การลงทุนในตลาดการเงินระดับโลกกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในกลุ่มนักลงทุนชาวไทย โดยเฉพาะการเทรดทองคำผ่านตลาดฟอเร็กซ์ที่รู้จักกันในชื่อ Gold Forex หรือ XAU/USD ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ดึงดูดใจด้วยความผันผวนและโอกาสทำกำไรสูง แต่ก่อนจะก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดในเรื่องพื้นฐานการเทรด ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา กลยุทธ์การวิเคราะห์ และประเด็นพิเศษสำหรับผู้ลงทุนในไทย บทความนี้จึงรวบรวมคู่มือครบถ้วน เพื่อช่วยให้นักลงทุนชาวไทยเริ่มต้นและประสบความสำเร็จในการเทรด XAU/USD อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

อะไรคือ Gold Forex และ XAU/USD?
คำจำกัดความและองค์ประกอบของ XAU/USD
XAU/USD คือสัญลักษณ์มาตรฐานที่ใช้ในตลาดสากลเพื่อแสดงคู่ระหว่างทองคำ (XAU) กับดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดย XAU ย่อมาจากคำละตินว่า Aurum ซึ่งหมายถึงทองคำ และ USD คือสัญลักษณ์ของเงินดอลลาร์อเมริกัน ดังนั้นจึงบ่งบอกถึงราคาทองคำในหน่วยดอลลาร์ การเทรด Gold Forex คือการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาทองคำเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งนักลงทุนหันมาถือครองในช่วงที่เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอนหรือเกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่นเดียวกับที่สินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ

ข้อดีและความเสี่ยงของการซื้อขาย Gold Forex
การเทรด Gold Forex มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้ดึงดูดนักลงทุน เช่นสภาพคล่องที่สูงมาก ซึ่งช่วยให้เข้าออกตลาดได้สะดวกตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการ (จันทร์ถึงศุกร์) นอกจากนี้ยังมีเลเวอเรจที่ช่วยให้นักลงทุนควบคุมตำแหน่งขนาดใหญ่ด้วยทุนน้อย เพิ่มโอกาสทำกำไรได้หลายเท่า แต่เลเวอเรจนี้ก็เพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน หากราคาเคลื่อนไหวตรงข้ามกับที่คาด อาจขาดทุนหนักและรวดเร็ว ราคาทองคำยังผันผวนจากปัจจัยหลากหลาย เช่นข่าวเศรษฐกิจ การเมือง และความไม่แน่นอนของตลาด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโอกาสและอุปสรรคที่ต้องจัดการอย่างชาญฉลาด เพื่อให้การลงทุนยั่งยืน
นักลงทุนชาวไทยจะเริ่มต้นซื้อขาย Gold Forex ได้อย่างไร?
การเลือกโบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมายและน่าเชื่อถือ
ก้าวแรกที่สำคัญสำหรับนักลงทุนไทยคือการคัดเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตและกำกับดูแลจากหน่วยงานน่าเชื่อถือระดับโลก เช่น FCA ในสหราชอาณาจักร ASIC ในออสเตรเลีย หรือ CySEC ในไซปรัส การเลือกโบรกเกอร์เหล่านี้ช่วยปกป้องเงินทุนและรับประกันความโปร่งใส แม้ไทยยังไม่มีกฎหมายเฉพาะสำหรับฟอเร็กซ์ แต่โบรกเกอร์ต่างชาติหลายแห่งให้บริการคนไทย เช่น ThinkMarkets หรือ Forex.com ก่อนตัดสินใจ ควรตรวจรีวิว เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมให้ละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

การเปิดบัญชีและขั้นตอนการฝาก-ถอนเงิน
เมื่อเลือกโบรกเกอร์ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเปิดบัญชีออนไลน์ ซึ่งต้องยื่นเอกสารยืนยันตัวตนอย่างบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และหลักฐานที่อยู่เช่นใบเสร็จค่าสาธารณูปโภค สำหรับฝากเงิน โบรกเกอร์ส่วนใหญ่รองรับวิธีหลากหลาย เช่นโอนผ่านธนาคารไทย บัตรเครดิต หรืออีวอลเล็ตอย่าง Skrill และ Neteller การถอนเงินก็คล้ายกัน โดยเงินจะกลับเข้าบัญชีเดิม ควรเช็คค่าธรรมเนียมและเวลาดำเนินการ เพื่อให้มั่นใจว่าสะดวกและปลอดภัย โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการเข้าถึงทุนรวดเร็ว
ทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการซื้อขายและการใช้งานพื้นฐาน
แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับ Gold Forex คือ MetaTrader 4 และ 5 ซึ่งมาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์กราฟ ตัวชี้วัดเทคนิค และการจัดการออร์เดอร์ที่ครบครัน แนะนำให้ฝึกกับบัญชีเดโมก่อน เพื่อเรียนรู้การเปิด-ปิดออร์เดอร์ การตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดขาดทุน Take Profit เพื่อล็อกกำไร การอ่านกราฟ และติดตั้งอินดิเคเตอร์ การทำความเข้าใจเหล่านี้จะช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจเมื่อเทรดจริง โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ในไทยที่อาจไม่คุ้นเคยกับระบบ
ปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์ราคา XAU/USD
ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายธนาคารกลาง
ราคาทองคำขึ้นลงตามข้อมูลเศรษฐกิจใหญ่และนโยบายการเงิน โดยเฉพาะจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) หากเศรษฐกิจอเมริกันแข็งแกร่งหรือเงินเฟ้อพุ่ง Fed อาจขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ดอลลาร์แข็งและกดราคาทองคำ แต่ถ้าเศรษฐกิจชะงักหรือเสี่ยงถดถอย การลดดอกเบี้ยจะอ่อนดอลลาร์และหนุนทองคำ ข้อมูลที่ต้องจับตา ได้แก่ตัวเลขเงินเฟ้อ การจ้างงานนอกเกษตร (Non-Farm Payrolls) และการประชุม Fed ซึ่งนักลงทุนไทยควรติดตามเพื่อปรับกลยุทธ์ให้ทันเหตุการณ์
เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และ sentiment ของตลาด
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่นสงคราม การค้าขัดแย้ง หรือความไม่มั่นคงทางการเมือง มักกระตุ้นให้ทองคำเป็นที่ต้องการในฐานะที่หลบภัย เมื่อนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์โลก พวกเขาจะเทเงินเข้าทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง ส่งผลให้ราคาพุ่ง นอกจากนี้ sentiment ของตลาดหรือความรู้สึกโดยรวมของนักลงทุนก็สำคัญ หากตลาดมองโลกในแง่ดี ทองคำอาจเงียบเหงา แต่ถ้ากลัวหรือวิตกกังวล ทองคำจะได้รับความนิยมทันที ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การวิเคราะห์มีมิติมากขึ้น
ความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างดัชนีดอลลาร์ (DXY) กับทองคำ
ราคาทองคำมักเคลื่อนไหวตรงข้ามกับดัชนีดอลลาร์ (DXY) ซึ่งวัดดอลลาร์ต่อเงินหลัก 6 สกุล เมื่อ DXY สูง ดอลลาร์แข็ง ทองคำแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ลดความต้องการและกดราคา ตรงกันข้าม ถ้า DXY ต่ำ ดอลลาร์อ่อน ทองคำถูกลง ดึงดูดผู้ซื้อและราคาขึ้น นักลงทุนจึงควรเฝ้าดู DXY คู่ขนานกับการวิเคราะห์ทองคำ เพื่อคาดการณ์ทิศทางได้แม่นยำ โดยเฉพาะในตลาดที่เชื่อมโยงกันอย่างฟอเร็กซ์
XAU/USD การวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟในทางปฏิบัติ
ประเภทกราฟและเครื่องมือวิเคราะห์ที่นิยมใช้
การวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยทำนายทิศทางราคา XAU/USD ได้ดี โดยนักลงทุนชื่นชอบกราฟแท่งเทียนเพราะแสดงราคาเปิด ปิด สูงสุด ต่ำสุดในแต่ละช่วงชัดเจน ยังใช้เส้นแนวโน้มเพื่อดูทิศทางใหญ่ แนวรับที่ราคามักเด้งขึ้น และแนวต้านที่ราคามักหยุด แพลตฟอร์มอย่าง TradingView หรือ Investing.com เป็นเครื่องมือยอดฮิตสำหรับกราฟและการวิเคราะห์เหล่านี้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมตลาดได้ง่าย
การประยุกต์ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่สำคัญ
ตัวชี้วัดเทคนิคช่วยยืนยันแนวโน้มและจุดกลับตัว เช่น:
- เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average): ระบุแนวโน้มและสัญญาณ เมื่อเส้นสั้นตัดเส้นยาวขึ้น แสดงสัญญาณซื้อ ตรงกันข้ามคือขาย
- ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI): วัดแรงราคา ช่วยหาภาวะซื้อมากเกินหรือขายมากเกิน
- MACD: แสดงความสัมพันธ์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ช่วยดูโมเมนตัมและจุดเปลี่ยน
การผสมผสานตัวชี้วัดเหล่านี้จะทำให้การตัดสินใจเทรดมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้กับกราฟจริง
การวิเคราะห์หลายช่วงเวลา (Multi-timeframe analysis)
การดูกราฟหลายกรอบเวลาให้มุมมองที่ครบถ้วน เช่นเริ่มจากกรอบรายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อจับแนวโน้มใหญ่ แล้วซูมลงกรอบรายชั่วโมงหรือ 15 นาทีเพื่อหาจุดเข้า-ออกที่ดี วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงการพลาดภาพใหญ่และทำให้การเทรดสอดคล้องกับตลาดโดยรวม ซึ่งเป็นเทคนิคที่มือโปรใช้บ่อยเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
ข้อควรพิจารณาและความแตกต่างเฉพาะสำหรับ Gold Forex ในประเทศไทย
Gold Forex vs. ทองคำแท่งไทย vs. Gold Futures (เปรียบเทียบเชิงลึก)
นักลงทุนไทยมีตัวเลือกทองคำหลายแบบ แต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์ต่างกัน
| คุณสมบัติ | Gold Forex (XAU/USD) | ทองคำแท่งไทย | Gold Futures (ในตลาด TFEX) |
|---|---|---|---|
| รูปแบบการลงทุน | สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ไม่มีการส่งมอบทองคำจริง | ซื้อทองคำจริง (ทองคำแท่ง 96.5% หรือ 99.99%) | สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (มีวันหมดอายุ) |
| เงินลงทุนเริ่มต้น | ต่ำ (เริ่มต้นได้ด้วยเงินไม่กี่ร้อยบาท) | สูง (ราคาตามน้ำหนักทองคำจริง) | ปานกลาง (ต้องวางหลักประกัน) |
| เวลาซื้อขาย | 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ (จันทร์-ศุกร์) | ตามเวลาทำการของร้านทอง | ตามเวลาทำการของตลาด TFEX |
| กลไกเลเวอเรจ | สูง (เพิ่มโอกาสและเสี่ยง) | ไม่มี | ปานกลาง (มีหลักประกัน) |
| ค่าธรรมเนียม/ส่วนต่าง | สเปรด (Spread) และค่าธรรมเนียมข้ามคืน (Swap) | ค่ากำเหน็จ (สำหรับทองรูปพรรณ) ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย | ค่าคอมมิชชั่น |
| สภาพคล่อง | สูงมากระดับโลก | สูงในตลาดไทย (ขึ้นอยู่กับร้านทอง) | สูง (ในตลาด TFEX) |
| การส่งมอบจริง | ไม่มี | มี (ได้รับทองคำจริง) | ไม่มี (ส่วนใหญ่ปิดสถานะก่อนหมดอายุ) |
| ความเสี่ยง | สูง (จากเลเวอเรจและผันผวน) | ปานกลาง (จากราคาตลาดโลก) | สูง (จากเลเวอเรจและราคาตลาดโลก) |
ควรชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียให้ตรงกับเป้าหมาย ความเสี่ยงที่รับไหว และทุนที่มี สำหรับทองคำแท่ง สามารถเช็คราคาจากสมาคมค้าทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลมาตรฐานในไทย โดยพิจารณาว่า Gold Forex เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่ทองแท่งดีสำหรับเก็บยาว
สถานะการกำกับดูแลและการปฏิบัติตามกฎหมายการซื้อขาย Forex ในประเทศไทย
ไทยยังไม่มีกฎหมายเฉพาะกำกับฟอเร็กซ์รวมถึง Gold Forex ทำให้การเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างชาติอยู่ในเขตสีเทา ธนาคารแห่งประเทศไทย เตือนถึงความเสี่ยงจากแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับการควบคุม ดังนั้นนักลงทุนไทยควรรีบเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับจากหน่วยงานต่างชาติชั้นนำ เพื่อป้องกันการถูกหลอก ฝากถอนล่าช้า หรือไม่เป็นธรรม ควรศึกษากฎหมายไทยให้ชัดเจนก่อนเริ่ม เพื่อความปลอดภัยระยะยาว
กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงสำหรับตลาดไทย
นอกจากพื้นฐานอย่าง Stop Loss และ Take Profit นักลงทุนไทยยังต้องคำนึงถึงความผันผวนของเงินบาทต่อดอลลาร์ เนื่องจาก XAU/USD ใช้ดอลลาร์ การแข็ง-อ่อนของบาทส่งผลตรงต่อกำไรขาดทุนในเงินไทย การจัดการทุนจึงสำคัญ ใช้เลเวอเรจพอดี ไม่นำเงินจำเป็นมาลงทุน และกระจายพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง เช่นรวมกับสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งช่วยให้รับมือตลาดได้ดี โดยเฉพาะในบริบทไทยที่อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงบ่อย
สรุป: กุญแจสู่ความสำเร็จในการซื้อขาย Gold Forex ในตลาดไทย
การเทรด Gold Forex หรือ XAU/USD เป็นโอกาสน่าลงทุนสำหรับคนไทย ด้วยกำไรที่เป็นไปได้และความยืดหยุ่น แต่ความสำเร็จมาจากการศึกษาลึก การวิเคราะห์ระบบ และวินัยบริหารเสี่ยง เน้นเลือกโบรกเกอร์ดี เรียนรู้แพลตฟอร์ม เข้าใจปัจจัยราคาทองคำ และใช้เทคนิควิเคราะห์ นอกจากนี้ การรู้ประเด็นไทยเฉพาะ เช่นเปรียบเทียบกับทองแท่ง Gold Futures การกำกับดูแล และผลจากเงินบาท จะช่วยวางแผนมั่นใจยิ่งขึ้น การเรียนรู้ต่อเนื่องคือกุญแจสู่ชัยชนะในตลาดนี้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ในประเทศไทย การซื้อขาย XAU/USD (Gold Forex) ถูกกฎหมายหรือไม่?
ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่ออกมารองรับหรือกำกับดูแลการซื้อขาย Forex โดยตรงในประเทศไทย ทำให้การซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศอยู่ในพื้นที่สีเทา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกคำเตือนถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การเทรดไม่ได้ถูกห้ามอย่างชัดเจน หากเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานต่างประเทศที่มีชื่อเสียงก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้
นักลงทุนชาวไทยควรเลือกการลงทุนทองคำประเภทใดระหว่าง Gold Forex, ทองคำแท่ง หรือ Gold Futures?
การเลือกขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุน, ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเงินทุนของคุณ:
- Gold Forex: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น-กลาง, มีความรู้ด้านเทคนิค, และรับความเสี่ยงจากเลเวอเรจได้
- ทองคำแท่ง: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว, สะสมความมั่งคั่ง, และไม่ต้องการความเสี่ยงจากเลเวอเรจ
- Gold Futures: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรและใช้เลเวอเรจในตลาดที่มีการกำกับดูแลภายในประเทศ (TFEX)
สกุลเงินบาท (THB) มีผลต่อกำไรขาดทุนจากการเทรด XAU/USD ของฉันอย่างไร?
เนื่องจาก XAU/USD ซื้อขายเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ กำไรที่คุณได้รับเป็นดอลลาร์เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาทก็จะลดลง หรือหากคุณขาดทุนเป็นดอลลาร์ การขาดทุนเมื่อแปลงเป็นเงินบาทก็จะมากขึ้น ในทางกลับกัน หากเงินบาทอ่อนค่าลง กำไรหรือขาดทุนในสกุลเงินบาทก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ฉันจะเลือกโบรกเกอร์ Gold Forex ที่น่าเชื่อถือและเหมาะสมกับนักลงทุนไทยได้อย่างไร?
ควรพิจารณาจาก:
- การกำกับดูแล: เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับสากลที่เข้มงวด
- ความสะดวกในการฝาก-ถอน: รองรับช่องทางที่นักลงทุนไทยคุ้นเคยและรวดเร็ว
- ค่าธรรมเนียม: สเปรดที่แข่งขันได้และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่โปร่งใส
- แพลตฟอร์ม: มีแพลตฟอร์มที่เสถียรและใช้งานง่าย (เช่น MT4/MT5)
- บริการลูกค้า: มีทีมสนับสนุนที่ตอบสนองและสามารถสื่อสารภาษาไทยได้จะดีมาก
มีข้อควรระวังหรือการฉ้อโกงใดบ้างที่นักลงทุนไทยควรรู้ในการเทรด Gold Forex?
ระวังการชักชวนลงทุนที่อ้างอิงผลตอบแทนสูงเกินจริง, การการันตีกำไร, หรือการให้ผู้อื่นจัดการเงินทุนให้โดยสมบูรณ์ ควรตรวจสอบใบอนุญาตของโบรกเกอร์ให้แน่ใจ และระมัดระวังแพลตฟอร์มที่ไม่เป็นที่รู้จักหรือมีรีวิวเชิงลบ ควรศึกษาข้อมูลด้วยตนเองและไม่เชื่อคำกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลความจริง
แหล่งข้อมูลหรือกราฟ XAU/USD แบบเรียลไทม์ที่นักลงทุนไทยนิยมใช้คือที่ไหน?
นักลงทุนไทยนิยมใช้แพลตฟอร์มอย่าง TradingView หรือ Investing.com สำหรับดูกราฟและข้อมูลราคา XAU/USD แบบเรียลไทม์ ซึ่งมีเครื่องมือวิเคราะห์และตัวชี้วัดทางเทคนิคให้ใช้งานอย่างครบครัน นอกจากนี้ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็มีกราฟและข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์บนแพลตฟอร์ม MetaTrader ให้ใช้งานด้วย
นอกจาก XAU/USD แล้ว มีผลิตภัณฑ์ทองคำอื่นๆ ที่สามารถซื้อขายได้ในตลาด Forex หรือไม่?
โดยทั่วไป XAU/USD (Gold vs. USD) เป็นคู่การซื้อขายทองคำหลักในตลาด Forex บางโบรกเกอร์อาจเสนอคู่ XAU/EUR (Gold vs. Euro) หรือ XAU/GBP (Gold vs. British Pound) ด้วย แต่ XAU/USD เป็นที่นิยมและมีสภาพคล่องสูงที่สุด
การลงทุนใน Gold Forex ต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นเท่าไหร่สำหรับนักลงทุนไทย?
เงินทุนเริ่มต้นในการเทรด Gold Forex ค่อนข้างยืดหยุ่น ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และประเภทบัญชี บางโบรกเกอร์อนุญาตให้เปิดบัญชีด้วยเงินทุนเพียงไม่กี่ร้อยบาท (ประมาณ 10-50 USD) อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและทนต่อความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น การมีเงินทุนเริ่มต้นที่เพียงพอ (เช่น 5,000 – 10,000 บาทขึ้นไป) จะช่วยให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ฉันจะจัดการความเสี่ยงในการเทรด XAU/USD อย่างไรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในประเทศไทย?
นอกจากการตั้ง Stop Loss และ Take Profit แล้ว คุณควรพิจารณาถึงผลกระทบจากค่าเงินบาท, ไม่ใช้เลเวอเรจที่สูงเกินไป, ไม่ลงทุนเกินกว่าที่ยอมรับความเสี่ยงได้, และกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆ หากเป็นไปได้ นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
การวิเคราะห์ข่าวสารและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับทองคำ ควรติดตามจากแหล่งใดบ้างสำหรับนักลงทุนไทย?
ควรติดตามจากแหล่งข่าวเศรษฐกิจและการเงินที่น่าเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ เช่น สำนักข่าว Reuters, Bloomberg, Investing.com, หรือเว็บไซต์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) สำหรับข่าวสารต่างประเทศ และสำหรับในประเทศ สามารถติดตามข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ, ไทยรัฐออนไลน์ (ส่วนเศรษฐกิจ) หรือเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน