สรุปสั้นๆ: เทรด Forex ต้องเสียภาษีหรือไม่?
คำตอบคือ “ใช่ ต้องเสียภาษี” หากคุณมีกำไรจากการซื้อขายฟอเร็กซ์และเข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเทรดผ่านโบรกเกอร์ในไทยหรือต่างประเทศ กำไรที่เกิดขึ้นถือเป็นรายได้ที่ต้องนำมายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทุกปี ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของกฎหมาย แต่เป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการที่ทำกำไรอย่างจริงจัง การเข้าใจภาระภาษีช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาภายหลัง บทความนี้จะไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีฟอเร็กซ์ในบริบทของกฎหมายไทย พร้อมคำแนะนำที่ใช้ได้จริงสำหรับทั้งมือใหม่และเทรดเดอร์มืออาชีพ

รายได้จาก Forex ถือเป็นเงินได้ประเภทไหนตามกฎหมายไทย?
ประเด็นแรกที่ต้องเข้าใจคือ กรมสรรพากรจัดประเภทรายได้จากฟอเร็กซ์อย่างไร ตามประมวลรัษฎากร กำไรจากการเทรด Forex ถือเป็น “เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)” ซึ่งหมายถึง “ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนการถือครองหรือสิทธิในทรัพย์สินที่ไม่มีรูปร่าง” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า กำไรทุน (Capital Gains)
สิ่งที่ต้องเน้นคือ ประเภทนี้ไม่เหมือนกับกำไรจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่กำไรจากการเทรดฟอเร็กซ์ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศ ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นใดๆ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนเต็มตัวหรือเพิ่งเริ่มต้น คุณมีหน้าที่ต้องนำกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นในแต่ละปีไปรวมคำนวณภาษีอย่างถูกต้อง
วิธีคำนวณภาษี Forex สำหรับเทรดเดอร์
การคำนวณภาษีไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่หลายคนกังวล หลักการสำคัญคือการคำนวณจาก “กำไรสุทธิ” ที่เกิดขึ้นจริงตลอดปีภาษี (1 มกราคม – 31 ธันวาคม) โดยไม่เกี่ยวกับว่าคุณถอนเงินออกมาหรือไม่
หลักการคำนวณ: คิดจากกำไรสุทธิ
คุณไม่ได้เสียภาษีจากทุกครั้งที่ทำกำไร แต่เสียจากผลรวมทั้งปีหลังหักขาดทุนแล้ว ซึ่งหมายถึงว่า ถ้าคุณมีกำไร 500,000 บาท แต่ขาดทุน 200,000 บาท คุณจะเสียภาษีจาก 300,000 บาท เท่านั้น
สูตรคำนวณ: กำไรสุทธิ = ผลกำไรรวมตลอดปี – ผลขาดทุนรวมตลอดปี
ตัวอย่างจริง:
ในปี 2567 นาย ก. ทำกำไรจากการเทรดทั้งสิ้น 500,000 บาท และขาดทุนรวม 200,000 บาท
- กำไรสุทธิ = 500,000 – 200,000 = 300,000 บาท
ยอด 300,000 บาทนี้จะถูกนำไปรวมกับรายได้อื่นๆ เช่น เงินเดือน โบนัส หรือรายได้จากสินทรัพย์ แล้วคำนวณภาษีตามอัตราขั้นบันไดของเงินได้บุคคลธรรมดา

อัตราภาษีที่ใช้
กำไรสุทธิจากการเทรดฟอเร็กซ์จะเข้าสู่ระบบภาษีแบบก้าวหน้า (Progressive Tax Rate) เหมือนกับรายได้อื่นๆ ของคุณ โดยอัตราจะขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ แล้ว
เงินได้สุทธิต่อปี (บาท) | อัตราภาษี |
---|---|
0 – 150,000 | 0% |
150,001 – 300,000 | 5% |
300,001 – 500,000 | 10% |
500,001 – 750,000 | 15% |
750,001 – 1,000,000 | 20% |
1,000,001 – 2,000,000 | 25% |
2,000,001 – 5,000,000 | 30% |
5,000,001 ขึ้นไป | 35% |
ตัวอย่าง: หากนาย ก. มีเงินเดือน 400,000 บาท และกำไรจากฟอเร็กซ์ 300,000 บาท รวมเงินได้ 700,000 บาท หลังหักค่าลดหย่อน 150,000 บาท เงินได้สุทธิอยู่ที่ 550,000 บาท ซึ่งจะถูกคำนวณภาษีในอัตรา 10% และ 15% ตามช่วงที่กำหนด
กฎหมายภาษีใหม่ปี 2567 กระทบเทรดเดอร์ Forex อย่างไร?
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลต่อเทรดเดอร์ทุกคนคือการประกาศใช้หลักเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับรายได้จากต่างประเทศ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป กฎนี้เปลี่ยนวิธีการพิจารณาภาษีจากกำไรที่เกิดขึ้นผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ โดยเฉพาะฟอเร็กซ์ ทองคำ และ CFD
ตามแนวทางใหม่จากกรมสรรพากร ระบุชัดเจนว่า ผู้ที่ได้รับเงินได้จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกำไรจากโบรกเกอร์ต่างชาติ หากนำเงินนั้น เข้าสู่ระบบการเงินในประเทศไทยภายในปีเดียวกันที่รายได้เกิดขึ้น จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณภาษีในปีนั้นทันที
นี่คือการปิดช่องโหว่ที่เคยมีผู้ใช้ยืดเวลาการเสียภาษีโดยการทิ้งกำไรไว้ในบัญชีต่างประเทศแล้วถอนเข้ามาในปีถัดไป
ตัวอย่างชัดเจน:
คุณทำกำไร 400,000 บาท จากการเทรดในบัญชี XM ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2567 และคุณถอนเงินเข้าบัญชีไทยในเดือนพฤศจิกายน 2567 คุณต้องนำยอด 400,000 บาทนี้มายื่นภาษีในปี 2568 สำหรับรายได้ปี 2567
หากคุณไม่ถอนเงินออกมาเลย ยังไม่เกิดภาระภาษีในปีนั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณโอนเงินเข้าไทย จะต้องยื่นภาษีในปีที่ถอน
ขั้นตอนการยื่นภาษี Forex และเอกสารที่ต้องเตรียม
การยื่นภาษีไม่ใช่เรื่องยุ่งยากหากคุณมีข้อมูลพร้อม ขั้นตอนหลักๆ มีดังนี้
ช่วงเวลาการยื่นภาษี
สำหรับผู้มีรายได้จากการเทรดฟอเร็กซ์ ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีภายในช่วงเวลาที่กำหนดทุกปี
- แบบกระดาษ: ยื่นได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป
- ยื่นออนไลน์: ขยายเวลาถึงประมาณ 8–10 เมษายน ผ่านเว็บไซต์ www.rd.go.th
แบบภาษีที่ต้องใช้คือ ภ.ง.ด. 90 (กรณีมีรายได้จากหลายแหล่ง) หรือ ภ.ง.ด. 91 (กรณีมีรายได้จากเงินเดือนและรายได้อื่น)
เอกสารและหลักฐานที่ควรเก็บรวบรวม
แม้ไม่ต้องแนบตอนยื่น แต่หากถูกตรวจสอบย้อนหลัง คุณต้องสามารถพิสูจน์ที่มาของรายได้ได้ ดังนั้นควรจัดเก็บเอกสารต่อไปนี้
- Annual Statement จากโบรกเกอร์: รายงานสรุปผลการเทรดทั้งปี เช่น ของ Moneta Markets, Exness หรือ XM ที่แสดงกำไร ขาดทุน จำนวนคำสั่ง และยอดคงเหลือ
- ประวัติการฝาก-ถอน (Transaction History): แสดงการเคลื่อนไหวของทุนในบัญชีเทรด
- หลักฐานการโอนเงินเข้าประเทศไทย: เช่น ใบ SWIFT, ใบแจ้งการโอนเงินจากธนาคาร หรืออีเมลยืนยันจากธนาคาร
- Bank Statement ของบัญชีไทย: ยืนยันวันที่และจำนวนเงินที่เข้าบัญชี
สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้ Moneta Markets ควรทราบว่าโบรกเกอร์นี้มีระบบรายงานที่ชัดเจน รองรับการดาวน์โหลด Statement ในรูปแบบ PDF และ CSV ซึ่งตรงตามข้อกำหนดของสรรพากร ทำให้คุณสามารถใช้เป็นเอกสารยืนยันผลประกอบการได้อย่างเป็นทางการ

ความเข้าใจผิดและข้อควรระวังเกี่ยวกับภาษี Forex
ยังมีความเชื่อผิดๆ ที่แพร่หลายในชุมชนเทรดเดอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงทางกฎหมายในอนาคต
ความเข้าใจผิดที่ 1: “ถ้าไม่ถอนเงินหรือถอนทีละน้อย ไม่ต้องเสียภาษี”
ความเชื่อนี้ผิดอย่างสิ้นเชิง ภาระภาษีเกิดจาก “กำไรสุทธิในปีนั้น” ไม่ใช่ยอดเงินที่ถอนออกมา แม้คุณจะไม่ถอนเลย แต่ถ้าพอร์ตคุณเติบโต คุณก็มีภาระภาษีเมื่อใดก็ตามที่นำเงินเข้ามาในประเทศ
ความเข้าใจผิดที่ 2: “ใช้โบรกเกอร์นอกประเทศไทย สรรพากรจะไม่รู้”
ความคิดนี้อันตรายมาก ในยุคที่มี CRS (Common Reporting Standard) ธนาคารและโบรกเกอร์ในต่างประเทศต้องรายงานข้อมูลลูกค้าให้กับหน่วยงานภาษีในประเทศต้นทาง รวมถึงประเทศไทยด้วย ธุรกรรมการโอนเงินจำนวนมากจากต่างประเทศจะถูกติดตามโดย ธปท. และส่งข้อมูลต่อให้กรมสรรพากร หากคุณไม่ยื่นภาษี อาจถูกตรวจสอบย้อนหลัง พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
ข้อควรระวังสำคัญ: การไม่ยื่นภาษีหรือยื่นข้อมูลเท็จ อาจทำให้คุณต้องจ่ายภาษีย้อนหลัง บวกเบี้ยปรับสูงสุด 2 เท่า ของยอดภาษีที่ต้องชำระ และเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน จนกว่าจะชำระครบ ดังนั้น การดำเนินการอย่างโปร่งใสตั้งแต่ต้นคือทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
กำไรจากการเทรด Forex ในปี 2567 ต้องยื่นภาษีภายในวันไหนของปี 2568?
คุณต้องยื่นภาษีสำหรับเงินได้ปี 2567 ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 สำหรับแบบกระดาษ และประมาณวันที่ 8–10 เมษายน 2568 หากยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร
ถ้าเทรดแล้วผลรวมทั้งปีขาดทุน จำเป็นต้องยื่นข้อมูลในแบบแสดงรายการภาษีหรือไม่?
หากปีนั้นขาดทุนสุทธิ คุณไม่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีจากส่วนนี้ จึงไม่จำเป็นต้องระบุในแบบแสดงรายการ แต่หากมีรายได้ประเภทอื่น เช่น เงินเดือน คุณยังต้องยื่นภาษีตามปกติ และไม่สามารถนำขาดทุนจากฟอเร็กซ์ไปหักกับรายได้อื่นได้
ในฐานะ Full Time Trader มีวิธีการคำนวณหรือหักค่าใช้จ่ายแตกต่างจากคนทั่วไปไหม?
การคำนวณกำไรสุทธิยังใช้หลักการเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เงินได้ตามมาตรา 40(4) ไม่อนุญาตให้หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา หรือค่าใช้จ่ายจริง เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าคอมพิวเตอร์ หรือค่าบรอดแบนด์ แต่หากคุณมีรายได้หลักจากฟอเร็กซ์ คุณอาจต้องยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94) ด้วย
การเทรดทองคำออนไลน์ (Gold Spot) ใช้หลักการเสียภาษีแบบเดียวกับ Forex ใช่หรือไม่?
ใช่ กำไรจากการเทรดทองคำ น้ำมัน หรือ CFD ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ ล้วนจัดเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) และต้องยื่นภาษีในลักษณะเดียวกับ Forex ทุกประการ
หากไม่เคยยื่นภาษีกำไรจาก Forex มาก่อน ควรเริ่มต้นแก้ไขอย่างไรเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา?
แนะนำให้ยื่นภาษีย้อนหลังโดยสมัครใจ รวบรวม Statement ปีละฉบับ แล้วติดต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ เพื่อยื่นเพิ่มเติม แม้จะมีค่าปรับ แต่การแสดงความร่วมมืออาจช่วยลดภาระได้ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อวางแผนอย่างถูกต้อง
กฎหมายใหม่ปี 2567 หมายความว่าเราต้องเสียภาษีทันทีที่ถอนเงินเข้าบัญชีในไทยใช่หรือไม่?
ไม่ใช่ การเสียภาษีเกิดขึ้นหลังจากมี “กำไร” ในปีนั้น และ “นำเงินเข้าประเทศในปีเดียวกัน” แต่คุณจะจ่ายภาษีจริงในช่วงต้นปีถัดไป หลังจากยื่นแบบแสดงรายการ ไม่ใช่การหัก ณ ที่จ่ายทันทีที่เงินเข้าบัญชี
มีเอกสารอะไรบ้างที่ต้องเตรียมจากโบรกเกอร์ (เช่น Exness, XM) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษี?
เอกสารสำคัญที่สุดคือ Annual Statement หรือ Yearly Report ที่สรุปกำไร-ขาดทุนทั้งปี รวมถึง Transaction History ของการฝาก-ถอน และสำหรับ Moneta Markets ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดรายงานที่มีรายละเอียดครบถ้วนผ่านระบบสมาชิก ซึ่งเหมาะสำหรับใช้เป็นหลักฐานยื่นภาษี
เราสามารถนำผลขาดทุนจากการเทรด Forex ไปหักลบกับเงินได้ประเภทอื่น เช่น เงินเดือน ได้หรือไม่?
ไม่ได้ ผลขาดทุนสามารถใช้หักกับกำไรจากฟอเร็กซ์ในปีเดียวกันได้เท่านั้น ไม่สามารถนำไปหักกับเงินเดือนหรือรายได้ประเภทอื่นได้ และไม่สามารถยกยอดขาดทุนไปใช้ในปีถัดไปได้