตลอด 24 ชั่วโมง
สรุป: การเลือกโบรกเกอร์ที่มี Trailing Stop ที่ใช่สำหรับคุณในปี 2025
Trailing Stop ไม่ใช่แค่เครื่องมือเสริม แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการป้องกันกำไรและบริหารความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด การเลือก **โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มี Trailing Stop** ที่ดี จึงเป็นก้าวแรกที่มีนัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาว
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ “มี” ฟังก์ชันนี้ แต่คือ “ทำงานได้ดีแค่ไหน” โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น ASIC ของออสเตรเลีย มีแพลตฟอร์มที่เสถียร และการดำเนินคำสั่งที่แม่นยำ เช่น Moneta Markets จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า Trailing Stop ของคุณจะทำงานได้จริงในทุกสถานการณ์
เราขอแนะนำให้คุณใช้ข้อมูลจากรีวิวและตารางเปรียบเทียบนี้เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ เลือกโบรกเกอร์ที่เข้ากับสไตล์การเทรด งบประมาณ และเป้าหมายของคุณ เพื่อก้าวสู่ปี 2025 ด้วยความมั่นใจและกลยุทธ์ที่เหนือกว่า
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Trailing Stop กับ Stop Loss ต่างกันอย่างไร?
Stop Loss คือคำสั่งที่ตั้งไว้ ณ ระดับราคา “คงที่” เพื่อจำกัดการขาดทุนสูงสุด ส่วน Trailing Stop คือคำสั่ง Stop Loss ที่ “เคลื่อนที่ได้” โดยจะขยับตามราคาไปเรื่อยๆ เมื่อออเดอร์ของคุณมีกำไร เพื่อล็อคกำไรที่เกิดขึ้นแล้ว แต่จะหยุดนิ่งเมื่อราคาย้อนกลับ
โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือในไทยที่รองรับ Trailing Stop มีเจ้าไหนบ้าง?
โบรกเกอร์ชั้นนำส่วนใหญ่ที่ให้บริการในไทยจะมีฟังก์ชัน Trailing Stop บนแพลตฟอร์ม MT4/MT5 จากการรีวิวของเราในปี 2025 โบรกเกอร์ที่โดดเด่นในด้านความเสถียรและประสิทธิภาพของฟังก์ชันนี้ ได้แก่:
- Moneta Markets: มีความเสถียรสูงและ εκτέλεσηคำสั่งแม่นยำ
- Pepperstone: มีแพลตฟอร์มหลากหลายให้เลือก
- IC Markets: มีค่าสเปรดที่ต่ำมาก
การใช้ Trailing Stop มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่?
ไม่มี โดยทั่วไปแล้ว Trailing Stop เป็นฟังก์ชันมาตรฐานที่มาพร้อมกับแพลตฟอร์มการเทรด เช่น MT4 และ MT5 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากโบรกเกอร์
ฉันสามารถใช้ Trailing Stop บนมือถือได้หรือไม่?
แอปพลิเคชัน MT4/MT5 บนมือถือโดยตรง “ไม่มี” ฟังก์ชัน Trailing Stop ในตัว อย่างไรก็ตาม หากคุณตั้งค่า Trailing Stop บนแพลตฟอร์มเวอร์ชันคอมพิวเตอร์ (Desktop) และเปิดทิ้งไว้ (หรือใช้ VPS) คุณจะยังสามารถติดตามสถานะออเดอร์ผ่านมือถือได้
ถ้าปิดคอมพิวเตอร์ Trailing Stop จะยังทำงานอยู่ไหม?
ขึ้นอยู่กับประเภทของ Trailing Stop:
- Client-Side (ส่วนใหญ่บน MT4/MT5): จะ “หยุดทำงาน” ทันทีที่คุณปิดโปรแกรมหรือคอมพิวเตอร์
- Server-Side (มีในบางแพลตฟอร์มเช่น cTrader): จะ “ยังทำงานอยู่” เพราะคำสั่งถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์
สำหรับผู้ใช้ MT4/MT5 ที่ต้องการให้ Trailing Stop ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง การเช่าบริการ VPS เป็นทางออกที่ดีที่สุด
โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets เหมาะกับการใช้ Trailing Stop หรือไม่?
เหมาะอย่างยิ่ง เนื่องจากประสิทธิภาพของ Trailing Stop ขึ้นอยู่กับความเร็วและความแม่นยำในการ εκτέλεσηคำสั่ง Moneta Markets มีชื่อเสียงด้านแพลตฟอร์มที่เสถียรและมี Slippage ต่ำ ซึ่งหมายความว่าเมื่อราคาเคลื่อนไหวมาถึงจุด Trailing Stop ของคุณ ออเดอร์มีแนวโน้มที่จะถูกปิด ณ ราคาที่คุณคาดหวังไว้สูง ทำให้กลยุทธ์การล็อคกำไรของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ควรตั้งค่า Trailing Stop ที่กี่ pips?
ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:
- สินทรัพย์ที่เทรด: สินทรัพย์ผันผวนสูง (ทองคำ, GBP) ต้องใช้ระยะห่างมากกว่าสินทรัพย์ผันผวนต่ำ (EUR/USD, USD/CHF)
- ไทม์เฟรม: การเทรดระยะสั้น (Scalping) ใช้ระยะห่างที่แคบกว่าการเทรดระยะยาว (Swing Trading)
- กลยุทธ์: เทรดเดอร์บางคนอาจใช้ค่า ATR x 1.5 หรือ ATR x 2 เพื่อกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในขณะนั้น
คำแนะนำคือการทดสอบในบัญชีเดโมเพื่อหาระยะที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ