ราคาทอง Forex คืออะไร? ทำไม XAU/USD ถึงสำคัญ?
ในโลกของการลงทุน การซื้อขายทองคำผ่านตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือที่เรียกกันว่าทอง Forex ซึ่งนักลงทุนรู้จักในชื่อ XAU/USD ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วย สัญลักษณ์ XAU หมายถึงทองคำในตลาดสากล ส่วน USD คือเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นคู่นี้จึงบ่งบอกถึงมูลค่าทองคำที่วัดต่อหนึ่งออนซ์ในสกุลเงินดอลลาร์

สิ่งที่แตกต่างจากการซื้อทองแท่งหรือเครื่องประดับทั่วไปคือ การเทรดแบบนี้เน้นการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคา โดยไม่ต้องถือครองทองคำจริงๆ ผู้ลงทุนจึงทำกำไรได้ทั้งตอนราคาขึ้นและลง ด้วยสภาพคล่องที่สูงและความยืดหยุ่น ทำให้ XAU/USD กลายเป็นสินทรัพย์หลักในตลาดการเงินระดับโลก ทองคำยังถูกมองว่าเป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในยามที่เศรษฐกิจโลกสั่นคลอน เช่น ช่วงเงินเฟ้อพุ่งสูง ความตึงเครียดทางการเมือง หรือตลาดหุ้นปั่นป่วน การเปลี่ยนแปลงราคาทองคำจึงช่วยสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสถานการณ์โดยรวมได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเศรษฐกิจหรือการเมือง นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤติเช่นปี 2008 หรือการระบาดของโควิด-19 เราก็เห็นราคาทองพุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งยืนยันบทบาทของมันในฐานะตัวบ่งชี้ความเสี่ยง
กราฟราคาทอง Forex (XAU/USD) อ่านอย่างไรให้เข้าใจ?
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน การเข้าใจกราฟราคาทองในตลาด Forex ถือเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ เพราะกราฟนี้แสดงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาต่างๆ ช่วยให้วิเคราะห์แนวโน้มและคาดการณ์ทิศทางได้ดีขึ้น กราฟรูปแบบที่ใช้กันมากที่สุดคือกราฟแท่งเทียน แต่ละแท่งจะบอกข้อมูลสำคัญอย่างราคาเปิด สูงสุด ต่ำสุด และปิด ในกรอบเวลาที่เลือก เช่น นาที ชั่วโมง หรือวัน

ในการอ่านกราฟอย่างง่ายๆ ควรเริ่มจากแนวโน้มโดยรวม ซึ่งอาจเป็นทิศทางขึ้น ลง หรือเคลื่อนไหวแบบข้างๆ จากนั้นดูระดับแนวรับที่ราคามักเด้งขึ้นเพราะมีแรงซื้อหนุน และแนวต้านที่ราคาอาจถูกกดลงจากแรงขาย นักลงทุนมักใช้เครื่องมืออย่าง TradingView ที่มีฟีเจอร์หลากหลาย อินดิเคเตอร์ครบครัน และปรับแต่งได้ตามใจ หรือแพลตฟอร์มอย่าง MetaTrader 4 และ 5 ที่มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิค การฝึกดูกราฟบ่อยๆ จะช่วยให้จับพฤติกรรมราคาได้ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ตัดสินใจเทรดแม่นยำกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อรวมกับการสังเกตแพทเทิร์นซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ Forex
ราคา XAU/USD ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบสุ่ม แต่ถูกขับเคลื่อนจากปัจจัยเศรษฐกิจ การเงิน และสถานการณ์โลกที่ซับซ้อน การรู้จักปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คาดการณ์ทิศทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น

เริ่มจากอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน เช่น เมื่อธนาคารกลางสหรัฐหรือหน่วยงานอื่นขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์จะแข็งค่า ส่งผลให้ทองคำราคาตกเพราะถือครองทองไม่มีดอกเบี้ยตอบแทน ทำให้ต้นทุนโอกาสสูงขึ้น แต่ถ้าดอกเบี้ยต่ำ ทองคำกลับน่าถือครองมากกว่าในฐานะตัวเก็บมูลค่า ต่อมาคือเงินเฟ้อ ซึ่งทองคำช่วยป้องกันความเสี่ยงได้ดี เมื่อเงินเฟ้อสูง เงินสดเสื่อมค่า นักลงทุนจึงหันมาซื้อทอง ส่งผลให้ราคาขึ้น ค่าเงินดอลลาร์ก็สำคัญเพราะถ้าดอลลาร์แข็ง ทองแพงสำหรับต่างชาติ ความต้องการลดลง แต่ถ้าอ่อน ราคาก็ขึ้น นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหรือภูมิรัฐศาสตร์ เช่น วิกฤติ สงคราม หรือโรคระบาด จะกระตุ้นให้คนหาที่หลบภัยในทองคำ อย่างในปี 2008 หรือโควิดที่ราคาพุ่งชัดเจน ส่วนอุปสงค์อุปทานจากเครื่องประดับ การลงทุน ETF หรือธนาคารกลางที่ซื้อสำรองทอง ก็มีส่วนผลักดันราคาได้เช่นกัน
เพื่อติดตามข้อมูล ลองดูแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง Investing.com ที่มีบทวิเคราะห์ครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจภาพรวมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะข่าวจากธนาคารกลางที่มักส่งผลกระทบโดยตรง
เปรียบเทียบราคาทองคำโลก (XAU/USD) กับราคาทองคำในประเทศ (บาท)
สำหรับนักลงทุนในไทย การรู้จักความเชื่อมโยงระหว่างราคาทองโลกกับราคาในประเทศที่วัดด้วยบาทเป็นเรื่องจำเป็น แม้ราคาโลกจะเป็นตัวกำหนดหลัก แต่ค่าเงินบาทก็มีอิทธิพลมากไม่แพ้กัน
การคำนวณราคาในประเทศมาจากราคา XAU/USD คูณอัตราแลกเปลี่ยน THB/USD แล้วบวกค่าตลาดเข้าไป โดยละเอียดคือ ราคาโลกเป็นมาตรฐานต่อออนซ์ในดอลลาร์ อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์ที่ถ้าบาทอ่อน ราคาทองในไทยก็อาจขึ้นแม้ราคาโลกนิ่ง และค่าพรีเมียมหรือค่ากำเหน็จที่ร้านทองหรือสมาคมค้าทองคำกำหนด โดยเฉพาะทองรูปพรรณที่บวกเพิ่ม
สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทุกวัน เป็นตัวอ้างอิงหลัก สามารถเช็คได้ที่ เว็บไซต์สมาคม เพื่อเปรียบเทียบกับราคาโลกและเห็นผลจากค่าเงินบาทชัดๆ
**ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างเบื้องต้น:**
| คุณสมบัติ | ราคาทอง Forex (XAU/USD) | ราคาทองคำในประเทศ (บาท) |
| :—————- | :———————————- | :——————————— |
| ลักษณะการซื้อขาย | ซื้อขายเก็งกำไรส่วนต่าง (CFD) | ซื้อขายทองคำจริง (แท่ง/รูปพรรณ) |
| หน่วยราคา | ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์ | บาทต่อบาททองคำ (1 บาททองคำ = 15.16 กรัม) |
| ปัจจัยหลัก | ราคาทองโลก, นโยบายการเงินสหรัฐฯ | ราคาทองโลก, อัตราแลกเปลี่ยน THB/USD, ค่าการตลาด |
| สภาพคล่อง | สูงมาก, ซื้อขายได้เกือบ 24 ชม. | ตามเวลาทำการร้านทอง, ตลาด TFEX (Gold Futures) |
เริ่มต้นเทรดทอง Forex ในประเทศไทย: ขั้นตอนและข้อควรพิจารณา
ถ้าคุณอยากเริ่มเทรดทอง Forex ในไทย ต้องวางแผนให้ดีเพื่อความปลอดภัยและราบรื่น สิ่งหลักคือเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและเหมาะกับสไตล์ของคุณ
**ขั้นตอนการเริ่มต้น:**
1. **ศึกษาข้อมูลและเลือกโบรกเกอร์:** หาโบรกเกอร์ดัง มีใบอนุญาตจากหน่วยงานอย่าง CySEC, FCA หรือ ASIC แม้ไทยยังไม่มีกฎเฉพาะ แต่การเลือกที่กำกับดูแลเข้มงวดจะช่วยลดความเสี่ยง ดูจากแพลตฟอร์มหลักอย่าง MT4/MT5 ค่าสเปรดและคอมมิชชั่นที่สมเหตุสมผล การฝากถอนที่สะดวกไม่มีค่าซ่อน และบริการลูกค้าที่อาจรองรับภาษาไทย
2. **เปิดบัญชีเทรด:** มีทั้งบัญชีจริงและทดลอง แนะนำเริ่มจากทดลองเพื่อฝึกโดยไม่เสี่ยงเงินจริง
3. **ฝากเงินเข้าบัญชี:** เมื่อพร้อม คำถามอย่างเทรดทองขั้นต่ำจะขึ้นกับโบรกเกอร์ บางที่เริ่มแค่ไม่กี่ร้อยบาท แต่ควรมีทุนพอสำหรับจัดการความเสี่ยง
4. **ดาวน์โหลดและติดตั้งแพลตฟอร์ม:** อย่าง MT4 หรือ MT5 ที่ใช้กันแพร่หลาย
5. **เริ่มทำการเทรด:** เรียนรู้การเปิดปิดออเดอร์ ตั้ง Stop Loss กับ Take Profit และเข้าใจ Leverage กับ Margin ที่เพิ่มพลังเทรดแต่เสี่ยงสูง
**ข้อควรพิจารณา:**
* **ความเสี่ยง:** เทรด Forex เสี่ยงมาก อาจเสียทุนทั้งหมด ลงทุนเฉพาะเงินที่ยอมเสียได้
* **การศึกษา:** ศึกษาวิเคราะห์เทคนิคและพื้นฐานอย่างสม่ำเสมอ
* **กฎหมายในไทย:** เทรดกับโบรกเกอร์ต่างชาติยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ ต้องระวังให้มาก
กลยุทธ์การเทรดทองคำ Forex ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนไทย
การมีกลยุทธ์ชัดเจนช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการเทรดทอง Forex โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ควรเลือกตามสไตล์และรับความเสี่ยงได้ แต่อย่าลืมบริหารความเสี่ยงเป็นหัวใจหลัก
**กลยุทธ์ที่นิยม:**
1. **Trend Following (ตามแนวโน้ม):** ง่ายสำหรับมือใหม่ โดยดูแนวโน้มหลักแล้วเปิดตำแหน่งตาม เช่น ราคาขึ้นก็ซื้อและถือจนแนวโน้มเปลี่ยน
2. **Scalping (เก็บสั้น):** เน้นกำไรเล็กๆ จากการเทรดสั้นๆ หลายครั้งต่อวัน ต้องแม่นยำและเฝ้ากราฟใกล้ชิด
3. **Swing Trading (สวิงเทรด):** จับคลื่นราคาในระยะกลาง ถือหลายชั่วโมงถึงวัน ใช้เทคนิคหาจุดกลับตัว
4. **News Trading (เทรดตามข่าว):** เข้าตลาดตอนประกาศข่าวใหญ่ เช่น เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย หรือ Non-Farm Payrolls ที่ทำให้ราคาผันผวน ต้องเตรียมพร้อมและออกเร็ว
**การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):**
ไม่ว่าจะกลยุทธ์ไหน ต้องทำดังนี้:
* **ตั้ง Stop Loss (ตัดขาดทุน):** กำหนดจุดขาดทุนสูงสุดทุกเทรด
* **ตั้ง Take Profit (ทำกำไร):** กำหนดจุดกำไรเพื่อล็อกผลตอบแทน
* **บริหารเงินทุน (Money Management):** เสี่ยงไม่เกิน 1-2% ต่อเทรด อย่าทุ่มหมด
* **ขนาดล็อต (Lot Size):** ปรับตามทุนและ Leverage
คนไทยควรทดลองกลยุทธ์ในบัญชีทดลองก่อน และใช้สัญญาณจากอินดิเคเตอร์เทคนิคเพื่อช่วยตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดผันผวนจากข่าวไทยหรือโลก
แนวโน้มและวิเคราะห์ราคาทองคำ Forex ในอนาคต (2568)
นักลงทุนหลายคนจับตาแนวโน้มราคาทอง Forex ในปี 2568 หรือ 2025 โดยเฉพาะว่าจะขึ้นไปถึงไหน หรือมีลุ้นแตะ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การวิเคราะห์ต้องดูปัจจัยกว้างๆ ทั้งเศรษฐกิจ นโยบาย และภูมิรัฐศาสตร์
**ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในอนาคต:**
* **ภาวะเงินเฟ้อ:** ถ้าเงินเฟ้อยังสูงหรือกลับมา ทองคำยังเป็นตัวป้องกันที่ดี
* **นโยบายการเงินของธนาคารกลาง:** ถ้า Fed ลดดอกเบี้ยตามคาด ดอลลาร์อ่อน ราคาทองขึ้น
* **ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์:** สงครามยูเครน ความตึงเครียดตะวันออกกลาง หรือปัญหาการเมือง จะหนุนความต้องการทอง
* **การซื้อทองคำของธนาคารกลาง:** หลายประเทศยังเพิ่มสำรองทองเพื่อกระจายความเสี่ยง ลดพึ่งดอลลาร์
* **การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก:** ถ้าเข้าถดถอย ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจะพุ่ง
**โอกาสที่ทองคำจะแตะ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์:**
บางนักวิเคราะห์เห็นโอกาสถ้าปัจจัยหนุนรวมกันแรง เช่น Fed ลดดอกเบี้ยด่วนจากเศรษฐกิจชะลอ หรือวิกฤติการเงินใหญ่ แต่บางกลุ่มมองว่าราคาอาจนิ่งหรือลงถ้าเงินเฟ้อปกติและเศรษฐกิจ稳
**คำแนะนำสำหรับนักลงทุน:**
* **ติดตามรายงานการวิเคราะห์:** ดูจาก YLG Bullion ผู้เชี่ยวชาญทองในไทย
* **พิจารณาทั้งระยะสั้นและระยะยาว:** สำหรับยาว ทองเก็บมูลค่าดี แต่สั้นต้องระวังผันผวนและจัดการเสี่ยง
ไม่มีใครทำนายได้เป๊ะ 100% ดังนั้นศึกษาข้อมูลรอบด้านและบริหารเสี่ยงให้เหมาะสมจึงสำคัญ
สรุป: กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรดทอง Forex
การเทรด XAU/USD เป็นโอกาสน่าตื่นเต้นที่อาจสร้างกำไร แต่เสี่ยงสูงเช่นกัน ความสำเร็จไม่ได้มาจากการเดาตลาด แต่จากความรู้ เข้าใจ และวินัย
**หลักการสำคัญที่นักลงทุนไทยควรยึดถือ:**
* **เข้าใจตลาด:** รู้พื้นฐาน XAU/USD ปัจจัยราคา และความเชื่อมโยงราคาโลกกับบาท
* **ใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์:** ฝึกอ่านกราฟด้วย TradingView หรือ MT4/MT5 เพื่อวิเคราะห์และวางแผน
* **บริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด:** ตั้ง Stop Loss Take Profit และจัดการทุนทุกครั้ง
* **มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน:** เลือกที่เหมาะตัวเอง ทดลองในเดโมก่อน
* **เรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง:** ตลาดเปลี่ยนเสมอ เรียนจาก經驗และปรับกลยุทธ์
การเทรดทอง Forex คือการเดินทางที่ต้องการความรู้ ความอดทน และการตัดสินใจรอบคอบ ถ้านำหลักการเหล่านี้ไปใช้ คนไทยจะมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้นแน่นอน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับราคาทอง Forex (FAQ)
ราคาทอง Forex (XAU/USD) กับราคาทองคำในประเทศ (บาท) แตกต่างกันอย่างไร และมีการคำนวณอย่างไร?
ราคาทอง Forex หรือ XAU/USD คือมูลค่าทองคำในตลาดโลกวัดด้วยดอลลาร์ต่อออนซ์ เน้นเก็งกำไรส่วนต่างโดยไม่ถือทองจริง ส่วนราคาในไทยวัดด้วยบาทสำหรับทองแท่งหรือรูปพรรณ คำนวณจากราคาโลกคูณอัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์ แล้วบวกค่าตลาดหรือกำเหน็จ ทำให้ได้รับผลจากค่าเงินบาทโดยตรง
นักลงทุนไทยควรใช้โบรกเกอร์ Forex เจ้าไหนในการเทรดทองคำ และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานน่าเชื่อถืออย่าง CySEC, FCA หรือ ASIC ถึงแม้ไทยยังไม่มีกฎรองรับโดยตรง ดูจากแพลตฟอร์ม MT4/MT5 ค่าสเปรด การฝากถอนสะดวก และบริการลูกค้า ข้อควรระวังคือความเสี่ยงสูงของ Forex และตรวจสอบโบรกเกอร์ให้ดีเพื่อป้องกันการถูกหลอก
เทรดทอง Forex ขั้นต่ำเท่าไหร่ถึงจะเริ่มต้นได้ในประเทศไทย และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
ขั้นต่ำขึ้นกับโบรกเกอร์ บางที่เริ่มแค่ 10-50 ดอลลาร์สำหรับบัญชี Cent หรือ Mini ค่าใช้จ่ายหลักคือสเปรด คอมมิชชั่นบางบัญชี และค่าธรรมเนียมฝากถอนจากธนาคารหรือช่องทางอื่น
กราฟราคาทอง XAU/USD จาก TradingView มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน และมือใหม่ควรตั้งค่าอย่างไร?
กราฟจาก TradingView น่าเชื่อถือมาก ได้รับการยอมรับทั่วโลกเพราะอัปเดตเรียลไทม์และวิเคราะห์ครบ สำหรับมือใหม่ เริ่มด้วย Timeframe ใหญ่เช่น 4 ชั่วโมงหรือวัน เพื่อดูแนวโน้มหลัก แล้วเรียนรู้เครื่องมือพื้นฐานอย่างเส้นแนวโน้ม แนวรับต้าน และอินดิเคเตอร์ง่ายๆ อย่าง Moving Average หรือ RSI
ปัจจัยทางเศรษฐกิจและข่าวสารใดบ้างที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำ Forex ที่นักลงทุนไทยควรรู้?
ปัจจัยสำคัญ ได้แก่:
- **อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed):** หากดอกเบี้ยขึ้น ทองคำมักลง
- **ภาวะเงินเฟ้อ:** ทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
- **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ:** ดอลลาร์แข็ง ทองคำมักลง
- **ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก:** กระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- **การซื้อขายของธนาคารกลาง:** การเพิ่มการสำรองทองคำของธนาคารกลาง
นักลงทุนไทยควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจโลกและประกาศสำคัญเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
มีกลยุทธ์การเทรดทองคำ Forex แบบใดบ้างที่เหมาะสำหรับสภาพตลาดในประเทศไทย?
กลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนไทยได้แก่:
- **Trend Following:** ติดตามแนวโน้มหลักของราคา
- **Swing Trading:** ทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาในระยะกลาง
- **Scalping:** สำหรับผู้ที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอและต้องการทำกำไรสั้นๆ
สิ่งสำคัญคือการผสมผสานการวิเคราะห์ทางเทคนิคกับปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทและราคาทองคำโลก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดในไทย
การลงทุนในทองคำ Forex มีความเสี่ยงสูงจริงหรือไม่ และนักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงอย่างไร?
ใช่ การลงทุนในทองคำ Forex มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีการใช้ Leverage ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อขายแต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงโดย:
- **ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง:** เพื่อจำกัดการขาดทุน
- **บริหารขนาดล็อต:** ให้เหมาะสมกับเงินทุน
- **ไม่ลงทุนเกินกว่าที่รับได้:** ใช้เงินที่พร้อมจะสูญเสียเท่านั้น
- **กระจายความเสี่ยง:** ไม่ทุ่มเงินลงทุนในสินทรัพย์เดียว
ทองจะขึ้นไปถึงไหนในปี 2568 หรือมีโอกาสแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์หรือไม่?
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะทะลุ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ได้ในปี 2568 หากเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed หรือความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์นี้ยังไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่อาจเปลี่ยนแปลงไป การติดตามบทวิเคราะห์จากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ
นอกจาก XAU/USD แล้ว มีสินทรัพย์ทองคำอื่นใดที่คนไทยนิยมเทรดในตลาด Forex อีกบ้าง?
โดยทั่วไปแล้ว XAU/USD (ทองคำเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ) เป็นคู่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการเทรดทองคำในตลาด Forex แต่บางโบรกเกอร์อาจมีคู่เงินอื่นที่เกี่ยวข้องกับทองคำ เช่น XAU/EUR (ทองคำเทียบกับยูโร) หรือ XAU/JPY (ทองคำเทียบกับเยน) อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของ XAU/USD มักจะเป็นตัวกำหนดทิศทางหลักของทองคำในตลาดโลก
การใช้ Leverage (เลเวอเรจ) ในการเทรดทอง Forex มีประโยชน์และโทษอย่างไรสำหรับนักลงทุนไทย?
ประโยชน์: Leverage ช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมตำแหน่งการเทรดที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินทุนจริงที่ตัวเองมีอยู่ ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้จากเงินลงทุนเริ่มต้นที่น้อย
โทษ: Leverage เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างมากเช่นกัน หากราคาเคลื่อนไหวผิดทางเพียงเล็กน้อย การขาดทุนอาจทวีคูณและทำให้เงินทุนหมดลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนไทยจึงควรทำความเข้าใจและใช้ Leverage อย่างระมัดระวังสูงสุด