ค่า swap คิดยังไง? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์ไทยในการคำนวณและบริหารค่าธรรมเนียมข้ามคืน
บทนำ: ค่า swap คืออะไร และทำไมเทรดเดอร์ต้องรู้?
ในการเทรด Forex หรือสินทรัพย์อย่างทองคำ ค่า swap หรือที่เรียกอีกชื่อว่าดอกเบี้ยข้ามคืน ถือเป็นส่วนที่เทรดเดอร์ทุกคนควรเข้าใจให้ลึกซึ้งเพื่อจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันคือค่าธรรมเนียมหรือเครดิตที่เกิดขึ้นเมื่อคุณถือออเดอร์เปิดค้างไว้เกินคืน โดยคำนวณจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินสองตัวในคู่ที่เทรด หรือสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ก็จะมีค่าถือครองข้ามคืนเช่นกัน ค่านี้บางครั้งทำให้คุณได้เงิน บางครั้งต้องเสียเงิน ซึ่งกระทบตรงๆ ต่อผลรวมกำไรหรือขาดทุนในพอร์ต หากมองข้ามมันไป อาจเจอต้นทุนแฝงที่ทำให้แผนเทรดยาวๆ สะดุดได้

ค่า swap คำนวณยังไง? สูตรและปัจจัยที่มีผลต่อการคิดค่าธรรมเนียม
เพื่อให้การเทรดมีแผนชัดเจน การรู้วิธีคำนวณค่า swap ถือเป็นกุญแจสำคัญ มันไม่ใช่ค่าคงที่ แต่เปลี่ยนแปลงตามหลายองค์ประกอบที่ต้องพิจารณาให้ดี

แก่นแท้ของการคำนวณ ค่า swap: ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Differential)
พื้นฐานของค่า swap มาจากช่องว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารกลางของประเทศที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินในคู่เทรด เมื่อเปิดออเดอร์ Forex คุณกำลังซื้อสกุลเงินตัวหนึ่งและขายอีกตัวพร้อมกัน ซึ่งเท่ากับยืมเงินดอกเบี้ยต่ำมาลงทุนในตัวดอกเบี้ยสูง หรือตรงข้าม โบรกเกอร์ใช้ส่วนต่างนี้มาคำนวณ โดยปรับตามค่าของตัวเอง หากอยากรู้ลึกกว่านี้ ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก Investopedia ที่อธิบาย Forex Swap อย่างละเอียด
ปัจจัยสำคัญที่กำหนด ค่า swap ของคุณ
สิ่งที่ทำให้ค่า swap ที่คุณได้หรือเสียแตกต่างกัน มีดังนี้
- คู่สกุลเงิน (Currency Pair): แต่ละคู่มีอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่างกัน ส่งผลให้ส่วนต่างไม่เท่ากัน
- ทิศทางของตำแหน่ง (Buy/Sell Position): การเปิด Long หรือ Short ในคู่เดียวกัน อาจให้ swap ต่างกัน บวกทางหนึ่ง ลบทางอื่น
- ขนาดของล็อต (Lot Size): ล็อตใหญ่เท่าไหร่ ค่า swap ก็ขยายตามสัดส่วนนั้น
- อัตราดอกเบี้ยของโบรกเกอร์: แต่ละโบรกเกอร์ใช้อัตรา interbank แล้วบวกหรือลบ markup ของตัวเอง
- วันทำการ (Trading Days): คำนวณทุกวันทำการ แต่คืนพุธ (ตามเซิร์ฟเวอร์โบรกเกอร์) มักคูณสาม เพื่อครอบคลุมวันหยุดสุดสัปดาห์
สูตรการคำนวณ ค่า swap (พร้อมตัวอย่าง)
ถึงแม้โบรกเกอร์แต่ละแห่งจะมีสูตรละเอียดต่างกันบ้าง แต่หลักพื้นฐานใช้ได้ทั่วไปคือ
ค่า Swap = (ขนาดสัญญา x อัตรา Swap x จำนวนวัน) / 10
โดย
- ขนาดสัญญา: มูลค่า 1 ล็อตมาตรฐาน (ปกติ 100,000 หน่วยสกุลเงินฐาน)
- อัตรา Swap: ค่าที่โบรกเกอร์ตั้งไว้สำหรับแต่ละคู่ (หน่วย pip หรือสกุลเงินบัญชี) แยก Long/Short
- จำนวนวัน: มัก 1 วัน (เว้นพุธที่นับ 3 วัน)
ตัวอย่างการคำนวณ (สมมติ):
สมมติเทรด 1 ล็อต EUR/USD (100,000 หน่วย)
- อัตรา Swap Long EUR/USD = -0.85 (จ่ายเงิน)
- อัตรา Swap Short EUR/USD = +0.25 (ได้เงิน)
- ค่า pip 1 ล็อต EUR/USD = $10
เปิด Long EUR/USD 1 ล็อตข้ามคืน:
ค่า Swap = (100,000 x (-0.85/100,000) x 1) = -0.85 USD
หรือจาก pip: (-0.85/10) x $10 = -0.85 USD
เปิด Short EUR/USD 1 ล็อตข้ามคืน:
ค่า Swap = (100,000 x (0.25/100,000) x 1) = +0.25 USD
หรือจาก pip: (0.25/10) x $10 = +0.25 USD
นี่แค่ตัวอย่างนะ สูตรจริงอาจต่างกันตามโบรกเกอร์ ควรเช็คตาราง swap จากเว็บโบรกเกอร์โดยตรงเสมอ
คู่สกุลเงิน/สินค้า | สถานะ | อัตรา Swap (ต่อล็อตมาตรฐาน, สมมติ) | ค่า Swap ต่อวัน (โดยประมาณ) |
---|---|---|---|
EUR/USD | ซื้อ (Long) | -0.85 USD | -0.85 USD |
EUR/USD | ขาย (Short) | +0.25 USD | +0.25 USD |
USD/JPY | ซื้อ (Long) | +0.70 USD | +0.70 USD |
USD/JPY | ขาย (Short) | -1.20 USD | -1.20 USD |
ทองคำ (XAU/USD) | ซื้อ (Long) | -2.50 USD | -2.50 USD |
ทองคำ (XAU/USD) | ขาย (Short) | -1.80 USD | -1.80 USD |
ตารางตัวอย่างอัตรา Swap ที่ถูกคำนวณโดยประมาณสำหรับ 1 ล็อตมาตรฐาน (ข้อมูลสมมติเพื่อการศึกษา)
ค่า swap เป็นบวกและเป็นลบ: ความหมายและผลกระทบต่อกำไร/ขาดทุน
ค่า swap อาจออกมาเป็นบวกหรือลบ ซึ่งแต่ละแบบส่งผลต่อบัญชีเทรดต่างกัน การรู้จักทั้งสองด้านนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรถือออเดอร์ค้างคืนหรือปิดก่อน

ค่า swap เป็นบวก (Positive Swap): เมื่อคุณได้รับดอกเบี้ย
เกิดขึ้นเมื่อคุณถือออเดอร์ที่ซื้อสกุลเงินดอกเบี้ยสูง ขายตัวต่ำ หรือบางสินค้าโบรกเกอร์กำหนดให้บวกในทิศทางนั้น คุณจะได้เครดิตเข้าบัญชีทุกคืนที่ค้างออเดอร์ สิ่งนี้กลายเป็นรายได้เสริมสำหรับเทรดยาว หรือส่วนหนึ่งของ Carry Trade ที่นักเทรดใช้หาผลตอบแทนจากดอกเบี้ย
ค่า swap เป็นลบ (Negative Swap): เมื่อคุณต้องจ่ายดอกเบี้ย
ตรงข้ามกัน เกิดเมื่อซื้อตัวดอกเบี้ยต่ำ ขายตัวสูง คุณต้องจ่ายให้โบรกเกอร์ทุกคืนที่ค้าง สำหรับเทรดยาว นี่คือต้นทุนใหญ่ที่ลดกำไรหรือก่อขาดทุน โดยเฉพาะคืนพุธที่คูณสาม อาจกระทบบัญชีหนัก หากไม่จัดการดี
ตัวอย่างสถานการณ์จริงของการเกิด ค่า swap บวก/ลบ
- การซื้อขายทองคำ (XAU/USD): มักลบทั้ง Long/Short เพราะทองไม่ใช่สกุลเงินมีดอกเบี้ย โบรกเกอร์คิดค่าถือครองหรือดำเนินการอื่นๆ แสดงเป็น swap ลบ นักเทรดทองยาวต้องระวังมาก
- คู่สกุลเงินที่มีส่วนต่างดอกเบี้ยสูง: ซื้อ USD/JPY ถ้าดอกสหรัฐสูงกว่าญี่ปุ่น อาจได้บวก แต่ขายอาจลบ ขึ้นกับนโยบายจริง
- คู่สกุลเงินไทยบาท (USD/THB): ซื้อ USD/THB (ซื้อดอลลาร์ ขายบาท) ถ้าดอกไทยสูงกว่าอเมริกา อาจลบ แต่ขายอาจบวก ดูตามธนาคารแห่งประเทศไทยและ Fed ในช่วงนั้น
กลยุทธ์การบริหารและลดต้นทุน ค่า swap สำหรับเทรดเดอร์ไทย
การจัดการ swap อย่างชาญฉลาดช่วยยกระดับการเทรด นักเทรดไทยมีทางเลือกหลากหลายเพื่อลดภาระหรือหาผลประโยชน์จากมัน
ทำความเข้าใจบัญชี Swap-Free (บัญชีอิสลาม)
บัญชีแบบนี้ไม่มี swap บวกหรือลบ เหมาะกับผู้ปฏิบัติตามหลักอิสลามที่ห้ามดอกเบี้ย แต่โบรกเกอร์บางแห่งชดเชยด้วยสเปรดสูงขึ้นหรือคอมมิชชั่นหลังถือเกินกำหนด เช่น 10 วัน นักเทรดไทยควรชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียและอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนเลือก
การเลือกช่วงเวลาและกลยุทธ์การเทรดเพื่อหลีกเลี่ยง ค่า swap
ถ้าไม่อยากเจอ swap ลองเทรดสั้นๆ ที่ไม่ค้างคืน
- Day Trading: เปิดปิดหมดในวันเดียว ไม่โดน swap เลย
- Scalping: หากำไรเล็กๆ จากความผันผวนสั้นๆ ไม่กี่นาทีหรือวินาที ไม่ค้างคืนแน่นอน
- การปิดสถานะก่อนเวลา Roll-over: ถ้าไม่ใช่เดย์เทรดแต่ไม่อยากจ่าย ปิดก่อนเวลาคำนวณ swap (มักหลังตลาดนิวยอร์กปิด)
การใช้ประโยชน์จาก ค่า swap เป็นบวกในกลยุทธ์ Carry Trade (สำหรับผู้มีประสบการณ์)
สำหรับนักเทรดเก๋าที่รู้ตลาดดี Carry Trade คือการเปิดคู่ที่ให้ swap บวกต่อเนื่อง เพื่อรับดอกเบี้ยหลัก ต้องวิเคราะห์นโยบายธนาคารกลางละเอียด และคำนึงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ถ้าตลาดสวนทาง กำไร swap อาจไม่พอชดเชยขาดทุน เหมาะกับคนจัดการความเสี่ยงเก่ง ลองศึกษาจาก Investopedia เพิ่มเติม
ค่า swap กับโบรกเกอร์ยอดนิยมในประเทศไทย: Exness, XM, IUX และอื่นๆ
การเลือกโบรกเกอร์ที่ swap เข้ากับสไตล์เทรดสำคัญมาก โบรกเกอร์ฮิตในไทยมีนโยบายต่างกัน
ค่า swap ของ Exness: ข้อดีและข้อควรพิจารณา
Exness โปร่งใสและเงื่อนไขหลากหลาย มี Zero Swap สำหรับคู่เงินและสินค้าบางตัวในบัญชี Standard/Pro โดยเฉพาะ Standard ที่ยืดหยุ่น ทำให้หลายคนเลือก แต่ Zero Swap อาจจำกัดบางพื้นที่หรือบัญชี เช็คล่าสุดจากเว็บ Exness ที่ หน้าคู่สกุลเงินของ Exness
ค่า swap ของ XM: ความโปร่งใสและรูปแบบการคิดค่าธรรมเนียม
XM ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ไทย ด้วยบัญชี Micro/Standard ที่ swap แตกต่างกัน XM แสดงข้อมูลชัดเจนบนเว็บ ดูตาราง swap สำหรับเครื่องมือแต่ละตัวได้ง่าย ช่วยวางแผนและคำนวณต้นทุนล่วงหน้า
เปรียบเทียบ ค่า swap กับโบรกเกอร์อื่นๆ (เช่น Vantage Markets, Pepperstone, XS)
นอกจาก Exness/XM ยังมี IUX Markets, Vantage Markets, Pepperstone, XS ที่บริการเทรดเดอร์ไทย แต่ละแห่งมี swap และค่าธรรมเนียมต่างกัน
- ความโปร่งใส: โบรกเกอร์ดีต้องมีตาราง swap ชัดและเข้าถึงง่าย
- ความแข่งขันได้: เปรียบอัตราคู่ที่เทรดบ่อย เพื่อหาที่ดีที่สุด
- ประเภทบัญชี: บางแห่งมีบัญชีไร้ swap หรือต่ำสำหรับเครื่องมือบางตัว
เช็คตาราง swap ก่อนเปิดบัญชี เพื่อให้เหมาะกับแผนและงบ
สรุป: ทำให้ ค่า swap เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเทรดของคุณ
ค่า swap หรือดอกเบี้ยข้ามคืนคือส่วนสำคัญของ Forex และสินค้าโภคภัณฑ์ที่นักเทรดต้องรู้ให้แม่น ไม่ว่าจะเทรดสั้นหลีกเลี่ยง หรือยาวใช้ประโยชน์จากบวก การเข้าใจการคำนวณ ปัจจัยกระทบ และวิธีจัดการ ช่วยวางแผนเทรดได้ดี ลดต้นทุน เพิ่มโอกาสกำไรยั่งยืน เช็คตาราง swap โบรกเกอร์เสมอ และปรับแผนตามตลาดกับนโยบายดอกเบี้ยที่เปลี่ยน เพื่อให้ swap เป็นเครื่องมือในกลยุทธ์แข็งแกร่ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ค่า swap (FAQ)
ค่า swap ของ Exness สำหรับคู่เงินและทองคำ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง?
Exness มีนโยบายค่า swap ที่แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชีและเครื่องมือการเทรด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Exness มีข้อเสนอ “Zero Swap” สำหรับคู่สกุลเงินและทองคำบางประเภทในบัญชี Standard และ Pro ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายหรือได้รับค่า swap สำหรับเครื่องมือเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลง และอาจมีข้อยกเว้นสำหรับบางภูมิภาคหรือบางบัญชี คุณควรตรวจสอบรายละเอียดล่าสุดและตารางค่า swap โดยตรงบนเว็บไซต์ทางการของ Exness เพื่อความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
ถ้าเทรดสั้น (Day Trade) หรือ Scalping ยังต้องกังวลเรื่อง ค่า swap อยู่ไหม?
โดยทั่วไปแล้ว หากคุณเป็น Day Trader หรือ Scalper ที่เปิดและปิดสถานะทั้งหมดภายในวันเดียวกัน และไม่ได้ถือสถานะข้ามคืน คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องค่า swap เลย เพราะค่า swap จะถูกคำนวณเฉพาะสถานะที่ถูกถือครองข้ามคืนเท่านั้น กลยุทธ์เหล่านี้จึงเป็นวิธีหนึ่งในการหลีกเลี่ยงค่า swap ได้อย่างสิ้นเชิง
ค่า swap เป็นบวก สามารถสร้างรายได้ให้เทรดเดอร์ได้อย่างไร?
ค่า swap เป็นบวกเกิดขึ้นเมื่อคุณถือสถานะที่ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า และขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า โบรกเกอร์จะจ่ายเงินส่วนนี้เข้าบัญชีของคุณในแต่ละคืนที่คุณถือสถานะนั้นข้ามคืน เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สามารถใช้ประโยชน์จากค่า swap เป็นบวกในกลยุทธ์ที่เรียกว่า “Carry Trade” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากดอกเบี้ยข้ามคืนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจทำให้ขาดทุนได้
บัญชี Swap-Free (บัญชีอิสลาม) มีข้อจำกัดหรือข้อควรระวังอะไรบ้างที่เทรดเดอร์ไทยควรรู้?
บัญชี Swap-Free ถูกออกแบบมาเพื่อยกเว้นการคิดค่า swap ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือ โบรกเกอร์บางรายอาจมีการชดเชยค่าธรรมเนียมที่ขาดหายไปนี้ด้วยการเพิ่มสเปรดให้สูงขึ้นเล็กน้อย หรือคิดค่าคอมมิชชั่นคงที่หลังจากถือครองสถานะเกินระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 10 วัน) ดังนั้น ควรศึกษาเงื่อนไขของโบรกเกอร์แต่ละรายอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกใช้
ค่า swap ของ XM มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ และดูตารางค่าธรรมเนียมได้จากที่ไหน?
ค่า swap ของ XM จะมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารและนโยบายของ XM เอง ซึ่งอาจมีการอัปเดตเป็นประจำ คุณสามารถดูตารางค่า swap ล่าสุดสำหรับเครื่องมือการเทรดทั้งหมดได้โดยตรงบนเว็บไซต์ทางการของ XM โดยปกติจะอยู่ในส่วน “เงื่อนไขการเทรด” หรือ “เครื่องมือการเทรด” ซึ่งจะแสดงอัตรา swap สำหรับสถานะ Long และ Short อย่างชัดเจน
การถือครองทองคำ (XAU/USD) ข้ามคืน มี ค่า swap คิดยังไง และมีผลกระทบอย่างไร?
การถือครองทองคำ (XAU/USD) ข้ามคืนก็มีการคิดค่า swap เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วค่า swap สำหรับทองคำมักจะเป็นลบสำหรับทั้งสถานะซื้อและขาย ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการถือครองทองคำข้ามคืน การคิดค่า swap สำหรับทองคำไม่ได้อิงตามส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินโดยตรง แต่เป็นค่าธรรมเนียมการถือครอง/จัดเก็บที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ ผลกระทบคือ หากคุณถือทองคำในระยะยาว ค่า swap ที่เป็นลบจะสะสมและเพิ่มต้นทุนการเทรดของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ
มีโบรกเกอร์ Forex รายใดบ้างที่เสนอ ค่า swap ที่แข่งขันได้ หรือโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเทรดเดอร์ไทย?
โบรกเกอร์หลายรายที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมักเสนอค่า swap ที่แข่งขันได้หรือมีโปรโมชั่นพิเศษ การแข่งขันในตลาดทำให้โบรกเกอร์พยายามเสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดเพื่อดึงดูดลูกค้า โบรกเกอร์อย่าง Exness (ที่มี Zero Swap ในบางเงื่อนไข), XM, IUX Markets, Vantage Markets, และ Pepperstone ล้วนมีนโยบายค่า swap ที่แตกต่างกันไป คุณควรเปรียบเทียบตารางค่า swap ของโบรกเกอร์เหล่านี้สำหรับคู่สกุลเงินที่คุณสนใจ เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ
เทรดเดอร์มือใหม่ควรให้ความสำคัญกับ ค่า swap มากน้อยแค่ไหนในการเลือกโบรกเกอร์?
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่อาจจะเริ่มต้นด้วยการเทรดระยะสั้น (Day Trade หรือ Scalping) ความสำคัญของค่า swap อาจไม่สูงเท่ากับสเปรดและค่าคอมมิชชั่น อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนที่จะถือสถานะข้ามคืนหรือลองเทรดระยะกลางถึงยาว ค่า swap จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม การเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่า swap ที่โปร่งใสและแข่งขันได้จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้เทรดระยะยาวในทันทีก็ตาม
นอกจาก ค่า swap แล้ว มีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เทรดเดอร์ควรระวังในการเทรด Forex หรือไม่?
ใช่ครับ นอกจากค่า swap แล้ว เทรดเดอร์ควรระวังค่าธรรมเนียมอื่นๆ ดังนี้:
- สเปรด (Spread): ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมหลักที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
- ค่าคอมมิชชั่น (Commission): ค่าธรรมเนียมต่อล็อตการซื้อขาย ซึ่งมักพบในบัญชีประเภท Raw Spread หรือ ECN
- ค่าธรรมเนียมการฝาก/ถอน (Deposit/Withdrawal Fees): บางโบรกเกอร์หรือวิธีการชำระเงินอาจมีค่าธรรมเนียมเหล่านี้
- ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน (Inactivity Fee): บางโบรกเกอร์อาจเรียกเก็บหากไม่มีการเทรดเป็นเวลานาน
การทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมทั้งหมดจะช่วยให้คุณคำนวณต้นทุนการเทรดได้อย่างแม่นยำ
การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก มีผลต่อ ค่า swap ของคู่เงินที่เราเทรดอย่างไร?
การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางมีผลกระทบโดยตรงต่อค่า swap เมื่อธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สกุลเงินนั้นจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และหากคุณซื้อสกุลเงินนั้นเทียบกับสกุลเงินที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า ค่า swap เป็นบวกก็จะเพิ่มขึ้น หรือค่า swap เป็นลบก็จะลดลง ในทางกลับกัน หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบก็จะตรงกันข้าม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างคู่สกุลเงินเปลี่ยนไป ซึ่งส่งผลให้ค่า swap มีการปรับตามไปด้วย เทรดเดอร์ควรติดตามข่าวสารจากธนาคารกลางสำคัญๆ เช่น Fed, ECB, BOJ, BoE, และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินผลกระทบต่อค่า swap