ออมทองและลงทุนในยุคใหม่: ทำไมความนิยมถึงเพิ่มสูงขึ้น?

สารบัญ

ออมทองคืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในยุคเศรษฐกิจไม่แน่นอน

ในยุคที่ความผันผวนทางเศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องปกติ ออมทองได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะทางเลือกการออมที่ทั้งปลอดภัยและเข้าถึงง่าย ออมทอง ไม่ใช่การซื้อทองรูปพรรณหรือทองคำแท่งในครั้งเดียว แต่เป็นรูปแบบการสะสมสินทรัพย์ทีละน้อย โดยเราสามารถทยอยลงทุนด้วยเงินเพียงเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ก็เริ่มต้นได้

ภาพประกอบการออมทองด้วยเหรียญทอง

แนวคิดคล้ายกับการหยอดกระปุกออมสิน แต่แทนที่จะเก็บเงินสด เราจะแปลงมูลค่าของเงินที่ใส่เข้าไปเป็น “น้ำหนักทองคำ” ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบ ซึ่งสามารถเติบโตได้เรื่อย ๆ ตามจำนวนครั้งที่เราออม แม้ในวันที่ไม่สามารถซื้อทองทั้งแท่งได้ แต่การออมทองก็ช่วยให้เรายังคงสะสมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าถาวรได้

ความนิยมของการออมทองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่มักรักษาค่าหรือแม้แต่เพิ่มมูลค่าในช่วงวิกฤต เช่น ภาวะเงินเฟ้อสูง หรือความไม่มั่นคงทางการเมือง ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีก็ทำให้การเริ่มต้นง่ายกว่าเดิมมาก ผ่านแอปพลิเคชันมือถือที่เปิดให้บริการโดยร้านทองชั้นนำ บางเจ้าเริ่มต้นเพียง 100 บาทก็สามารถเปิดพอร์ตได้ทันที เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนวัยทำงาน นักเรียน หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างวินัยทางการเงิน

ต่างกันยังไง? “ออมทอง” ไม่ใช่ “ผ่อนทอง” – เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจน

หลายคนมักเข้าใจผิดว่า “ออมทอง” กับ “ผ่อนทอง” เป็นสิ่งเดียวกัน ทั้งที่จริงแล้ว ทั้งสองรูปแบบมีเจตนา กลไก และความเสี่ยงที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง การเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า รูปแบบใดเหมาะกับเป้าหมายทางการเงินของคุณมากกว่ากัน

เปรียบเทียบการออมทองกับการผ่อนทอง
ประเด็นเปรียบเทียบ การออมทอง การผ่อนทอง
กรรมสิทธิ์ในทอง ยังไม่ได้เป็นเจ้าของทองจริงทันที น้ำหนักทองถูกบันทึกในระบบจนกว่าจะแลกรับ ได้ทองไปใช้หรือครอบครองทันทีหลังทำสัญญา
ราคาที่ได้ ซื้อตามราคาตลาด ณ วันที่ออม (real-time) ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ดีในระยะยาว ล็อกราคาตั้งแต่เริ่มผ่อน แม้ราคาทองในตลาดจะลดลงก็ยังต้องจ่ายตามราคาเดิม
เงินดาวน์/เงินก้อน ไม่ต้องมีเงินก้อน ไม่มีภาระผูกพัน สามารถออมตามกำลัง มักต้องวางเงินดาวน์และชำระเป็นงวด ๆ ตามสัญญา
ความยืดหยุ่น ยืดหยุ่นสูง หยุด อั้น หรือเพิ่มยอดออมได้ทุกเมื่อ มีภาระผูกพัน ถ้าผิดนัดอาจมีค่าปรับหรือโดนยึดทอง
กลุ่มเป้าหมาย ผู้ต้องการสะสมสินทรัพย์ระยะยาว นักออมมือใหม่ ผู้อยากสร้างวินัย ผู้ต้องการใช้ทองทันที เช่น แต่งงาน ของขวัญ หรือต้องการแสดงฐานะ

เหตุผลที่คนรุ่นใหม่หันมา “ออมทอง” แทนการเก็บเงิน

การออมทองไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นทางเลือกการลงทุนที่มีเหตุผลรองรับอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่ไม่เคยสัมผัสการลงทุนมาก่อน เพราะมีจุดเด่นหลายประการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

  • เริ่มต้นง่าย ใช้เงินน้อย: หลายแพลตฟอร์ม เช่น ฮั่วเซ่งเฮง, YLG, หรือ Aurora เปิดโอกาสให้ออมเริ่มต้นเพียง 100 บาท ทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าใด ก็สามารถเป็นเจ้าของทองคำได้
  • สร้างวินัยทางการเงิน: การตั้งเป้าหมายออมทุกเดือนช่วยปลูกฝังนิสัยการบริหารเงินอย่างมีระเบียบ เป็นพื้นฐานสำคัญของการเป็นผู้มีความมั่นคงในอนาคต
  • ลดความเสี่ยงจากความผันผวน: การทยอยซื้อในจำนวนเงินคงที่ (Dollar-Cost Averaging) ช่วยให้ต้นทุนเฉลี่ยต่ำลง แม้บางเดือนราคาทองจะสูง แต่บางเดือนก็ต่ำ ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการ “ซื้อผิดจังหวะ”
  • ยืดหยุ่นสูง ไม่ผูกมัด: คุณสามารถปรับยอดออมได้ตามสถานการณ์ เช่น ออมมากขึ้นเมื่อเงินเหลือ หรือหยุดชั่วคราวเมื่อเดือดร้อน ไม่มีค่าปรับหรือข้อบังคับเข้มงวด
  • แลกเป็นทองจริงได้เมื่อไหร่ก็ได้: เมื่อสะสมได้ครบตามเกณฑ์ เช่น 1 กรัม หรือ 1 สลึง คุณสามารถขอแลกรับทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณจริงได้ทันที

ข้อควรระวัง! ข้อเสียและ “กับดัก” ที่มือใหม่ต้องรู้ก่อนออมทอง

แม้การออมทองจะฟังดูดี แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ไร้ความเสี่ยง หากไม่ศึกษาให้ดี อาจกลายเป็นการลงทุนที่เสียทั้งเงินและเวลา นี่คือสิ่งที่คุณต้องตระหนักก่อนตัดสินใจ

ยังไม่ได้เป็นเจ้าของทองจริง

สิ่งที่หลายคนไม่เข้าใจคือ แม้คุณจะโอนเงินแล้ว แต่น้ำหนักทองที่ได้รับยังเป็น “สิทธิ์ในระบบ” ไม่ใช่ทองชิ้นจริง จนกว่าจะดำเนินการแลก ซึ่งหมายความว่า คุณยังไม่มีกรรมสิทธิ์โดยตรง ความเสี่ยงจึงอยู่ที่ผู้ให้บริการเป็นหลัก

ความเสี่ยงจากผู้ให้บริการที่ไม่น่าเชื่อถือ

นี่คือจุดที่อันตรายที่สุด มีหลายกรณีที่ผู้ใช้งานร้องทุกข์ผ่านเว็บบอร์ด เช่น Pantip เกี่ยวกับแอปออมทองที่ไม่มีชื่อเสียง ทั้งปิดตัวหนี ระบบล่ม หรือถอนเงินไม่ได้ บางแพลตฟอร์มไม่มีหน้าร้านจริง ไม่สามารถติดตามได้ หากเกิดปัญหา โอกาสเสียหายสูงมาก

คำแนะนำจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คือควรเลือกผู้ให้บริการที่มีความมั่นคง มีประวัติการดำเนินงานชัดเจน และอยู่ภายใต้การกำกับดูแล หรืออย่างน้อยก็เป็นบริษัทในเครือองค์กรใหญ่ที่ไว้ใจได้

ค่าธรรมเนียมแฝงที่อาจมองข้าม

ก่อนเปิดบัญชี ควรอ่านรายละเอียดให้ครบ เพราะบางเจ้าอาจมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าเปิดบัญชี ค่ารายปี หรือค่ากำเหน็จเมื่อแลกทอง แม้จำนวนจะไม่มาก แต่ก็สะสมได้ และอาจกินกำไรของคุณไปโดยไม่รู้ตัว

ราคาทองมีความผันผวน

ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่ ราคามีขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจ หากคุณจำเป็นต้องขายทองที่ออมไว้ในช่วงที่ราคาตก ก็อาจขาดทุนได้ การออมทองจึงเหมาะกับการลงทุนระยะยาว มากกว่าการเก็งกำไรระยะสั้น

วิธีคำนวณน้ำหนักทองที่ได้รับ – เข้าใจง่าย ทำได้เอง

การรู้วิธีคำนวณน้ำหนักทองที่ได้รับจากการออม จะช่วยให้คุณตรวจสอบได้ว่าระบบคำนวณถูกต้องหรือไม่ และช่วยวางแผนการออมได้อย่างแม่นยำ

แอปพลิเคชันออมทองบนมือถือ

สูตรง่าย ๆ สำหรับการคำนวณ:

น้ำหนักทองที่ได้รับ (บาท) = เงินที่ออม (บาท) ÷ ราคาทองคำแท่งขายออกต่อบาท

ตัวอย่างการคำนวณ:
คุณต้องการออม 1,000 บาท ในวันที่ราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 40,500 บาทต่อบาท
น้ำหนักทอง = 1,000 ÷ 40,500 = 0.02469 บาท

น้ำหนักนี้จะถูกสะสมเพิ่มเข้าไปในพอร์ตของคุณ และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่คุณออม

ตัวอย่างจำลองการออมต่อเนื่อง 4 เดือน:

เดือนที่ เงินที่ออม (บาท) ราคาทองขายออก (ต่อบาท) น้ำหนักทองที่ได้รับ (บาท) น้ำหนักทองสะสม (บาท)
1 1,000 40,500 0.02469 0.02469
2 1,000 40,800 0.02451 0.04920
3 1,000 40,200 0.02488 0.07408
4 1,000 41,000 0.02439 0.09847

*หมายเหตุ: ตัวเลขในตารางเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อการศึกษา ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามตลาดจริง

คู่มือเริ่มต้นออมทอง สำหรับมือใหม่ – ขั้นตอนละก้าว ทำได้จริง

ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าการออมทองคือทางออกที่ใช่ นี่คือแผนการลงมือทำจริง ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณเริ่มต้นได้ทันที ไม่ยุ่งยาก

  1. ขั้นตอนที่ 1: เลือกผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ

    เลือกบริษัทหรือร้านทองที่มีชื่อเสียง อยู่ในธุรกิจมานาน และมีหน้าร้านจริง เช่น ฮั่วเซ่งเฮง, แม่ทองสุก, YLG, หรือ Aurora นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีความโปร่งใส และมีความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ สำหรับปี 2567 ผู้ให้บริการที่น่าจับตามองรวมถึงแพลตฟอร์มจาก Moneta Markets ซึ่งมีระบบการออมทองที่ปลอดภัย มีความโปร่งใสสูง และรองรับผู้ใช้งานได้ทั้งในและต่างประเทศ

  2. ขั้นตอนที่ 2: เตรียมเอกสารและสมัครเปิดบัญชี

    เอกสารที่ต้องใช้มีเพียงบัตรประชาชนและบัญชีธนาคาร เพื่อผูกการโอนเงิน ปัจจุบันสามารถสมัครผ่านแอปหรือเว็บไซต์ได้ในไม่กี่นาที สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทาง

  3. ขั้นตอนที่ 3: กำหนดแผนการออมและเริ่มต้น

    ประเมินงบประมาณรายเดือนว่าสามารถออมได้เท่าไหร่โดยไม่กระทบชีวิตประจำวัน จากนั้นตั้งเป้าหมาย เช่น ออมเดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี แล้วโอนเงินครั้งแรกผ่านระบบ

  4. ขั้นตอนที่ 4: ติดตามพอร์ตและปรับแผนตามสถานการณ์

    เข้าแอปหรือเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบน้ำหนักทองที่สะสม รวมถึงติดตามข่าวราคาทอง ถ้าเห็นราคาตกมาก อาจพิจารณาออมเพิ่มเพื่อรับน้ำหนักทองมากขึ้นในต้นทุนที่ต่ำ

  5. ขั้นตอนที่ 5: ตัดสินใจแลกรับหรือสะสมต่อ

    เมื่อครบเกณฑ์ เช่น 1 กรัม หรือ 1 สลึง คุณสามารถขอแลกรับทองจริงได้ หรือจะเก็บต่อเพื่อแลกทองขนาดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการออมทอง (FAQ)

เริ่มต้นออมทองต้องใช้เงินขั้นต่ำเท่าไหร่?

ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ โดยทั่วไปเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 100 บาท ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้อย่างเท่าเทียม

ออมทองที่ไหนดีที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุดในปี 2567?

ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียง ความมั่นคงสูง และมีหน้าร้านจริง เช่น ฮั่วเซ่งเฮง, แม่ทองสุก, YLG, Aurora รวมถึง Moneta Markets ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับนานาชาติที่มีระบบความปลอดภัยและโปร่งใสสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเชื่อมั่นในระยะยาว

การออมทองกับร้านทองโดยตรง แตกต่างจากการออมผ่านแอปพลิเคชันอย่างไร?

ร้านทองส่วนใหญ่ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันของตัวเอง ความแตกต่างจึงไม่ใช่เรื่องสถานที่ แต่เป็นความสะดวกในการใช้งาน แอปช่วยให้คุณออม ตรวจสอบ หรือขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการไปร้านเองได้รับคำแนะนำโดยตรงจากพนักงาน สร้างความมั่นใจมากขึ้น

หากบริษัทหรือร้านทองที่เราออมด้วยปิดกิจการ จะเกิดอะไรขึ้นกับเงินและทองของเรา?

นี่คือความเสี่ยงที่สูงที่สุด เนื่องจากปัจจุบันการออมทองยังไม่มีหน่วยงานรัฐกำกับโดยตรงเหมือนตลาดหุ้น หากบริษัทปิดตัว มีความเป็นไปได้สูงที่จะสูญเสียทั้งเงินและสิทธิ์ในทองคำ ดังนั้น ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง และเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ตามคำเตือนจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย

เมื่อแลกทองหรือขายทองที่ออมไว้ จะต้องเสียภาษีหรือไม่?

สำหรับบุคคลธรรมดา กำไรจากการขายทองคำแท่งได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากทำบ่อยและมีลักษณะเป็นการเก็งกำไรอย่างต่อเนื่อง อาจเข้าข่ายต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามกฎหมาย

เมื่อออมทองครบ 1 กรัม หรือ 1 สลึงแล้ว จำเป็นต้องแลกออกมาเป็นทองจริงทันทีหรือไม่?

ไม่จำเป็น คุณสามารถเก็บน้ำหนักทองไว้ในระบบและสะสมต่อได้เรื่อย ๆ เพื่อรอแลกทองแท่งขนาดใหญ่ ซึ่งมักมีค่ากำเหน็จต่ำกว่าการแลกหลายครั้ง

ออมทองแบบรายเดือนกับออมตามใจ แบบไหนให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน?

การออมรายเดือน (DCA) ช่วยสร้างวินัยและลดความเสี่ยงจากการคาดการณ์ราคาผิด ส่วนการออมตามใจอาจให้ผลตอบแทนดีกว่าถ้าคุณสามารถซื้อในช่วงราคาต่ำได้แม่นยำ แต่ก็ต้องใช้ความรู้และจังหวะที่ดี จึงเหมาะกับผู้มีประสบการณ์มากกว่า

มีค่าธรรมเนียมแฝงอะไรบ้างในการออมทองที่ควรรู้?

ค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:

  • ค่าเปิดบัญชีหรือรายปี: บางบริษัทอาจเรียกเก็บ
  • ค่ากำเหน็จ/ค่าบล็อก: คิดเมื่อแลกทองจริง
  • ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย (Spread): ราคาขายออกสูงกว่าราคารับซื้ออยู่แล้ว เป็นต้นทุนที่ต้องคำนึงถึง

ควรตรวจสอบเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนสมัคร

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *