ทำความเข้าใจ: สเปรดคงที่ (Fixed Spread) คืออะไรและสำคัญอย่างไรในปี 2025?
ก่อนจะเจาะลึกถึงรายชื่อโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด เราควรเริ่มต้นด้วยการเข้าใจพื้นฐานของ “สเปรด” — หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ต้นทุนในการเทรด ซึ่งคือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ (Bid) และราคาเสนอขาย (Ask) ของคู่สกุลเงิน หรือสินทรัพย์ใดๆ ที่คุณกำลังซื้อขายอยู่ โดยสเปรดจะถูกหักจากรายได้ของคุณทุกครั้งที่เปิดคำสั่ง ถือเป็นค่าบริการหลักที่โบรกเกอร์เรียกเก็บแทนค่าคอมมิชชั่นในบางกรณี
ในตลาดฟอเร็กซ์ สเปรดมีอยู่ด้วยกันสองรูปแบบหลัก ได้แก่:
- สเปรดคงที่ (Fixed Spread): ค่าสเปรดจะถูกล็อกไว้ไม่ว่าตลาดจะเงียบหรือผันผวน เช่น คู่เงิน EUR/USD อาจมีสเปรดคงที่ที่ 2.0 pips ตลอดเวลา ทำให้คุณสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องกังวลว่าราคาจะกระโดดจนทำให้ต้นทุนพุ่งสูงขึ้นในช่วงข่าวสำคัญ
- สเปรดลอยตัว (Variable Spread): ค่าสเปรดจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพคล่องและความเคลื่อนไหวของตลาด ในช่วงที่ตลาดนิ่ง สเปรดอาจแคบมาก เช่น 0.1 หรือ 0.3 pips แต่เมื่อเกิดข่าวใหญ่ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง สเปรดอาจพุ่งถึง 10–20 pips ได้ภายในไม่กี่วินาที

ในปี 2025 สเปรดคงที่ได้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความแน่นอนและต้นทุนที่ควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่ยังไม่ชินกับการรับมือกับความผันผวน หรือผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ News Trading ที่ต้องเปิด-ปิดออเดอร์อย่างรวดเร็ว สเปรดคงที่ช่วยลดความไม่แน่นอนที่อาจทำลายแผนการเทรดได้ในพริบตา ตามที่ Investopedia ชี้แจงไว้ว่า การเข้าใจโครงสร้างต้นทุนเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการพอร์ตอย่างยั่งยืน
จัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่สเปรดคงที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่เรื่องของสเปรดต่ำที่สุด แต่ต้องพิจารณาจากหลายมิติ เช่น ความน่าเชื่อถือ ความเร็วในการส่งคำสั่ง ความสามารถในการฝากถอนผ่านธนาคารไทย และการสนับสนุนภาษาไทยที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ พร้อมเปรียบเทียบเงื่อนไขจริง เพื่อนำเสนอ 5 โบรกเกอร์ที่เหมาะกับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการความเสถียรและโปร่งใสในต้นทุนการเทรด
1. Moneta Markets: ความสมดุลระหว่างความเร็ว ความโปร่งใส และต้นทุนที่คาดการณ์ได้
แม้ Moneta Markets จะไม่ได้โฆษณาตัวเองว่าเป็นโบรกเกอร์ “สเปรดคงที่” โดยตรง แต่ในทางปฏิบัติ บัญชี ECN และ STP ของโบรกเกอร์รายนี้กลับมอบประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับสเปรดคงที่มากที่สุดในตลาด โดยเฉพาะในด้านความเสถียรของสเปรดแม้ในช่วงข่าวใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์หลายรายให้ความสำคัญ
- การกำกับดูแลระดับโลก: Moneta Markets ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้) ซึ่งเป็นสองในหน่วยงานที่เข้มงวดที่สุดในด้านการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้า ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าเงินของตนจะปลอดภัย
- สเปรดที่ต่ำและเสถียร: แม้จะเป็นสเปรดลอยตัว แต่ในทางปฏิบัติ ค่าสเปรดของคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD มักอยู่ที่ 0.0–0.5 pips ในช่วงปกติ และไม่ถ่างกว้างเกินไปแม้ในช่วงที่มีข่าวรุนแรง ทำให้สามารถคำนวณต้นทุนได้ง่าย คล้ายกับสเปรดคงที่
- ความเร็วในการส่งคำสั่ง: ใช้ระบบ STP/ECN โดยตรงไปยังผู้ให้สภาพคล่อง (Liquidity Providers) ทำให้ลดโอกาสการ Requote และ Slippage ได้อย่างมีนัยสำคัญ — สิ่งที่สำคัญมากสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นความเร็ว
- รองรับผู้ใช้ไทยอย่างแท้จริง: รองรับการฝาก-ถอนผ่าน QR Code และธนาคารในไทยอย่าง SCB, KBank และ Bangkok Bank พร้อมทีมสนับสนุนที่สื่อสารภาษาไทยได้
- แพลตฟอร์มครบครัน: รองรับ MT4, MT5 และ WebTrader ที่พัฒนาขึ้นเอง ใช้งานง่าย ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ
2. Exness: จุดแข็งด้านความเร็วในการทำธุรกรรมและการใช้งานจริง
Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องการฝากถอนเงินที่รวดเร็วทันใจ โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการความคล่องตัวสูง
แม้สเปรดหลักของ Exness จะเป็นแบบลอยตัว แต่บัญชี Standard Cent และบัญชีบางประเภทในสินทรัพย์เฉพาะ เช่น ทองคำ หรือคู่เงินหลัก อาจมีเงื่อนไขที่ใกล้เคียงกับสเปรดคงที่ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับการใช้โบนัสหรือโปรโมชั่นที่ช่วยลดต้นทุนในระยะสั้น
- ได้รับการกำกับดูแลจาก FSA (เซเชลส์) และ CySEC (ไซปรัส)
- เงินฝากขั้นต่ำเพียง $10
- รองรับ MT4, MT5 และแอปพลิเคชันเฉพาะตัว Exness Terminal
- บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตัวแทนพูดภาษาไทย
3. FBS: ตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเลเวอเรจสูงและต้นทุนเริ่มต้นต่ำ
FBS เป็นที่รู้จักในกลุ่มเทรดเดอร์ไทยมานาน โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นที่มองหาเงินฝากขั้นต่ำต่ำเพียง $1 และเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:3000 ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองกลยุทธ์ต่างๆ โดยใช้ทุนน้อย
โบรกเกอร์รายนี้มีบัญชี Fixed Spread โดยตรง ซึ่งล็อกค่าสเปรดของ EUR/USD ไว้ที่ 3 pips และ XAU/USD ที่ประมาณ 50 pips ซึ่งแม้จะสูงกว่าบางเจ้า แต่ก็ช่วยให้คำนวณต้นทุนได้ชัดเจน
- ใบอนุญาตจาก IFSC (เบลีซ) และ CySEC (ไซปรัส)
- มีโปรโมชั่นโบนัสเงินฝากและแคชแบ็กเป็นประจำ
- รองรับการเทรดผ่านแอป FBS Trader ที่ออกแบบมาเพื่อมือถือโดยเฉพาะ
4. HFM (HF Markets): ความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมายาวนาน
อดีตที่รู้จักในชื่อ HotForex ทำให้ HFM มีฐานลูกค้าทั่วโลกและชื่อเสียงที่ดีในด้านความโปร่งใสและคุณภาพของบริการ โบรกเกอร์รายนี้มีการควบคุมจากหลายหน่วยงาน รวมถึง FCA (สหราชอาณาจักร) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม
แม้ HFM จะเน้นบัญชีสเปรดลอยตัวเป็นหลัก แต่สเปรดในคู่เงินหลักมีความเสถียรค่อนข้างสูง และมีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น VPS ฟรี สำหรับผู้ใช้ EA และเซสชันเรียนรู้ออนไลน์เป็นภาษาไทย
5. XM: แหล่งเรียนรู้สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
XM ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาสูงที่สุดในตลาด มีคลังบทความ วิดีโอ และเว็บินาร์ภาษาไทยจำนวนมาก ทำให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องรู้ลึกเรื่องเทคนิค
แม้สเปรดจะไม่ใช่จุดแข็งเด่นที่สุด แต่ XM มีความน่าเชื่อถือจาก CySEC และ ASIC พร้อมเงินประกันความเสียหายสูงถึง 20,000 ยูโรต่อลูกค้าหนึ่งคน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในเรื่องความปลอดภัย

ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์สเปรดคงที่สำหรับเทรดเดอร์ไทย
เพื่อให้การเปรียบเทียบเป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้านล่างนี้คือข้อมูลสรุปเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้ง 5 ราย ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้เร็วขึ้นตามความต้องการเฉพาะตัว
โบรกเกอร์ | สเปรดเฉลี่ย (EUR/USD) | สเปรดเฉลี่ย (XAU/USD) | หน่วยงานกำกับดูแล | เงินฝากขั้นต่ำ | แพลตฟอร์ม | ช่องทางฝาก/ถอนไทย |
---|---|---|---|---|---|---|
Moneta Markets | ต่ำและเสถียร (เริ่มต้น 0.0 pips) | ต่ำและเสถียร | ASIC, FSCA | $50 | MT4, MT5, WebTrader | QR Code, ธนาคารไทย |
Exness | ~1.0 pips (ลอยตัว) | ~20 pips (ลอยตัว) | FSA, CySEC | $10 | MT4, MT5, Exness Terminal | QR Code, ธนาคารไทย |
FBS | คงที่ 3 pips | คงที่ ~50 pips | IFSC, CySEC | $1 | MT4, MT5, FBS Trader | QR Code, ธนาคารไทย |
HFM | ~1.2 pips (ลอยตัว) | ~29 pips (ลอยตัว) | FCA, CySEC, DFSA | $5 | MT4, MT5, HFM App | ธนาคารไทย |
XM | ~1.7 pips (ลอยตัว) | ~35 pips (ลอยตัว) | CySEC, ASIC | $5 | MT4, MT5, XM App | QR Code, ธนาคารไทย |
ข้อดี vs ข้อเสีย ของการเลือกใช้โบรกเกอร์สเปรดคงที่
การตัดสินใจเลือกประเภทบัญชีควรเริ่มจากการเข้าใจว่า สเปรดคงที่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ดังนั้นการรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียจะช่วยให้คุณเลือกได้อย่างรอบคอบ
ข้อดี (Advantages)
- วางแผนการเทรดได้แม่นยำ: รู้ชัดเจนว่าแต่ละออเดอร์จะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ช่วยให้คำนวณ Risk/Reward Ratio ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้ระบบเทรดอัตโนมัติหรือ EA
- ลดความเครียดจากความผันผวน: ไม่ต้องกังวลว่าสเปรดจะถ่างกว้างในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวรุนแรง ทำให้สามารถเข้าออเดอร์ได้อย่างมั่นใจ
- เหมาะกับกลยุทธ์ระยะสั้น: สำหรับผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือการเทรดข่าว การที่สเปรดไม่ผันผวนช่วยรักษาความสามารถในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของราคา
ข้อเสีย (Disadvantages)
- ต้นทุนอาจสูงกว่าในช่วงตลาดนิ่ง: เมื่อเทียบกับสเปรดลอยตัวที่สามารถต่ำถึง 0.1 pips ได้ สเปรดคงที่มักจะตั้งไว้ในระดับที่สูงกว่าเล็กน้อยเพื่อป้องกันความเสี่ยงของโบรกเกอร์
- มีโอกาสเจอ Requote บ่อยขึ้น: เมื่อราคาเคลื่อนที่เร็วเกินไป โบรกเกอร์อาจไม่สามารถเติมคำสั่งได้ที่ราคาเดิม และต้องเสนอราคาใหม่ ซึ่งอาจทำให้คุณพลาดจังหวะหรือเข้าในราคาที่ไม่ต้องการ
- ข้อจำกัดด้านการใช้งาน: บางโบรกเกอร์อาจห้ามใช้ EA หรือจำกัดปริมาณการเทรดในบัญชีสเปรดคงที่ เพื่อควบคุมความเสี่ยงของตนเอง
สเปรดคงที่เหมาะกับเทรดเดอร์ประเภทไหนมากที่สุด?
แม้สเปรดคงที่จะดูเป็นมิตรกับทุกคน แต่กลุ่มผู้ใช้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดมักจะมีลักษณะเฉพาะ ดังนี้:
- เทรดเดอร์มือใหม่: ช่วยลดความซับซ้อน ทำให้โฟกัสไปที่การเรียนรู้กราฟ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการจัดการความเสี่ยง แทนที่จะต้องมาคำนวณต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
- นักเทรดแบบ Scalping: เนื่องจากเปิด-ปิดออเดอร์หลายครั้งต่อวัน การที่รู้ต้นทุนแน่นอนช่วยให้มั่นใจว่า ทุกการเทรดอยู่ในกรอบที่สามารถทำกำไรได้
- ผู้ที่ชอบเทรดช่วงข่าว: ช่วงเวลาที่มีข่าวสำคัญ เช่น NFP หรือ CPI สเปรดลอยตัวอาจพุ่งสูงถึง 10–50 pips ในไม่กี่วินาที สเปรดคงที่ช่วยให้คุณยังสามารถเทรดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเกินคาด
วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex สเปรดคงที่ในประเทศไทย: เช็คลิสต์สำหรับปี 2025
ก่อนจะสมัครกับโบรกเกอร์ใดๆ ควรใช้แนวทางต่อไปนี้เพื่อประเมินอย่างเป็นระบบ
- ตรวจสอบใบอนุญาต: ต้องมาจากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ เช่น ASIC, CySEC หรือ FCA อย่าหลงเชื่อโบรกเกอร์ที่ไม่มีการกำกับดูแล
- เปรียบเทียบต้นทุนโดยรวม: อย่าดูแค่สเปรด แต่ต้องดูค่าคอมมิชชั่น ค่า Swap หรือค่าธรรมเนียมการถอนด้วย
- ทดสอบความเสถียรของแพลตฟอร์ม: แพลตฟอร์มต้องไม่ค้าง ไม่ดีเลย์ และรองรับทั้ง MT4/MT5 หรือแอปที่ใช้งานง่าย
- ช่องทางการเงินที่สะดวก: ควรมีการฝากถอนผ่านธนาคารไทยหรือ QR Code โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง
- บริการลูกค้าที่เข้าใจภาษาไทย: ทีมงานควรตอบคำถามได้เร็ว และเข้าใจบริบทของผู้ใช้ในประเทศไทย เช่น เวลาทำการ หรือช่วงเวลาที่เทรดบ่อย
บทสรุป: โบรกเกอร์สเปรดคงที่ตัวไหนคือคำตอบสำหรับคุณในปี 2025?
การมี “ต้นทุนที่คาดการณ์ได้” คือหนึ่งในกุญแจสำคัญของการเทรดที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในตลาดที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอย่างฟอเร็กซ์ สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในปี 2025 การเลือกโบรกเกอร์ที่มอบความสมดุลระหว่างความน่าเชื่อถือ ต้นทุนต่ำ และการสนับสนุนที่เข้าใจวัฒนธรรมการใช้งานในท้องถิ่น จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุด
จากทั้งหมดที่วิเคราะห์ Moneta Markets ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในด้านความเสถียรของสเปรด ความเร็วในการส่งคำสั่ง และการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ แม้จะไม่ใช่สเปรดคงที่แบบชัดเจน แต่การที่สเปรดมีความนิ่งสูงและไม่ถ่างกว้างในช่วงข่าว ทำให้ได้รับประสบการณ์คล้ายกับบัญชีสเปรดคงที่ พร้อมประโยชน์ของสเปรดที่ต่ำในช่วงปกติ
สุดท้ายนี้ ขอแนะนำให้คุณเปิดบัญชีทดลอง (Demo Account) กับโบรกเกอร์ที่สนใจอย่างน้อย 2–3 แห่ง เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริง ตั้งแต่การใช้แพลตฟอร์ม ความเร็วในการส่งคำสั่ง ไปจนถึงการบริการลูกค้า ก่อนจะตัดสินใจใช้เงินจริง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่สเปรดคงที่กับสเปรดลอยตัว แบบไหนดีกว่ากัน?
ไม่มีแบบไหนดีกว่ากันอย่างสมบูรณ์ แต่เหมาะกับเทรดเดอร์คนละประเภท:
- สเปรดคงที่ (Fixed Spread) เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่, Scalpers, และ News Traders ที่ต้องการต้นทุนที่คาดการณ์ได้และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสเปรดถ่าง
- สเปรดลอยตัว (Variable Spread) เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์, Day Traders หรือ Swing Traders ที่สามารถรับมือกับความผันผวนของสเปรดได้ และต้องการใช้ประโยชน์จากสเปรดที่แคบมากในช่วงตลาดสงบ
มีโบรกเกอร์ Forex ที่สเปรดเป็น 0 จริงหรือไม่?
มีจริง แต่ต้องทำความเข้าใจเงื่อนไข โดยทั่วไปแล้ว บัญชีประเภท “Zero Spread” หรือ “Raw Spread” จะมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips แต่โบรกเกอร์จะคิดค่าธรรมเนียมในรูปแบบของค่าคอมมิชชั่น (Commission) ต่อการเทรดหนึ่งล็อตแทน ซึ่งเมื่อรวมค่าคอมมิชชั่นแล้วก็คือต้นทุนการเทรดนั่นเอง บัญชีประเภทนี้มักเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง
โบรกเกอร์ไหนมีค่าสเปรดทอง (XAU/USD) ต่ำและคงที่บ้าง?
ค่าสเปรดทองคำมักจะมีความผันผวนสูง โบรกเกอร์ที่เสนอบัญชีสเปรดคงที่สำหรับทองคำโดยเฉพาะอาจมีไม่มากนัก แต่โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets มีชื่อเสียงในด้านการให้สเปรดทองคำที่แคบและมีเสถียรภาพสูงเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ถึงแม้จะเป็นสเปรดลอยตัว แต่ก็มีความนิ่งและคาดการณ์ได้ง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ทองคำ
การเทรดด้วยบัญชีสเปรดคงที่ต้องระวังเรื่อง Requote หรือไม่?
ใช่ นี่คือข้อควรระวังสำคัญ เนื่องจากโบรกเกอร์ล็อกสเปรดไว้ ในช่วงที่ตลาดผันผวนรุนแรง (เช่น ตอนข่าวออก) ราคาอาจเคลื่อนที่เร็วมากจนโบรกเกอร์ไม่สามารถเติมคำสั่งของคุณได้ที่ราคาเดิม จึงอาจเกิดการ Requote หรือการเสนอราคาใหม่ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ว่าจะยอมรับราคาใหม่หรือยกเลิกคำสั่งนั้นไป การเลือกโบรกเกอร์ที่มี Server ที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องสูงจะช่วยลดปัญหานี้ได้
บัญชีสเปรดคงที่เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ในประเทศไทยหรือไม่?
เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ในประเทศไทย การเริ่มต้นด้วยบัญชีสเปรดคงที่จะช่วยลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการต้นทุน ไม่ต้องคอยกังวลว่าสเปรดจะกว้างขึ้นเมื่อไหร่ ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค การจัดการความเสี่ยง และการพัฒนากลยุทธ์การเทรดของตนเองได้อย่างเต็มที่
Moneta Markets มีบัญชีประเภทสเปรดคงที่หรือไม่?
Moneta Markets เน้นการให้บริการบัญชีประเภทสเปรดลอยตัวที่แคบมาก (ECN และ STP) ซึ่งให้ประโยชน์สูงสุดแก่เทรดเดอร์ในด้านราคาที่ดีที่สุดจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของ Moneta Markets คือสเปรดมีความเสถียรสูงและไม่ถ่างกว้างมากนักแม้ในช่วงข่าว ทำให้เทรดเดอร์ได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับสเปรดคงที่ในแง่ของความสามารถในการคาดการณ์ต้นทุน แต่ยังคงได้ประโยชน์จากสเปรดที่แคบในช่วงเวลาปกติ จึงเป็นตัวเลือกที่สมดุลและเป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย