Double Top Pattern: สัญญาณเตือนภัยที่นักลงทุนต้องรู้ 2025

“`html

Double Top: สัญญาณเตือนภัยที่นักลงทุนต้องรู้

สวัสดีครับท่านนักลงทุนทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกรูปแบบกราฟที่สำคัญอย่างยิ่ง นั่นคือ Double Top (ดับเบิลท็อป) หรือที่แปลเป็นไทยว่า “ยอดคู่” รูปแบบนี้เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนภัยที่คอยบอกเราว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังจะสิ้นสุดลง และตลาดกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาลง แล้ว Double Top คืออะไร? ทำไมนักลงทุนถึงต้องใส่ใจ? เราจะมาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันครับ

คุณเคยสังเกตไหมว่า บางครั้งราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ต่างๆ พยายามขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ แต่กลับทำได้แค่เฉียดๆ แล้วก็ร่วงลงมา? นั่นแหละครับ คือจุดเริ่มต้นของ Double Top

กราฟแสดงรูปแบบ Double Top ในการเทรด

Double Top เป็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้ม (Reversal Pattern) ที่เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดสองครั้งติดต่อกัน โดยที่จุดสูงสุดทั้งสองนั้นอยู่ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกันมาก และมีช่วงปรับตัวลงเล็กน้อยคั่นกลางระหว่างจุดสูงสุดทั้งสอง คุณอาจจะคิดว่ามันก็แค่ราคาขึ้นๆ ลงๆ ธรรมดา แต่จริงๆ แล้ว Double Top มีความสำคัญอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเทคนิคครับ

ทำไมนักลงทุนต้องสนใจ Double Top?

  • บอกสัญญาณการกลับตัว: Double Top เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังจะจบลง และตลาดกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาลง
  • ช่วยในการตัดสินใจ: เมื่อเห็นสัญญาณ Double Top นักลงทุนสามารถตัดสินใจขาย (Short) หรือลดสถานะการถือครองสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงได้
  • เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: การเข้าใจ Double Top ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าเทรดในช่วงต้นของแนวโน้มขาลง และทำกำไรจากความผันผวนของราคาได้

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังขับรถขึ้นเขา เมื่อรถขึ้นไปถึงยอดเขา คุณจะรู้ว่าหลังจากนี้ไปจะเป็นทางลงเขา นั่นแหละครับ Double Top ก็เหมือนกัน มันบอกเราว่าหลังจากขึ้นไปถึง “ยอด” สองครั้งแล้ว ต่อไปก็จะเป็น “ทางลง” ครับ

ระบุและยืนยัน Double Top อย่างไร?

การระบุ Double Top ไม่ใช่แค่การมองหาจุดสูงสุดสองจุดบนกราฟเท่านั้น แต่เราต้องพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามันคือ Double Top จริงๆ ครับ

องค์ประกอบสำคัญของ Double Top:

องค์ประกอบ คำอธิบาย
แนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า ก่อนที่จะเกิด Double Top ราคาจะต้องอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน
จุดสูงสุดสองจุด ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดสองครั้งในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน โดยที่ความแตกต่างของราคาสูงสุดไม่ควรเกิน 3-5%
จุดต่ำสุดระหว่างจุดสูงสุด ระหว่างจุดสูงสุดทั้งสอง จะต้องมีช่วงปรับตัวลงของราคา และจุดต่ำสุดในช่วงนี้จะเป็นแนวรับที่สำคัญ
เส้นแนวรับ (Neckline) ลากเส้นแนวนอนเชื่อมจุดต่ำสุดระหว่างจุดสูงสุดทั้งสอง เส้นนี้จะกลายเป็นแนวรับที่สำคัญ เมื่อราคาทะลุเส้นนี้ลงมา จะถือว่าเป็นการยืนยัน Double Top
ปริมาณการซื้อขาย (Volume) โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณการซื้อขายมักจะลดลงเมื่อราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดครั้งที่สอง

วิธีการยืนยัน Double Top:

  1. รอให้ราคาทะลุแนวรับ: การยืนยัน Double Top จะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุเส้นแนวรับ (Neckline) ลงมา
  2. สังเกตปริมาณการซื้อขาย: หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อราคาทะลุแนวรับ จะยิ่งเป็นการยืนยันว่า Double Top นั้นมีความน่าเชื่อถือ
  3. พิจารณา Indicators อื่นๆ: ใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, RSI หรือ MACD เพื่อช่วยยืนยันสัญญาณ Double Top

การยืนยัน Double Top เปรียบเสมือนการได้รับไฟเขียวให้เราเริ่มทำการซื้อขาย (Short) ได้อย่างมั่นใจมากขึ้นครับ

กลยุทธ์การซื้อขาย Double Top: จุดเข้า, จุดออก, และการบริหารความเสี่ยง

เมื่อเรายืนยัน Double Top ได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการวางแผนกลยุทธ์การซื้อขายอย่างรอบคอบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด

จุดเข้า (Entry Point):

  • เมื่อราคาทะลุแนวรับ: นี่คือจุดเข้าที่นิยมที่สุด เมื่อราคาทะลุเส้นแนวรับ (Neckline) ลงมาอย่างชัดเจน เราสามารถเข้าทำการขาย (Short) ได้ทันที
  • รอการ Re-test แนวรับ: บางครั้งหลังจากที่ราคาทะลุแนวรับแล้ว ราคาอาจจะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวรับอีกครั้ง (Re-test) ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจในการเข้าทำการขาย (Short)

จุดออก (Exit Point):

  • ตั้งเป้าหมายในการทำกำไร (Take-Profit): โดยทั่วไปแล้ว เป้าหมายในการทำกำไรจะอยู่ที่ระยะเท่ากับความสูงของ Double Top (วัดจากจุดสูงสุดถึงแนวรับ)
  • ใช้ Fibonacci Extension: ใช้เครื่องมือ Fibonacci Extension เพื่อหาแนวรับที่สำคัญ และตั้งเป้าหมายในการทำกำไรตามระดับ Fibonacci

การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):

  • ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss): ตั้งจุดตัดขาดทุนเหนือจุดสูงสุดของ Double Top เล็กน้อย เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาดีดกลับขึ้นไป
  • กำหนดขนาด Position: กำหนดขนาด Position ให้เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่รับได้ โดยไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

การบริหารความเสี่ยงที่ดี เปรียบเสมือนการมีเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ มันจะช่วยป้องกันเราจากความเสียหายร้ายแรง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันครับ

นักลงทุนกำลังวิเคราะห์แนวโน้มตลาดด้วยสัญญาณ Double Top

Double Top ในตลาดต่างๆ: หุ้น, คริปโต, และ Forex

Double Top ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตลาดหุ้นเท่านั้น เราสามารถพบเห็นรูปแบบนี้ได้ในตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดคริปโตเคอร์เรนซี, ตลาด Forex หรือแม้แต่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ แต่การตีความและกลยุทธ์การซื้อขายอาจแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละตลาด

Double Top ในตลาดหุ้น:

ในตลาดหุ้น Double Top มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวร้ายเกี่ยวกับบริษัท หรือเมื่อตลาดโดยรวมอยู่ในช่วงขาลง การเกิด Double Top ในหุ้นขนาดใหญ่ อาจส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมได้

Double Top ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี:

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูง ดังนั้น Double Top ในตลาดนี้อาจเกิดขึ้นได้บ่อยกว่าในตลาดอื่นๆ การเกิด Double Top ใน Bitcoin (บิตคอยน์) หรือ Ethereum (อีเธอเรียม) อาจบ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของตลาดกระทิง (Bull Market) และการเริ่มต้นของตลาดหมี (Bear Market)

กราฟแท่งเทียนขนาดใกล้เคียงกับ Double Top

Double Top ในตลาด Forex:

ในตลาด Forex Double Top มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน การเกิด Double Top ในคู่เงินหลัก (เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD) อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินของประเทศนั้นๆ ได้

ไม่ว่าคุณจะเทรดในตลาดไหน การเข้าใจ Double Top จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของราคา และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเริ่มต้นการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือสำรวจผลิตภัณฑ์ CFD เพิ่มเติม Moneta Markets คือแพลตฟอร์มที่ควรพิจารณา ก่อตั้งในออสเตรเลีย มีเครื่องมือทางการเงินมากกว่า 1,000 รายการ ให้บริการตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

ข้อควรระวังและข้อจำกัดของ Double Top

แม้ว่า Double Top จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดบางประการที่เราต้องคำนึงถึง เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ผิดพลาด

สัญญาณหลอก (False Signals):

บางครั้ง ราคาอาจจะทะลุแนวรับของ Double Top ลงมา แต่สุดท้ายก็ดีดกลับขึ้นไป นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “สัญญาณหลอก” ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนขาดทุนได้ วิธีป้องกันสัญญาณหลอกคือการรอให้ราคาทะลุแนวรับอย่างชัดเจน และมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ปัจจัยที่อาจทำให้ Double Top ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์:

  • ข่าวสารและเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน: ข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญที่ไม่คาดฝัน (เช่น การประกาศนโยบายทางการเงิน, การเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ) อาจส่งผลกระทบต่อราคา และทำให้ Double Top ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์
  • การเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด: สภาวะตลาดอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รูปแบบ Double Top ที่เคยดูน่าเชื่อถือ กลายเป็นไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป

ข้อจำกัดของ Double Top:

  • ใช้ได้ผลดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน: Double Top จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน หากตลาดอยู่ในช่วง Sideway หรือไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน Double Top อาจไม่น่าเชื่อถือ
  • ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ: ไม่ควรใช้ Double Top เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจลงทุน ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์

เมื่อเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขาย ความยืดหยุ่นและข้อดีทางเทคนิคของ Moneta Markets ควรค่าแก่การกล่าวถึง รองรับแพลตฟอร์มหลักเช่น MT4, MT5 และ Pro Trader ผสานรวมกับการดำเนินการที่รวดเร็วและการตั้งค่าสเปรดต่ำ เพื่อให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ดี

การตระหนักถึงข้อควรระวังและข้อจำกัดของ Double Top จะช่วยให้คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างชาญฉลาด และลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ครับ

Double Top vs. Double Bottom

Double Top เป็นรูปแบบการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง ในขณะที่ Double Bottom (ดับเบิลบอตทอม) เป็นรูปแบบการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น ทั้งสองรูปแบบนี้มีความคล้ายคลึงกัน แต่เกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้าม

Double Bottom:

Double Bottom เกิดขึ้นเมื่อราคาลงไปทำจุดต่ำสุดสองครั้งในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน โดยมีช่วงปรับตัวขึ้นเล็กน้อยคั่นกลางระหว่างจุดต่ำสุดทั้งสอง การยืนยัน Double Bottom จะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวต้าน (Resistance Level) ที่ระดับสูงสุดระหว่างจุดต่ำสุดทั้งสอง

ความแตกต่างระหว่าง Double Top และ Double Bottom:

  • ทิศทางของแนวโน้ม: Double Top เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่ Double Bottom เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง
  • สัญญาณ: Double Top เป็นสัญญาณขาย (Short) ในขณะที่ Double Bottom เป็นสัญญาณซื้อ (Long)
  • แนวรับ/แนวต้าน: Double Top มีแนวรับที่สำคัญ ในขณะที่ Double Bottom มีแนวต้านที่สำคัญ

การเข้าใจทั้ง Double Top และ Double Bottom จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ตลาด และตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลงครับ

ตัวอย่าง Double Top ในตลาดต่างๆ

เพื่อให้คุณเห็นภาพ Double Top ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เราจะยกตัวอย่างการเกิด Double Top ในตลาดต่างๆ ครับ

ตัวอย่างที่ 1: หุ้น Apple (AAPL)

สมมติว่าหุ้น Apple อยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา $180 ราคาเริ่มปรับตัวลงเล็กน้อย แล้วกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้งที่ราคาใกล้เคียงเดิม ($182) หลังจากนั้น ราคาเริ่มร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และทะลุแนวรับที่ $170 นี่คือสัญญาณ Double Top ที่ชัดเจน นักลงทุนที่สังเกตเห็นสัญญาณนี้ อาจตัดสินใจขายหุ้น Apple เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน หรืออาจเข้าทำการขาย (Short) เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มขาลง

ตัวอย่างที่ 2: Bitcoin (BTC/USD)

Bitcoin เคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ $69,000 ในช่วงปลายปี 2021 หลังจากนั้น ราคาเริ่มปรับตัวลง แล้วกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้งที่ราคาใกล้เคียงเดิม ($68,000) หลังจากนั้น ราคาเริ่มร่วงลงอย่างรวดเร็ว และทะลุแนวรับที่ $60,000 นี่คือสัญญาณ Double Top ที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของตลาดกระทิง และการเริ่มต้นของตลาดหมี นักลงทุนที่สังเกตเห็นสัญญาณนี้ อาจตัดสินใจขาย Bitcoin เพื่อลดความเสี่ยง หรืออาจเข้าทำการขาย (Short) เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มขาลง

ตลาดหมีที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบ Double Top

ตัวอย่างที่ 3: EUR/USD (ค่าเงินยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ)

ในช่วงต้นปี 2023 ค่าเงิน EUR/USD อยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1.1500 ราคาเริ่มปรับตัวลงเล็กน้อย แล้วกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้งที่ราคาใกล้เคียงเดิม (1.1450) หลังจากนั้น ราคาเริ่มร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และทะลุแนวรับที่ 1.1200 นี่คือสัญญาณ Double Top ที่บ่งบอกถึงการอ่อนค่าของค่าเงินยูโร นักลงทุนที่สังเกตเห็นสัญญาณนี้ อาจตัดสินใจขายค่าเงินยูโร หรืออาจเข้าทำการขาย (Short) เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มขาลง

หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีการควบคุมและสามารถซื้อขายได้ทั่วโลก Moneta Markets มีใบอนุญาตควบคุมจากหลายประเทศ เช่น FSCA, ASIC และ FSA พร้อมด้วยความคุ้มครองความปลอดภัยของเงินทุน VPS ฟรี และการสนับสนุนลูกค้าภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ซึ่งเป็นตัวเลือกยอดนิยมของเทรดเดอร์จำนวนมาก

ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Double Top สามารถเกิดขึ้นได้ในตลาดต่างๆ และการสังเกตเห็นสัญญาณนี้ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

สัญญาณ Double Top เป็นตัวบอกความผันผวนของราคา

ผลกระทบของข่าวสารและเหตุการณ์ต่อการเกิด Double Top

ข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆ สามารถส่งผลกระทบต่อการเกิด Double Top ได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น การประกาศนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิด Double Top เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท

ตัวอย่าง: การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

หากธนาคารกลางประกาศขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทสูงขึ้น บริษัทอาจมีกำไรลดลง หรืออาจต้องปรับลดการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น หากก่อนหน้านี้หุ้นอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น การขึ้นดอกเบี้ยอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด Double Top และเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง

ตัวอย่าง: การประกาศผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

หากบริษัทประกาศผลประกอบการที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลง หากก่อนหน้านี้หุ้นอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น การประกาศผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด Double Top และเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง

ตัวอย่าง: วิกฤตเศรษฐกิจ

ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ นักลงทุนมักจะเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า หากก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น วิกฤตเศรษฐกิจอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด Double Top และเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง

การติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้คุณสามารถประเมินผลกระทบต่อตลาด และคาดการณ์การเกิด Double Top ได้อย่างแม่นยำมากขึ้นครับ

นักเก็งกำไรดูเหมือนจะมีความกังวลต่อสัญญาณ Double Top

สรุป

Double Top เป็นรูปแบบการกลับตัวที่สำคัญในทางเทคนิค ซึ่งสามารถบ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น และโอกาสในการทำกำไรจากตลาดขาลง การเข้าใจ Double Top จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของราคา ตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม การใช้ Double Top ควรพิจารณาร่วมกับเครื่องมือและปัจจัยอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจลงทุน และอย่าลืมติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อตลาด

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านนักลงทุนทุกท่านนะครับ หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับdouble top pattern

Q:Double Top คืออะไร?

A:Double Top เป็นรูปแบบการกลับตัวที่บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจสิ้นสุดลง และตลาดกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาลง

Q:วิธีการยืนยัน Double Top ทำอย่างไร?

A:การยืนยัน Double Top จะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุเส้นแนวรับ (Neckline) ลงมา พร้อมกับสังเกตปริมาณการซื้อขาย

Q:Double Top ใช้ได้ในตลาดไหนบ้าง?

A:Double Top สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายตลาด เช่น ตลาดหุ้น, คริปโต, และ Forex

“`

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *