ทำไมการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ฝากเงินไม่เสียค่าธรรมเนียมจึงสำคัญ?
ในโลกของการซื้อขายฟอเร็กซ์ ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับกลยุทธ์หรือการวิเคราะห์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงต้นทุนที่ซ่อนอยู่หลายอย่าง หนึ่งในต้นทุนที่มักถูกมองข้าม แต่ส่งผลกระทบตั้งแต่ก้าวแรก คือ “ค่าธรรมเนียมการฝากเงิน” หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงจำนวนเล็กน้อย แต่เมื่อคูณด้วยความถี่ในการฝาก หรือคิดในมุมของเงินทุนเริ่มต้นที่ถูกกัดกร่อน ก็อาจกลายเป็นภาระที่หนักโดยไม่รู้ตัว
การเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากจึงไม่ใช่แค่เรื่องประหยัดเงิน แต่คือการรักษาเงินทุนให้เต็มจำนวน เพื่อใช้ในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โบรกเกอร์ที่ให้บริการฝากเงินฟรี มักสะท้อนถึงความใส่ใจในประสบการณ์ของผู้ใช้ และต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับเทรดเดอร์ ไม่ใช่แค่แสวงหาผลกำไรระยะสั้น
- รักษาเงินทุนเต็มจำนวน: หากคุณฝาก 10,000 บาท แล้วโบรกเกอร์หักค่าธรรมเนียม 3% คุณจะสูญเสียทันที 300 บาท ซึ่งอาจเทียบเท่ากับกำไรจากการเทรดหลายครั้ง การได้รับเงินเต็มจำนวนในบัญชีเทรด คือการเริ่มต้นที่ได้เปรียบ
- ลดต้นทุนแฝงโดยรวม: ค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของต้นทุนการเทรด หากคุณเทรดบ่อยหรือฝากซ้ำหลายครั้ง ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะสะสมอย่างเงียบ ๆ การกำจัดจุดนี้ช่วยเพิ่มอัตราผลตอบแทนในระยะยาว
- แสดงถึงความน่าเชื่อถือ: โบรกเกอร์ที่เลือกแบกรับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมแทนลูกค้า มักเป็นบริษัทที่มีเสถียรภาพทางการเงิน และตั้งใจให้บริการอย่างโปร่งใส ซึ่งมักควบคู่ไปกับการกำกับดูแลที่เข้มงวด

จัดอันดับ 5 โบรกเกอร์ Forex ฝากเงินไม่เสียค่าธรรมเนียมที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025
ในปี 2025 จำนวนโบรกเกอร์ที่เปิดรับเทรดเดอร์ไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่ทุกแห่งที่เข้าใจความต้องการเฉพาะของตลาดท้องถิ่น เช่น ความสะดวกในการโอนเงินผ่านธนาคารไทย หรือการรองรับระบบพร้อมเพย์ที่รวดเร็ว บทความนี้คัดเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่เพียงแค่ให้บริการฝากเงินฟรี แต่ยังคำนึงถึงประสบการณ์การใช้งานโดยรวม ความปลอดภัย และต้นทุนการเทรดที่แท้จริง
1. Moneta Markets: ผู้นำด้านช่องทางการชำระเงินที่เหมาะกับเทรดเดอร์ไทย
หากพูดถึงโบรกเกอร์ที่เข้าใจตลาดไทยได้ลึกที่สุด Moneta Markets คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยการลงทุนในระบบการเงินที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานในประเทศไทยโดยเฉพาะ ทำให้การฝาก-ถอนเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง และสำคัญที่สุดคือ “เงินเข้าทันใจ”
- จุดเด่นที่ไม่ควรพลาด:
- รองรับ Thai QR Payment และการโอนผ่านธนาคารในประเทศ: นี่คือจุดแข็งที่สุดของ Moneta Markets เทรดเดอร์สามารถฝากเงินผ่านแอปธนาคารในมือถือได้ทันที ไม่ต้องกรอกข้อมูลซับซ้อน เงินเข้าบัญชีเทรดในไม่กี่นาที และที่สำคัญ – ไม่มีค่าธรรมเนียม
- ใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับโลก: ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดในอุตสาหกรรม การมีใบอนุญาตเหล่านี้หมายถึงการแยกเงินทุนลูกค้าออกจากเงินบริษัท ทำให้เงินของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น
- สเปรดที่แข่งขันได้: ไม่ใช่แค่ฝากฟรี แต่ยังมีค่าสเปรดต่ำในคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD และ GBP/USD ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเปิดคำสั่งตั้งแต่ก้าวแรก
- แพลตฟอร์มหลากหลาย: รองรับทั้ง MT4, MT5 และ Pro Trader ที่ขับเคลื่อนโดย TradingView ทำให้เทรดเดอร์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ข้อควรพิจารณา: แม้จะครอบคลุมสินทรัพย์หลัก ๆ ได้ดี แต่จำนวนคู่เงินหรือตราสารอื่น ๆ เช่น หุ้น CFD หรือสินค้าโภคภัณฑ์ อาจยังไม่หลากหลายเท่ากับโบรกเกอร์ระดับโลกขนาดใหญ่ แต่สำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการ
2. Exness: ความเร็วสูงสุดและสเปรดต่ำสุด
Exness คือหนึ่งในโบรกเกอร์ไม่กี่แห่งที่สามารถจัดการได้ทั้งเรื่องความเร็วและต้นทุนได้อย่างลงตัว ด้วยระบบอัตโนมัติที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การฝาก-ถอนเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้บริการผ่านธนาคารในประเทศไทย
- จุดเด่นหลัก:
- ฝากเงินผ่านธนาคารไทยโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม: รองรับการโอนเงินจากธนาคารชั้นนำในประเทศ เช่น กสิกรไทย, กรุงเทพ, กรุงศรี และอื่น ๆ โดยไม่หักค่าธรรมเนียม และมักได้รับเงินในบัญชีภายใน 1-5 นาที
- สเปรดเริ่มต้น 0.0 pip: สำหรับบัญชี Zero Spread ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการความแม่นยำสูง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ High-Frequency Trading
- เลเวอเรจไม่จำกัด: ในบางบัญชี ผู้ใช้สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงมาก ซึ่งดึงดูดเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และบริหารความเสี่ยงเป็นอย่างดี
- ข้อสังเกต: แม้บริการจะรวดเร็ว แต่บางช่วงเวลาอาจพบว่าการสนับสนุนลูกค้ามีความล่าช้า หรือต้องรอการตอบกลับผ่านแชทนานกว่าปกติ
3. XM: โบรกเกอร์เพื่อการเรียนรู้และการเริ่มต้น
XM เป็นที่รู้จักในระดับโลกมานานกว่าทศวรรษ และได้รับความนิยมสูงในไทย ด้วยจุดเด่นด้านการสนับสนุนการศึกษาและการจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น
- จุดเด่นหลัก:
- ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการฝากผ่านธนาคารไทย: รองรับทั้งการโอนผ่านออนไลน์และ QR Code โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม
- โบนัสเงินฝาก: มีโปรโมชั่นต่าง ๆ สำหรับลูกค้าใหม่ เช่น โบนัส 20% หรือ 50% ซึ่งช่วยเพิ่มเงินทุนเริ่มต้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
- สื่อการเรียนรู้ครบวงจร: มีบทความ วิดีโอสอน และเว็บินาร์เป็นภาษาไทยอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้เริ่มต้นเข้าใจพื้นฐานการเทรดได้ดีขึ้น
- ข้อสังเกต: ค่าสเปรดในบัญชีมาตรฐานอาจสูงกว่าคู่แข่งบางรายเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสไตล์การเทรด
4. IUX Markets: โบรกเกอร์ใหม่ที่มาแรงด้วยบัญชี Swap-Free
IUX Markets แม้จะเปิดตัวได้ไม่นานนัก แต่กลับเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดไทย ด้วยจุดขายสำคัญคือ “บัญชีปลอดค่าสวอปทุกสินทรัพย์” ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือออเดอร์ข้ามคืนเป็นประจำ
- จุดเด่นหลัก:
- ฝากเงินผ่าน QR Code โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม: รองรับระบบพร้อมเพย์ของไทยอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้การฝากเงินสะดวกและรวดเร็ว
- ไม่มีค่าสวอปในทุกบัญชี: ไม่ว่าคุณจะเทรดคู่เงินไหน หรือถือออเดอร์นานแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวลกับค่าธรรมเนียมข้ามคืน
- โบนัสเงินฝากสูง: มีโปรโมชั่นที่ให้โบนัสมากกว่าโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มทุนในช่วงเริ่มต้น
- ข้อสังเกต: เนื่องจากเป็นโบรกเกอร์ที่ยังใหม่ ความเชื่อมั่นในระยะยาวยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ โดยเฉพาะในเรื่องเสถียรภาพของแพลตฟอร์มและการบริการลูกค้าในช่วงวิกฤต
5. GMI Markets: เทคโนโลยีเร็ว สำหรับเทรดเดอร์สาย Speed
GMI Markets เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นความเร็วในการส่งคำสั่ง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้กลยุทธ์ที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง เช่น Scalping หรือการเทรดช่วงข่าว
- จุดเด่นหลัก:
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากผ่านธนาคารไทย: รองรับการโอนเงินจากธนาคารในประเทศโดยไม่หักค่าธรรมเนียม ทำให้เงินเข้าเต็มจำนวน
- บัญชี ECN ที่มีสเปรดต่ำ: สำหรับผู้ที่ต้องการต้นทุนต่ำสุด โดยมีค่าคอมมิชชั่นต่อล็อต แต่ได้รับสเปรดที่แคบมาก
- เซิร์ฟเวอร์เสถียร ชั้นนำระดับ Tier-1: มีชื่อเสียงในเรื่องความเร็วและลด Slippage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ข้อสังเกต: เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชี ECN อาจสูงกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่มีทุนจำกัด

ตารางเปรียบเทียบช่องทางการฝากเงินและค่าธรรมเนียมสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย
เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล นี่คือตารางสรุปข้อมูลสำคัญของโบรกเกอร์ทั้ง 5 แห่ง ที่เราได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี
โบรกเกอร์ (Broker) | ช่องทางฝากเงินฟรีสำหรับคนไทย | เงินฝากขั้นต่ำ | หน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) |
---|---|---|---|
Moneta Markets | Thai QR Payment, Local Thai Bank Transfer | $50 | ASIC, FSCA |
Exness | Local Thai Bank Transfer | $10 | FCA, CySEC, FSCA |
XM | Local Thai Bank Transfer, QR Code | $5 | ASIC, CySEC, FSC |
IUX Markets | Thai QR Payment | $10 | SVGFSA, MISA |
GMI Markets | Local Thai Bank Transfer | $15 | FCA, FSC |
นอกจากค่าธรรมเนียมการฝากเงินแล้ว ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายอื่นๆ อะไรอีกบ้าง?
ค่าธรรมเนียมการฝากเงินเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การประเมินต้นทุนการเทรดที่แท้จริง ต้องมองให้รอบด้าน ดังนี้:
- สเปรด (Spread): คือต้นทุนหลักของการเปิดคำสั่ง หากสเปรดแคบ หมายถึงคุณเริ่มต้นได้ใกล้กับจุดที่ทำกำไรทันที
- ค่าสวอป (Swap): สำหรับผู้ถือออเดอร์ข้ามคืน ค่าใช้จ่ายนี้อาจสะสมเป็นจำนวนมากได้ โดยเฉพาะในคู่เงินที่ดอกเบี้ยต่างกันมาก
- ค่าคอมมิชชั่น: โดยทั่วไปพบในบัญชี ECN ซึ่งแม้จะมีค่าคอมมิชชั่น แต่สเปรดมักต่ำมาก ทำให้ต้นทุนรวมยังต่ำกว่าบัญชีมาตรฐาน
- ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน: บางโบรกเกอร์อาจไม่เก็บค่าฝาก แต่หักค่าถอนเงิน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งฝากและถอน ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับช่องทางที่คุณใช้
การวิเคราะห์ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของ “ต้นทุนที่แท้จริง” ในการเทรด ไม่ใช่แค่ดูที่ค่าธรรมเนียมเดียว
คำแนะนำในการเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
การตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ ไม่ควรมองแค่โปรโมชั่นหรือค่าธรรมเนียมเพียงอย่างเดียว แต่ควรใช้แนวทางที่รอบคอบ โดยพิจารณาตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ตรวจสอบใบอนุญาต: ความปลอดภัยของเงินทุนต้องมาก่อนเสมอ โบรกเกอร์ควรมีใบอนุญาตจาก ASIC, FCA หรือ CySEC หากมีสำนักงานในไทย ควรตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือไม่
- เปรียบเทียบช่องทางการชำระเงิน: เลือกโบรกเกอร์ที่รองรับการโอนผ่านธนาคารไทยหรือ QR Code โดยไม่มีค่าธรรมเนียม และเงินเข้าเร็ว
- วิเคราะห์ต้นทุนรวม: อย่าลืมพิจารณาสเปรด สวอป และค่าคอมมิชชั่นร่วมด้วย เพราะอาจมีผลมากกว่าค่าธรรมเนียมการฝาก
- ทดลองใช้บัญชีเดโม่: ก่อนลงทุนจริง ควรใช้บัญชีทดลองเพื่อทดสอบความเร็วของแพลตฟอร์ม ความเสถียร และการตอบสนองของคำสั่ง
- อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง: ค้นหาความคิดเห็นจากเทรดเดอร์ไทยในฟอรัมหรือชุมชนออนไลน์ เพื่อดูประสบการณ์จริง โดยเฉพาะเรื่องการฝาก-ถอน และการบริการลูกค้า
บทสรุป: การเริ่มต้นอย่างชาญฉลาดในปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากเงิน ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ แต่คือกลยุทธ์สำคัญในการรักษาเงินทุนและเพิ่มศักยภาพการเทรดของคุณในระยะยาว จากการวิเคราะห์ โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดไทยได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยการสนับสนุนช่องทางการชำระเงินที่เหมาะกับคนไทย เช่น Thai QR Payment และการโอนผ่านธนาคารในประเทศ ที่ทั้งรวดเร็ว ปลอดภัย และไม่มีค่าธรรมเนียม
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับการกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือจาก ASIC และ FSCA รวมถึงต้นทุนการเทรดที่แข่งขันได้ ทำให้ Moneta Markets เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในปี 2025 หากคุณต้องการเริ่มต้นอย่างมั่นคง และไม่ต้องการสูญเสียเงินตั้งแต่ก้าวแรก การเลือกโบรกเกอร์ที่ถูกต้อง คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
เปิดบัญชีกับ Moneta Markets และเริ่มต้นเทรดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
โบรกเกอร์ Forex ทั้งหมดในประเทศไทยฟรีค่าธรรมเนียมการฝากเงินหรือไม่?
ไม่ทั้งหมดครับ แม้ว่าโบรกเกอร์ชั้นนำส่วนใหญ่จะพยายามยกเว้นค่าธรรมเนียมการฝากเงินผ่านช่องทางธนาคารไทยเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่ก็ยังมีโบรกเกอร์บางรายที่อาจคิดค่าธรรมเนียม หรือมีค่าธรรมเนียมแฝงเมื่อฝากผ่านช่องทางอื่น เช่น บัตรเครดิต/เดบิต หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์ให้ดีก่อนทำการฝากเงินเสมอ
Moneta Markets มีช่องทางการฝากเงินอะไรบ้างสำหรับคนไทยในปี 2025 ที่ฟรีค่าธรรมเนียม?
สำหรับปี 2025 Moneta Markets ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีช่องทางการฝากเงินที่ฟรีค่าธรรมเนียมและได้รับความนิยมสูง 2 ช่องทางหลักคือ:
- Thai QR Payment: เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด เพียงสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารบนมือถือ ยอดเงินจะเข้าบัญชีเทรดแทบทันที
- Local Thai Bank Transfer: การโอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์ในประเทศไทย ซึ่งรองรับธนาคารชั้นนำส่วนใหญ่ในประเทศ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ปลอดภัยและไม่มีค่าใช้จ่าย
ทั้งสองช่องทางนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเทรดเดอร์ชาวไทยโดยเฉพาะ ทำให้ Moneta Markets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
การฝากเงินผ่านธนาคารไทยกับโบรกเกอร์ต่างประเทศปลอดภัยหรือไม่?
ปลอดภัย หากคุณเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการเงินที่เข้มงวด (เช่น ASIC, FCA) โบรกเกอร์เหล่านี้มักจะใช้ผู้ให้บริการชำระเงิน (Payment Gateway) ในประเทศไทยที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย การทำธุรกรรมจึงมีความน่าเชื่อถือสูง อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาตหรือไม่เป็นที่รู้จัก เพราะมีความเสี่ยงสูงกว่า
โบรกเกอร์ Forex ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน มักจะมีสเปรดสูงกว่าจริงหรือ?
ไม่จำเป็นเสมอไปครับ นี่เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง Moneta Markets หรือ Exness สามารถเสนอทั้งการฝากเงินฟรีและค่าสเปรดที่แข่งขันได้ในเวลาเดียวกัน เพราะพวกเขามีปริมาณการซื้อขายสูงและมีโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถแบกรับต้นทุนค่าธรรมเนียมแทนลูกค้าได้โดยไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มค่าสเปรด ควรพิจารณาแต่ละโบรกเกอร์เป็นรายๆ ไป โดยเปรียบเทียบต้นทุนทุกด้านประกอบกัน
โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือในไทยต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานไหน?
โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือควรมีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินระดับสากลอย่างน้อยหนึ่งแห่ง หน่วยงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสูงได้แก่:
- ASIC (Australian Securities and Investments Commission) – ออสเตรเลีย
- FCA (Financial Conduct Authority) – สหราชอาณาจักร
- CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) – ไซปรัส
การมีใบอนุญาตเหล่านี้แสดงว่าโบรกเกอร์ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด รวมถึงการแยกเงินทุนของลูกค้าออกจากเงินของบริษัท ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินทุนของคุณ
เงินฝากขั้นต่ำสำหรับโบรกเกอร์ Forex ในไทยโดยทั่วไปคือเท่าไหร่?
เงินฝากขั้นต่ำมีความแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ $5 – $100 (ประมาณ 180 – 3,600 บาท) โบรกเกอร์อย่าง XM และ Exness มีเงินฝากขั้นต่ำที่ต่ำมาก (ประมาณ $5-$10) ทำให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย ในขณะที่ Moneta Markets มีเงินฝากขั้นต่ำที่สมเหตุสมผลที่ $50 ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่สามารถเริ่มต้นได้