ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์ไทย
ในแวดวงการเทรดฟอเร็กซ์ การเข้าใจและคาดเดาการเปลี่ยนแปลงของราคาให้ถูกต้องถือเป็นหัวใจสำคัญ และเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบมากที่สุดคือปฏิทินเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปฏิทินเศรษฐกิจจาก Forex Factory ซึ่งเป็นที่ยอมรับในฐานะแหล่งข้อมูลชั้นนำระดับโลก บทความนี้จะพาคุณซึ่งเป็นเทรดเดอร์ไทยไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นหรือมีประสบการณ์ ไปค้นหาความรู้เกี่ยวกับปฏิทินนี้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ความหมาย การใช้งาน กลยุทธ์การเทรด ไปจนถึงข้อควรระวัง โดยปรับให้เข้ากับบริบทของเทรดเดอร์ในไทย เพื่อช่วยให้คุณนำเครื่องมือนี้ไปใช้ได้อย่างคุ้มค่า ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory คืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อการเทรด?
นิยามและฟังก์ชันหลักของ Forex Factory Economic Calendar
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory คือเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารและตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากทั่วโลกแบบเรียลไทม์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แหล่งข้อมูลนี้เชื่อถือได้และครอบคลุม ช่วยให้เทรดเดอร์ติดตามเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความผันผวนได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย การจ้างงาน หรือรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สิ่งเหล่านี้จะถูกแสดงบนปฏิทินอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวมได้ง่าย

เหตุผลที่เทรดเดอร์ต้องติดตามปฏิทินเศรษฐกิจ
ข่าวสารทางเศรษฐกิจมีพลังในการขับเคลื่อนค่าเงินในตลาดฟอเร็กซ์อย่างมหาศาล หากตัวเลขที่ประกาศออกมาแตกต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ตลาดจะตอบสนองทันทีและรุนแรง ซึ่งอาจกลายเป็นทั้งโอกาสทองและกับดักสำหรับผู้เทรด ดังนั้น การติดตามปฏิทินจึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณ:
- วางแผนการเทรด: เตรียมกลยุทธ์เข้า-ออกตลาดให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงช่วงผันผวนรุนแรง หรือหาจังหวะใช้ประโยชน์จากมัน
- ทำความเข้าใจตลาด: รู้ล่วงหน้าว่าข่าวไหนกำลังมา และผลกระทบที่อาจตามมา เพื่ออธิบายการเคลื่อนไหวของราคาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- จัดการความเสี่ยง: เตรียมปรับขนาดการลงทุนหรือตั้งจุดหยุดขาดทุนให้สมเหตุสมผล โดยอาศัยข้อมูลเหตุการณ์สำคัญ
การนำเครื่องมือนี้มาใช้จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่ของตลาดได้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น
เข้าใจโครงสร้างและฟีเจอร์หลักของปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory
ส่วนประกอบสำคัญของแต่ละเหตุการณ์
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory นำเสนอข้อมูลแต่ละเหตุการณ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยประกอบด้วยองค์ประกอบหลักที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้ง่าย:
- เวลา (Time): ระบุเวลาที่คาดว่าจะประกาศข่าว สามารถปรับให้ตรงกับเขตเวลาของคุณได้
- สกุลเงิน (Currency): ชี้ให้เห็นสกุลเงินที่ได้รับผลกระทบหลัก เช่น USD, EUR, JPY หรือ GBP
- ความสำคัญ (Impact): ใช้สัญลักษณ์สีเพื่อบอกระดับผลกระทบ (แดง: สูง, ส้ม: ปานกลาง, เหลือง: ต่ำ)
- เหตุการณ์ (Event): ชื่อของตัวเลขหรือเหตุการณ์ เช่น Non-Farm Employment Change, Consumer Price Index (CPI) หรือ Interest Rate Decision
- ค่าจริง (Actual): ตัวเลขที่ประกาศจริง
- ค่าคาดการณ์ (Forecast): การคาดหมายจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
- ค่าก่อนหน้า (Previous): ตัวเลขจากรอบก่อน

การตั้งค่าและการกรองข้อมูล (Filters)
หนึ่งในจุดเด่นของ Forex Factory คือระบบกรองข้อมูลที่ยืดหยุ่น ช่วยให้คุณปรับแต่งมุมมองให้เหมาะกับความต้องการ:
- กรองตามสกุลเงิน: เลือกเฉพาะคู่เงินที่คุณเทรดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ข้อมูลรกตา
- กรองตามระดับความสำคัญ (Impact): โฟกัสเฉพาะข่าวแดงหรือส้ม เพื่อเน้นเหตุการณ์ที่คุ้มค่ากับการติดตาม
- กรองตามประเภทเหตุการณ์: กำหนดประเภทข่าวที่สนใจ เช่น ข่าวการจ้างงาน เงินเฟ้อ หรือนโยบายธนาคารกลาง
สำหรับเทรดเดอร์ไทย การปรับเขตเวลาให้ตรงกับ ICT (GMT+7) ถือเป็นเคล็ดลับสำคัญ เพื่อให้คุณจับจังหวะประกาศข่าวได้ถูกต้องและวางแผนเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดเอเชียกำลังคึกคัก
วิธีอ่านและตีความข้อมูลจากปฏิทินเศรษฐกิจอย่างมืออาชีพ
ความหมายของระดับความสำคัญ (Impact)
ระดับความสำคัญช่วยประเมินศักยภาพในการสร้างความปั่นป่วนของตลาด โดย Forex Factory ใช้สีสันเพื่อสื่อสารชัดเจน:
| สี | ระดับความสำคัญ | ผลกระทบต่อตลาดโดยประมาณ |
|---|---|---|
| สีแดง | สูง (High Impact) | มักจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและรวดเร็ว |
| สีส้ม | ปานกลาง (Medium Impact) | อาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคา แต่ไม่รุนแรงเท่าข่าวสีแดง |
| สีเหลือง | ต่ำ (Low Impact) | มีผลกระทบต่อตลาดน้อยหรือไม่ส่งผลเลย |
ด้วยการเข้าใจสีเหล่านี้ คุณจะสามารถเรียงลำดับข่าวได้ดี และเตรียมรับมือกับคลื่นผันผวนที่อาจถาโถมเข้ามาได้ทันท่วงที
การเปรียบเทียบ Actual, Forecast และ Previous Values
การตีความข่าวให้ถูกต้องต้องอาศัยการเปรียบเทียบตัวเลขหลักสามตัวนี้ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำนายทิศทางตลาด:
- ค่าจริง (Actual) vs. ค่าคาดการณ์ (Forecast): ถ้าค่าจริงดีกว่าคาด สกุลเงินนั้นมักแข็งค่าขึ้น แต่ถ้าแย่กว่า ค่าเงินจะอ่อนลง นี่คือจุดที่ตลาดมักตอบสนองรุนแรงที่สุด
- ค่าจริง (Actual) vs. ค่าก่อนหน้า (Previous): ช่วยเผยแนวโน้มเศรษฐกิจ ถ้าตัวเลขดีขึ้นเรื่อยๆ แสดงถึงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
ยกตัวอย่าง ถ้าตัวเลข Non-Farm Payrolls (NFP) ของสหรัฐฯ สูงกว่าที่คาดไว้มาก USD มักพุ่งขึ้นทันที สร้างโอกาสให้เทรดเดอร์ที่เตรียมตัวดีคว้าไว้ได้
ตัวอย่างเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญที่ควรจับตา
มีตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่เทรดเดอร์ไม่ควรละเลย เพราะส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดฟอเร็กซ์ เช่น:
- Non-Farm Payrolls (NFP): รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกทุกวันศุกร์แรกของเดือน และมักจุดชนวนความผันผวนสูงสุด
- Consumer Price Index (CPI): ดัชนีราคาผู้บริโภคที่สะท้อนอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลต่อการตัดสินใจดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
- Interest Rate Decision: การประกาศอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางชั้นนำ เช่น Fed, ECB หรือ BoE ซึ่งกระทบค่าเงินโดยตรง
- Gross Domestic Product (GDP): ตัววัดภาพรวมเศรษฐกิจที่ช่วยบอกทิศทางใหญ่ของประเทศ
การจับตาข่าวเหล่านี้จะช่วยให้คุณคาดการณ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรวมกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
กลยุทธ์การเทรดด้วยปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory สำหรับเทรดเดอร์ไทย
การเตรียมตัวก่อนข่าวออก: การวิเคราะห์เชิงพื้นฐานและเทคนิค
เทรดเดอร์ไทยควรเตรียมตัวอย่างรอบคอบก่อนข่าวใหญ่ โดยผสานการวิเคราะห์พื้นฐานกับเทคนิคเข้าด้วยกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:
- วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: ศึกษาความหมายของข่าวต่อเศรษฐกิจประเทศนั้น และแนวโน้มสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างสมมติฐานที่แข็งแกร่ง
- วิเคราะห์ทางเทคนิค: ตรวจสอบกราฟเพื่อหาแนวรับ-แนวต้าน รูปแบบราคา หรือสัญญาณจากตัวชี้วัดที่บอกทิศทางหลังข่าว
นอกจากนี้ คุณอาจใช้ Bloomberg Economic Calendar เป็นเครื่องมือเสริม เพื่อเปรียบเทียบคาดการณ์และได้มุมมองเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงที่ข่าวจากเอเชียเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น
การเทรดในช่วงเวลาข่าว: ข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวัง
การเทรดช่วงประกาศข่าวมีทั้งเสน่ห์และอันตรายที่ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี:
- โอกาส: ความผันผวนที่พุ่งสูงเปิดช่องทำกำไรเร็ว หากคุณจับทิศทางถูกต้อง
- ความเสี่ยง: ราคาอาจแกว่งรุนแรงผิดคาด สเปรดขยายกว้าง และเกิด slippage ที่ทำให้ได้ราคาไม่ตรงตามสั่ง
คำแนะนำคือ ถ้าคุณยังมือใหม่ หลีกเลี่ยงข่าวแดงโดยสิ้นเชิง หรือลดขนาด lot ให้เหลือน้อย และอย่าลืมตั้ง stop loss เพื่อคุ้มครองทุนเสมอ การฝึกในบัญชีเดโมก่อนจะช่วยสร้างความมั่นใจได้มาก
การประยุกต์ใช้กับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและภูมิภาค
แม้ Forex Factory จะเน้นข่าวโลก แต่เทรดเดอร์ไทยต้องไม่มองข้ามสถานการณ์ในประเทศและภูมิภาค เพราะมันเชื่อมโยงกัน แม้ THB ไม่ใช่สกุลเงินหลักในฟอเร็กซ์ แต่การประกาศนโยบายจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) เช่น อัตราดอกเบี้ยหรือเงินเฟ้อ อาจสั่นคลอนความเชื่อมั่นนักลงทุนในอาเซียน และกระทบคู่เงินหลักทางอ้อม ข่าวจากเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์หรืออินโดนีเซียก็เช่นกัน การนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ควบคู่จะทำให้กลยุทธ์ของคุณรอบด้านและปรับตัวได้ดีในตลาดที่ผันผวน
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและการจัดการความเสี่ยงในการใช้ปฏิทินเศรษฐกิจ
หลีกเลี่ยงการเทรดข่าวแบบสุ่มสี่สุ่มห้า (Gambling on News)
ปัญหาที่เทรดเดอร์หลายคนเจอคือการ “เดา” ทิศทางหลังข่าวโดยไม่มีฐานข้อมูลรองรับ ซึ่งเท่ากับการพนันในช่วงผันผวนสูง และมักจบด้วยขาดทุนหนัก แทนที่จะใช้ปฏิทินเป็นสัญญาณเดี่ยวๆ ให้มองมันเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนและยืนยันไอเดียของคุณ เพื่อให้การตัดสินใจมีเหตุผลมากขึ้น
ความสำคัญของการตั้ง Stop Loss และ Take Profit
การบริหารความเสี่ยงคือรากฐานของการเทรดฟอเร็กซ์ที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะมีปฏิทินหรือไม่ การตั้ง stop loss เพื่อตัดขาดทุนและ take profit เพื่อล็อกกำไรเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงข่าวใหญ่ กำหนดระดับเหล่านี้จากวิเคราะห์ของคุณและยึดแผนอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาทุนและคว้ากำไรเมื่อตลาดไปถูกทาง
การใช้ปฏิทินเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรดที่ใหญ่ขึ้น
ปฏิทินเศรษฐกิจเป็นเพียงชิ้นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์โดยรวมของคุณ ควรรวมเข้ากับการวิเคราะห์เทคนิค การจัดการเงินทุน และแผนเทรดหลัก เพื่อให้เกิดพลังเสริมกัน อย่าพึ่งพามันคนเดียว แต่ใช้เพื่อขยายความเข้าใจและทำให้การตัดสินใจเฉียบแหลมยิ่งขึ้น
เปรียบเทียบ Forex Factory กับปฏิทินเศรษฐกิจอื่นๆ (Investing.com, TradingView, FBS)
Forex Factory โดดเด่นเรื่องความนิยม แต่ปฏิทินอื่นๆ ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่อาจเหมาะกับสไตล์คุณ:
- Investing.com Economic Calendar: ครอบคลุมมากและรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ รวมถึงข่าวสารและวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดไทย
- TradingView Economic Calendar: ผสานกับกราฟขั้นสูง ทำให้ดูข่าวและวิเคราะห์ราคาได้ในหน้าจอเดียว สะดวกสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบ all-in-one
- FBS Economic Calendar: มักมาพร้อมแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ ปรับแต่งให้เข้ากับผู้ใช้ของโบรกเกอร์นั้น
การเลือกขึ้นอยู่กับความถนัด แต่ Forex Factory ยังคงเป็นตัวหลักสำหรับความแม่นยำ โดยหลายคนใช้คู่กับแหล่งอื่นเพื่อมุมมองที่กว้างขึ้น
สรุป
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory คืออาวุธลับที่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับชาวไทยที่อยากเข้าใจตลาดโลกและวางแผนเทรดให้ชาญฉลาด การฝึกอ่าน ตีความ และนำไปใช้อย่างมีวินัย ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม จะช่วยยกระดับโอกาสชนะและลดความสูญเสียได้อย่างเห็นผล ชาวเทรดเดอร์ไทยทุกท่านจงนำความรู้นี้ไปปฏิบัติ เรียนรู้ไม่หยุดยั้ง เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ที่ท้าทาย
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory มีภาษาไทยหรือไม่ และถ้าไม่มี ควรตั้งค่าอย่างไรให้ใช้งานง่าย?
ปัจจุบัน ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory ยังไม่มีเวอร์ชันภาษาไทยโดยตรง แต่คุณสามารถใช้งานได้สะดวกโดยปรับเขตเวลาให้ตรงกับไทย (GMT+7) ที่มุมขวาบนของหน้า นอกจากนี้ การเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานภาษาอังกฤษอย่าง Actual, Forecast, Previous หรือ High Impact จะทำให้คุณเข้าถึงข้อมูลได้คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณใช้ร่วมกับเครื่องมือแปลเสริม
ในฐานะเทรดเดอร์ไทย ควรให้ความสำคัญกับข่าวเศรษฐกิจจากประเทศใดเป็นพิเศษ?
เทรดเดอร์ไทยควรโฟกัสข่าวจากประเทศที่มีสกุลเงินหลักที่เทรดบ่อย อย่างสหรัฐฯ (USD), ยุโรป (EUR), ญี่ปุ่น (JPY), อังกฤษ (GBP) และจีน (CNY) เพราะข่าวเหล่านี้ขับเคลื่อนตลาดโลก นอกจากนั้น ข่าวจากเอเชียแปซิฟิก เช่น ออสเตรเลีย (AUD) และนิวซีแลนด์ (NZD) ก็มีน้ำหนัก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจภูมิภาคกำลังฟื้นตัว
ช่วงเวลาใดที่เหมาะที่สุดในการติดตามข่าวและเทรดตามปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory ในเวลาประเทศไทย?
ช่วงที่ตลาดคึกคักและข่าวสำคัญออกมักเป็นบ่ายถึงค่ำของไทย ซึ่งตรงกับตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก โดยเฉพาะ 13:00-24:00 น. ที่มักมีข่าว High Impact สีแดงที่จุดประกายความผันผวน เทรดเดอร์ไทยจึงควรวางแผนให้ช่วงนี้เป็นเวลาหลักในการเฝ้าติดตาม
นอกจากข่าวเศรษฐกิจโลกแล้ว เทรดเดอร์ไทยควรหาข้อมูลข่าวเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติมจากแหล่งใด?
นอกจากข่าวโลก เทรดเดอร์ไทยควรติดตามแหล่งข้อมูลในประเทศที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT), สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC), หรือสื่อชั้นนำอย่างประชาชาติธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจ และ The Standard Money เพื่อจับกระแสเศรษฐกิจไทยและนโยบายที่อาจกระทบตลาดการเงินโดยรวม
การเทรดในช่วงข่าวที่มีผลกระทบสูง (สีแดง) มีความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างไรสำหรับเทรดเดอร์ไทย?
การเทรดช่วงข่าวสีแดงมีความเสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนก็สูงเช่นกัน
- ความเสี่ยง: ราคาแกว่งรุนแรงและคาดเดายาก สเปรดกว้าง และ slippage อาจทำให้ขาดทุนหนักถ้าไม่บริหารความเสี่ยงดี
- ผลตอบแทน: ถ้าจับทิศถูกและเข้าเทรดถูกจังหวะ จะทำกำไรได้เร็วในเวลาสั้น
มือใหม่ชาวไทยควรเว้นช่วงนี้ไว้ก่อน หรือใช้ lot เล็กและ stop loss เสมอ เพื่อความปลอดภัย
มีวิธีการตั้งค่าแจ้งเตือนข่าวจาก Forex Factory เพื่อไม่ให้พลาดเหตุการณ์สำคัญในประเทศไทยหรือไม่?
ใช่ Forex Factory มีระบบแจ้งเตือน คุณคลิกไอคอนระฆังข้างเหตุการณ์ที่สนใจ แล้วตั้งให้แจ้งทางอีเมลหรือเสียงล่วงหน้า การปรับเขตเวลาเป็น GMT+7 จะทำให้แจ้งเตือนตรงเวลาของไทย ช่วยให้คุณไม่พลาดจังหวะสำคัญแม้ในช่วงดึก
สำหรับมือใหม่หัดเทรด ควรเริ่มต้นใช้ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory อย่างไรให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ?
มือใหม่ควรเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไปดังนี้:
- ทำความเข้าใจพื้นฐาน: ศึกษาช่องข้อมูลหลักอย่าง Time, Currency, Impact, Event, Actual, Forecast, Previous
- ตั้งค่า Time Zone: ปรับเป็น GMT+7 สำหรับไทย
- กรองข่าว: แสดงเฉพาะข่าวสีแดงของสกุลเงินที่สนใจก่อน
- สังเกตการณ์: ดูการเคลื่อนไหวราคาหลังข่าวโดยไม่เทรดจริง เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมตลาด
- ฝึกฝนในบัญชีทดลอง: ทดสอบกลยุทธ์ข่าวใน demo account ก่อนลงเงินจริง
- เน้นการจัดการความเสี่ยง: ตั้ง stop loss ทุกครั้งไม่ว่าจะเทรดช่วงไหน
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory แตกต่างจากปฏิทิน Investing.com หรือ TradingView อย่างไรในมุมมองของเทรดเดอร์ไทย?
จากมุมเทรดเดอร์ไทย แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่น:
- Forex Factory: เรียบง่าย แม่นยำ รวดเร็ว และน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับข้อมูลดิบ
- Investing.com: รองรับภาษาไทยเต็ม ทำให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้ไม่ถนัดอังกฤษ และมีวิเคราะห์ข่าวไทยเพิ่ม
- TradingView: ผสานกราฟเทคนิคได้ดี ใช้งานสะดวกแบบรวมศูนย์สำหรับคนชอบวิเคราะห์ราคาคู่ข่าว
เลือกตามสไตล์ตัวเอง แต่หลายคนใช้ Forex Factory เป็นหลัก แล้วเสริมด้วย Investing.com หรือ TradingView เพื่อข้อมูลครบถ้วน