FOMC เดือนตุลาคม 2025: จับตาประชุมเฟด ตัดสินใจดอกเบี้ย ส่งผลต่อตลาดหุ้น-คริปโต และเศรษฐกิจไทยอย่างไร

สารบัญ

การประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025: วันที่และกำหนดการสำคัญ

การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินแห่งธนาคารกลางสหรัฐ หรือที่รู้จักกันในชื่อ FOMC ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทุกสายตาจากนักลงทุนและนักวางนโยบายทั่วโลกจับจ้องเสมอ โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมปี 2025 นี้ เพราะการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและคำแถลงจากประธานเฟดจะก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจและโอกาสการลงทุนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย

กำหนดการประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025

กำหนดการประชุมอย่างเป็นทางการ

จากข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออย่าง Investopedia และ CME Group การประชุม FOMC ในเดือนตุลาคม 2025 กำหนดไว้ในวันที่ 28-29 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการชี้ทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกา

ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ในการแถลงข่าว

เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง คาดว่าประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จะออกมาแถลงข่าวในวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดทั่วโลกจะรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อรับรู้การวิเคราะห์ผลการตัดสินใจและแนวโน้มในอนาคตโดยตรงจากทางเฟด (Republicworld)

นอกจากนี้ ยังมีประชุมของคณะกรรมการ Federal Reserve อีกครั้งในวันที่ 24 ตุลาคม 2025 (Federalreserve.gov) แต่การประชุมนี้แตกต่างจาก FOMC ที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยโดยตรง ดังนั้นนักลงทุนควรแยกแยะให้ชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน

เหตุใดการประชุมครั้งนี้จึงสำคัญ

FOMC มีหน้าที่หลักในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือ Federal Funds Rate ซึ่งเป็นรากฐานของอัตราดอกเบี้ยทั้งระบบเศรษฐกิจสหรัฐ การตัดสินใจเหล่านี้จึงกระทบโดยตรงต่อหลายด้าน เช่น

ผลกระทบของการประชุม FOMC ต่อเศรษฐกิจโลก
  • ต้นทุนการกู้ยืมเงินสำหรับสินเชื่อผู้บริโภค สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจ
  • ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้น หรือตลาดทุนอื่นๆ
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่มีบทบาทต่อการค้าและการลงทุนข้ามพรมแดน
  • สถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยรวมถึงการไหลเวียนของเงินทุนระหว่างประเทศและนโยบายการเงินของธนาคารกลางอื่นๆ

ปัจจัยที่ FOMC พิจารณา ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจภาพใหญ่ เช่น ระดับเงินเฟ้อ สภาพตลาดแรงงาน และภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและระดับโลก ซึ่งจะถูกนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด แม้การปรับเปลี่ยนนโยบายเพียงเล็กน้อยก็อาจจุดชนวนความผันผวนรุนแรงในตลาดการเงินได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก เช่น ความตึงเครียดทางการค้า

สิ่งที่คาดหวังจากการประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025

นักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างให้ความสนใจอย่างยิ่งกับการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025 นี้ เนื่องจากมุมมองที่หลากหลายและปัจจัยเศรษฐกิจที่ซับซ้อนต้องได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย: ขึ้น, ลง หรือคงที่?

ในขณะนี้ ตลาดแสดงความเห็นที่ไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการประชุม จากเครื่องมือ CME FedWatch Tool ที่สะท้อนความน่าจะเป็นจากตลาดตาม Investopedia พบว่ามีโอกาส 60% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ และ 40% ที่จะลดลง 25 basis points ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงครอบคลุมตลาด

นักวิเคราะห์จาก Morningstar ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดน่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 basis points ในเดือนตุลาคม ทำให้ช่วงอัตราดอกเบี้ย Federal Funds อยู่ที่ราว 4.75%-5.00% แต่การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับแนวโน้มเงินเฟ้อที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะหากตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงตามที่คาด

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นจากนักเศรษฐศาสตร์ของ KPMG ซึ่งเชื่อว่าเฟดจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ย หรือหากปรับลดก็เพียง 15-20 basis points เท่านั้น แตกต่างจากคาดการณ์ 25 basis points ของบางกลุ่ม ความแตกต่างเหล่านี้ย้ำถึงความซับซ้อนของสภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบจากนโยบายการคลังและเหตุการณ์โลก

ปัจจัยเศรษฐกิจที่ Fed จะพิจารณา

เฟดยังคงยึดหลักการตัดสินใจตามข้อมูลจริงหรือ data-dependent ตามที่ประธานพาวเวลล์ย้ำเสมอ (Kiplinger) ดังนั้น การปรับอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศก่อนการประชุม

ตัวชี้วัดหลักที่เฟดจะจับตาใกล้ชิด ได้แก่ (Investopedia)

  • อัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะดัชนี CPI และ PCE ซึ่งเป็นตัววัดที่เฟดให้ความสำคัญ หากเงินเฟ้อยังเกินเป้า 2% เฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยเพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • ตลาดแรงงาน รวมถึงอัตราการว่างงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตร และการเติบโตของค่าจ้าง หากตลาดยังแข็งแกร่ง แสดงว่าเศรษฐกิจรับมือกับดอกเบี้ยสูงได้ดี
  • ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งสหรัฐและโลก เช่น การเติบโต GDP ดัชนี PMI และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกับภาคธุรกิจ

การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้อย่างครบถ้วนจะช่วยกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในเดือนตุลาคม 2025 โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลล่าสุดอาจเผยให้เห็นสัญญาณฟื้นตัวหรือเสี่ยงถดถอย

ผลกระทบของการตัดสินใจ FOMC ต่อตลาดการเงิน

การตัดสินใจของ FOMC เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยส่งผลรุนแรงต่อตลาดการเงินทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร สินเชื่อ หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี โดยผลกระทบเหล่านี้มักเกิดขึ้นทันทีหลังประกาศ

ผลต่อตลาดหุ้นและพันธบัตร

หากเฟดเลือก ลดอัตราดอกเบี้ย มักถูกมองเป็นสัญญาณดีต่อตลาดหุ้น เพราะช่วยลดต้นทุนกู้ยืม สนับสนุนการลงทุนและการขยายธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่กำไรบริษัทที่สูงขึ้นและดึงดูดนักลงทุนสู่สินทรัพย์เสี่ยง ดัชนีอย่าง Dow Jones และ S&P 500 จึงมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น แต่หากการลดเกิดจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย ผลอาจไม่เป็นบวกเต็มที่ ตัวอย่างเช่น ในอดีตการลดดอกเบี้ยท่ามกลางวิกฤตมักทำให้ตลาดผันผวน

ตรงกันข้าม หากเฟด คงอัตราดอกเบี้ย ในระดับสูงหรือ ปรับขึ้น ตลาดหุ้นอาจเผชิญความไม่แน่นอนหรือปรับลง เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นกระทบผลประกอบการและลดเสน่ห์ของสินทรัพย์เสี่ยง

สำหรับตลาดพันธบัตร การลดดอกเบี้ยมักทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรต่ำลง ส่งผลให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้น ในขณะที่การคงหรือปรับขึ้นจะทำให้เกิดผลตรงข้าม โดยนักลงทุนอาจหันไปหาพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ผลต่ออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อและการเงินส่วนบุคคล

การตัดสินใจของเฟดกระทบตรงๆ ต่ออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อในสหรัฐ เช่น อัตราจำนอง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าหากเฟดลดดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญในเดือนตุลาคม 2025 อัตราจำนอง 30 ปีอาจต่ำกว่า 6% (CBS News) ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ซื้อบ้านหรือรีไฟแนนซ์ โดยเฉพาะในตลาดที่กำลังฟื้นตัว

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตก็จะปรับตาม โดยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลต่อภาระหนี้และการวางแผนการเงินของบุคคลทั่วไป ทำให้ผู้บริโภคต้องเตรียมตัวรับมือกับความผันผวน

ผลต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี

ตลาดคริปโตที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูงมักตอบสนองรวดเร็วต่อนโยบายเฟด หากลดดอกเบี้ย 25 basis points ในเดือนตุลาคม 2025 จะถูกมองเป็นสัญญาณบวก สร้างสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนสู่สินทรัพย์เสี่ยง (Crypto News) ตัวอย่างเช่น Bitcoin และ Ethereum อาจเห็นการปรับขึ้น

แต่หากเฟดคงดอกเบี้ยสูงหรือส่งสัญญาณเข้มงวดต่อ ตลาดคริปโตอาจถูกกดดันและปรับลง เนื่องจากนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยที่ให้ผลตอบแทนมั่นคงกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่ความเสี่ยงโลกเพิ่มสูง

การวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดไทย

แม้การประชุม FOMC จะมุ่งเน้นนโยบายสหรัฐ แต่ผลกระทบขยายมาถึงเศรษฐกิจและตลาดไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักลงทุนและผู้ประกอบการไทยจึงควรศึกษาอิทธิพลเหล่านี้เพื่อวางแผนรับมือให้ดี

อิทธิพลต่อค่าเงินบาทและนโยบายการเงินของไทย

การปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งกระทบค่าเงินบาทโดยตรง หากเฟดลดดอกเบี้ย ส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและไทยจะแคบลง อาจดึงเงินทุนจากสหรัฐไหลสู่ตลาดเกิดใหม่อย่างไทย ทำให้บาทแข็งค่า ซึ่งช่วยผู้นำเข้าและผู้มีหนี้ต่างประเทศ แต่กระทบผู้ส่งออกและการท่องเที่ยว

หากเฟดคงดอกเบี้ยสูงหรือปรับขึ้น เงินทุนอาจไหลย้อนกลับสหรัฐเพื่อผลตอบแทนสูงกว่า ส่งผลให้บาทอ่อนค่า ซึ่งหนุนการส่งออกและท่องเที่ยว แต่เพิ่มต้นทุนนำเข้าและหนี้ต่างประเทศ

เฟดยังเป็นปัจจัยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องนำมาพิจารณาในการกำหนดนโยบาย เพื่อรักษาเสถียรภาพบาทและควบคุมเงินเฟ้อ โดยสมดุลระหว่างการเติบโตเศรษฐกิจและความเสี่ยงภายนอก เช่น กรณีเงินทุนไหลออกกระทันหัน

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนไทย

สำหรับนักลงทุนไทย การประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025 เป็นช่วงที่ต้องระวังและปรับพอร์ตให้เหมาะสม

  • ปรับพอร์ตการลงทุน: หากเฟดน่าจะลดดอกเบี้ย อาจเพิ่มน้ำหนักในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นไทยหรือกองทุนตลาดเกิดใหม่ แต่หากคงดอกเบี้ยสูง ควรย้ายไปสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น กองทุนตลาดเงินหรือพันธบัตรสั้น
  • บริหารความเสี่ยง: จัดการความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจนำเข้า-ส่งออกหรือมีหนี้/สินทรัพย์ต่างประเทศ การใช้เครื่องมือ hedging จะช่วยลดผลกระทบ
  • ติดตามข่าวสาร: ฟังแถลงการณ์เฟดและการแถลงของพาวเวลล์ รวมถึงวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
  • มองปัจจัยในประเทศ: แม้เฟดมีน้ำหนัก แต่ปัจจัยไทยอย่างนโยบายรัฐ ผลประกอบการบริษัท และเศรษฐกิจภายในยังสำคัญ โดยเฉพาะการฟื้นตัวหลังโควิด

ด้วยความเข้าใจและการเตรียมตัวที่ดี นักลงทุนไทยจะสามารถรับมือความผันผวนและใช้โอกาสในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีติดตามการประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025 แบบสด

การติดตามข้อมูลจาก FOMC แบบเรียลไทม์ช่วยให้นักลงทุนตอบสนองตลาดได้ทันการณ์ โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลไหลเวียนรวดเร็ว

ช่องทางอย่างเป็นทางการและแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ

คุณสามารถติดตามได้จากช่องทางหลักดังนี้

  • เว็บไซต์ Federal Reserve: แหล่งข้อมูลหลักที่เผยแพร่แถลงการณ์ รายงานประชุม และอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการ
  • สำนักข่าวการเงินชั้นนำ: เช่น Bloomberg, Reuters, Wall Street Journal, Financial Times, CNBC ที่ให้ข่าวสดและวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
  • แพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาด: อย่าง Investing.com, Trading Economics, CME Group FedWatch Tool ที่แสดงคาดการณ์และปฏิกิริยาตลาด
  • โซเชียลมีเดีย: บัญชีของสำนักข่าวและนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังที่อัปเดตข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็ว

สรุปประเด็นสำคัญหลังการประชุม

หลังเฟดประกาศผล สิ่งสำคัญคือการตีความประเด็นหลักเหล่านี้

  • แถลงการณ์ FOMC: ระบุการตัดสินใจ เหตุผล มุมมองเศรษฐกิจและแนวโน้มอนาคต ให้สังเกตคำที่เปลี่ยนจากครั้งก่อน
  • การแถลงข่าวของประธานพาวเวลล์: ให้รายละเอียดเพิ่มและตอบคำถามสื่อ ซึ่งมักเผยเบาะแสทิศทางนโยบาย
  • Dot Plot (หากมี): แผนภาพคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยจากกรรมการแต่ละคน ช่วยเห็นภาพรวมความเห็นภายใน

การเข้าใจประเด็นเหล่านี้จะช่วยประเมินผลกระทบและวางกลยุทธ์ลงทุนได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะเมื่อตลาดอาจตอบสนองเกินจริงในช่วงแรก

1. การประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025 จะจัดขึ้นเมื่อไหร่?

การประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28-29 ตุลาคม 2025 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตา

2. Fed มีแนวโน้มจะปรับขึ้น, ลด หรือคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้?

ตลาดมีความเห็นหลากหลาย ณ ปัจจุบัน CME FedWatch Tool ชี้ว่ามีความน่าจะเป็น 60% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ย และ 40% ที่จะลด 25 basis points ในขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วน เช่น Morningstar คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 25 bps แต่ KPMG คาดว่าอาจคงที่หรือลดเพียง 15-20 bps

3. การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างไร?

โดยทั่วไป การลดอัตราดอกเบี้ยมักเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นเพราะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หากคงอัตราดอกเบี้ยสูงหรือปรับขึ้น อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนหรือปรับตัวลง

4. อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากการประชุม FOMC หรือไม่?

การตัดสินใจของ Fed มีอิทธิพลต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย หาก Fed ลดอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าไทยมากขึ้น และอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทยนำมาพิจารณาในการกำหนดนโยบาย ซึ่งอาจส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในไทยได้

5. เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed จะแถลงข่าวหลังการประชุมเมื่อไหร่?

ประธาน Fed นายเจอโรม พาวเวลล์ คาดว่าจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 29 ตุลาคม 2025 หลังจากการประกาศผลการประชุม FOMC

6. ปัจจัยเศรษฐกิจใดบ้างที่ Fed ใช้ในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย?

Fed จะพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญๆ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ (CPI, PCE), สถานการณ์ตลาดแรงงาน (อัตราการว่างงาน, การจ้างงาน) และภาพรวมเศรษฐกิจทั้งของสหรัฐฯ และทั่วโลก

7. นักลงทุนคริปโตควรเตรียมตัวอย่างไรสำหรับการประชุม FOMC?

หาก Fed ลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps อาจเป็นสัญญาณบวกสำหรับตลาดคริปโต (Crypto News) นักลงทุนควรติดตามผลการตัดสินใจและแถลงการณ์อย่างใกล้ชิด และพิจารณาปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับแนวโน้มสภาพคล่องในตลาดและภาวะสินทรัพย์เสี่ยง

8. การประชุม FOMC เดือนตุลาคม 2025 จะมีผลต่อค่าเงินบาทอย่างไร?

หาก Fed ลดอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง ส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากสหรัฐฯ และเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้ ในทางกลับกัน หาก Fed คงอัตราดอกเบี้ยสูง อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง

9. สามารถติดตามการถ่ายทอดสดการประชุม FOMC ได้จากช่องทางใด?

คุณสามารถติดตามการแถลงการณ์และแถลงข่าวได้จากเว็บไซต์ Federal Reserve, สำนักข่าวการเงินชั้นนำ เช่น Bloomberg, Reuters, CNBC และแพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาดต่างๆ

10. การประชุม Fed เดือนพฤศจิกายน 2025 มีกำหนดการเมื่อไหร่?

โดยปกติแล้ว การประชุม FOMC จะจัดขึ้นประมาณ 8 ครั้งต่อปี การประชุมครั้งถัดไปหลังจากเดือนตุลาคม 2025 คาดว่าจะเป็นช่วงกลางถึงปลายเดือนธันวาคม 2025 อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบกำหนดการอย่างเป็นทางการจากเว็บไซต์ Federal Reserve อีกครั้ง

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *