ในโลกการเทรด ไม่ว่าจะเป็นตลาดฟอเร็กซ์หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง การเข้าใจแนวคิดเรื่องขนาดล็อตถือเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้สำหรับนักเทรดทุกคน มันไม่ใช่แค่บอกว่าคุณกำลังลงทุนในปริมาณเท่าไหร่ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมความเสี่ยง และมีอิทธิพลโดยตรงต่อผลกำไรหรือขาดทุนจากทุกการเปลี่ยนแปลงของราคา

บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมุมมองของขนาดล็อต ตั้งแต่คำจำกัดความ ประเภทต่างๆ วิธีคำนวณ ไปจนถึงกลยุทธ์จัดการความเสี่ยงที่เหมาะกับนักเทรดชาวไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือนักเทรดที่มีประสบการณ์แล้วต้องการย้ำความรู้ คู่มือนี้คือแหล่งข้อมูลครบถ้วนที่คุณไม่ควรพลาด

Lot Size คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ต้องรู้?
ขนาดล็อตคือหน่วยมาตรฐานที่ใช้วัดปริมาณการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเฉพาะฟอเร็กซ์และซีเอฟดี ลองนึกภาพว่าคุณซื้อขายสินค้าธรรมดาๆ คุณอาจซื้อเป็นชิ้น เป็นโหล หรือเป็นกิโล ในตลาดการเงิน ขนาดล็อตก็ทำงานในลักษณะเดียวกัน โดยกำหนดปริมาณสินทรัพย์ที่คุณกำลังเทรด

เหตุผลที่ขนาดล็อตสำคัญเพราะมันเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อหลายด้าน เช่น
- มูลค่าต่อปิ๊ป: ขนาดล็อตกำหนดโดยตรงว่าการเปลี่ยนแปลงราคา 1 ปิ๊ปจะมีมูลค่าเท่าไหร่ในบัญชีของคุณ
- ระดับความเสี่ยง: ถ้าขนาดล็อตใหญ่ ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง เพราะมูลค่าต่อปิ๊ปเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรหรือขาดทุนจากราคาที่เคลื่อนไหวมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย
- ทุนที่จำเป็น: การเทรดล็อตใหญ่ต้องการเงินมาร์จิ้นมากกว่า ซึ่งอาจผูกมัดทุนของคุณ
- กำไรและขาดทุน: เป็นองค์ประกอบหลักในการคำนวณผลลัพธ์จากแต่ละออเดอร์
ถ้าคุณไม่เข้าใจขนาดล็อต การจัดการความเสี่ยงจะยากลำบาก และอาจเจอการขาดทุนที่ไม่คาดคิดได้ง่ายๆ ดังนั้น การเลือกใช้ขนาดล็อตให้เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสู่การเทรดที่ยั่งยืนและมั่นคง
ประเภทของ Lot Size: รู้จักขนาดการเทรดที่หลากหลาย
ในฟอเร็กซ์และซีเอฟดี ขนาดล็อตมักแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ซึ่งแต่ละแบบเหมาะกับนักเทรดที่มีทุนและระดับความเสี่ยงต่างกัน การรู้จักประเภทเหล่านี้ช่วยให้คุณเลือกขนาดเทรดที่เข้ากับกลยุทธ์และสถานะบัญชีของคุณได้ดีขึ้น
โดยทั่วไป 1 ล็อตมาตรฐานเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐานในคู่สกุลเงิน แต่โบรกเกอร์หลายแห่งปรับขนาดให้เล็กลงเพื่อรองรับนักเทรดทุกระดับ ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม
Standard Lot (ล็อตมาตรฐาน): สำหรับมือโปรและทุนหนา
ล็อตมาตรฐานคือขนาดใหญ่สุด และเป็นมาตรฐานดั้งเดิมของตลาดฟอเร็กซ์
- ปริมาณ: 1 ล็อตมาตรฐาน = 100,000 หน่วยสกุลเงินฐาน
- มูลค่าปิ๊ป: สำหรับคู่ที่มี USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง เช่น EUR/USD มูลค่าปิ๊ปอยู่ที่ราว 10 USD ต่อ 1 ปิ๊ป การเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยอาจสร้างผลกระทบใหญ่
- เหมาะสำหรับ: นักเทรดอาชีพ สถาบันการเงิน หรือคนที่มีทุนมากและชำนาญการจัดการความเสี่ยง
Mini Lot (ล็อตมินิ): ตัวเลือกยอดฮิตสำหรับนักเทรดทั่วไป
ล็อตมินิได้รับความนิยมสูงในกลุ่มนักเทรดรายย่อย เพราะยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงจากล็อตมาตรฐานได้เยอะ
- ปริมาณ: 1 ล็อตมินิ = 10,000 หน่วยสกุลเงินฐาน
- มูลค่าปิ๊ป: สำหรับคู่ที่มี USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง มูลค่าปิ๊ปราว 1 USD ต่อ 1 ปิ๊ป
- เหมาะสำหรับ: นักเทรดทั่วไปที่ต้องการความเสี่ยงระดับกลาง มีทุนเริ่มต้นพอเหมาะ และใช้ฝึกกลยุทธ์เทรด
Micro Lot (ล็อตไมโคร): เริ่มต้นปลอดภัยสำหรับมือใหม่
ล็อตไมโครคือขนาดเล็กสุด ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับมือใหม่หรือคนที่อยากทดสอบกลยุทธ์ด้วยความเสี่ยงต่ำ
- ปริมาณ: 1 ล็อตไมโคร = 1,000 หน่วยสกุลเงินฐาน
- มูลค่าปิ๊ป: สำหรับคู่ที่มี USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง มูลค่าปิ๊ปราว 0.10 USD ต่อ 1 ปิ๊ป
- เหมาะสำหรับ: มือใหม่ที่อยากเรียนรู้ตลาด ทดลองระบบเทรดด้วยเงินจริงแต่เสี่ยงน้อย หรือคนที่มีทุนจำกัด การเริ่มด้วยล็อตไมโครช่วยให้คุณปรับตัวกับความผันผวนโดยไม่กดดันทุนมาก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทขนาดล็อต
นอกจากนี้ ยังมีล็อตนาโน ซึ่งขนาด 100 หน่วยสกุลเงินฐาน (0.001 ล็อต) บางโบรกเกอร์มีให้สำหรับคนที่ต้องการเสี่ยงต่ำสุด
การคำนวณ Lot Size: ทำความเข้าใจมูลค่า Pip และการจัดการความเสี่ยง
การคำนวณขนาดล็อตให้ถูกต้องเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพื่อเข้าใจมูลค่าปิ๊ปและจัดการความเสี่ยงในบัญชี มูลค่าปิ๊ปคือการเปลี่ยนแปลงกำไรหรือขาดทุนเมื่อราคาเคลื่อน 1 ปิ๊ป
สูตรพื้นฐานสำหรับมูลค่าปิ๊ปคือ
มูลค่าปิ๊ป = (ขนาดปิ๊ป / อัตราแลกเปลี่ยน) * ขนาดล็อต
- ขนาดปิ๊ป: สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่คือ 0.0001 (เช่น EUR/USD, GBP/JPY) แต่สำหรับคู่ที่มี JPY เป็นสกุลเงินอ้างอิง (เช่น USD/JPY) คือ 0.01
- อัตราแลกเปลี่ยน: ราคาปัจจุบันของคู่นั้น
- ขนาดล็อต: ปริมาณเทรดของคุณ (เช่น 100,000 สำหรับล็อตมาตรฐาน, 10,000 สำหรับล็อตมินิ, 1,000 สำหรับล็อตไมโคร)
ตัวอย่างการคำนวณขนาดล็อตในคู่เงินยอดนิยม (USD/JPY, EUR/USD)
มาดูตัวอย่างมูลค่าปิ๊ปสำหรับขนาดล็อตต่างๆ กัน
ตัวอย่างที่ 1: EUR/USD (บัญชี USD)
- อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน: 1.0850
- ขนาดปิ๊ป: 0.0001
สำหรับ 1 ล็อตมาตรฐาน (100,000 หน่วย):
มูลค่าปิ๊ป = (0.0001 / 1.0850) * 100,000 = 9.21 USD (ประมาณ)
สำหรับ 1 ล็อตมินิ (10,000 หน่วย):
มูลค่าปิ๊ป = (0.0001 / 1.0850) * 10,000 = 0.92 USD (ประมาณ)
สำหรับ 1 ล็อตไมโคร (1,000 หน่วย):
มูลค่าปิ๊ป = (0.0001 / 1.0850) * 1,000 = 0.092 USD (ประมาณ)
ตัวอย่างที่ 2: USD/JPY (บัญชี USD)
- อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน: 155.00
- ขนาดปิ๊ป: 0.01
สำหรับ 1 ล็อตมาตรฐาน (100,000 หน่วย):
มูลค่าปิ๊ป = (0.01 / 155.00) * 100,000 = 6.45 USD (ประมาณ)
สำหรับ 1 ล็อตมินิ (10,000 หน่วย):
มูลค่าปิ๊ป = (0.01 / 155.00) * 10,000 = 0.645 USD (ประมาณ)
สำหรับ 1 ล็อตไมโคร (1,000 หน่วย):
มูลค่าปิ๊ป = (0.01 / 155.00) * 1,000 = 0.0645 USD (ประมาณ)
ตัวอย่างที่ 3: USD/THB (บัญชี THB) – สำหรับนักเทรดไทย
สมมติบัญชีของคุณเป็นเงินบาท และเทรดคู่ USD/THB
- อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน: 36.50
- ขนาดปิ๊ป: 0.0001
สำหรับ 1 ล็อตมาตรฐาน (100,000 หน่วย):
มูลค่าปิ๊ป = (0.0001 / 36.50) * 100,000 = 0.2739 USD
แปลงเป็นบาท: 0.2739 USD * 36.50 THB/USD = 10 บาท (ประมาณ)
ดังนั้น 1 ล็อตมาตรฐานของ USD/THB มีมูลค่าปิ๊ปราว 10 บาท
สำหรับ 0.1 ล็อตมินิ (1,000 หน่วย หรือ 0.01 ล็อตมาตรฐาน)
มูลค่าปิ๊ป = (0.0001 / 36.50) * 1,000 = 0.002739 USD
แปลงเป็นบาท: 0.002739 USD * 36.50 THB/USD = 0.1 บาท (ประมาณ)
ดังนั้น 0.1 ล็อต (ล็อตไมโคร) ของ USD/THB มีมูลค่าปิ๊ปราว 0.1 บาท
ตารางสรุปมูลค่าปิ๊ปโดยประมาณในบัญชี USD (เมื่อ USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง)
| Lot Size | หน่วย (Unit) | มูลค่า Pip โดยประมาณ (USD) |
|---|---|---|
| Standard Lot (1.0) | 100,000 | 10 USD |
| Mini Lot (0.1) | 10,000 | 1 USD |
| Micro Lot (0.01) | 1,000 | 0.1 USD |
การคำนวณขนาดล็อตสำหรับทองคำ (Gold) และสินทรัพย์อื่นๆ
สำหรับทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงดัชนีหุ้น ขนาดล็อตจะต่างจากคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ โดยปกติ 1 ล็อตทองคำ (XAU/USD) เท่ากับ 100 ออนซ์ ซึ่งช่วยให้เข้าใจปริมาณการเทรดได้ชัดเจน
ตัวอย่าง: ทองคำ (XAU/USD)
- 1 ล็อตทองคำ = 100 ออนซ์
- ถ้าราคาทองเคลื่อน 1 USD ต่อออนซ์ สำหรับ 1 ล็อต คุณจะกำไรหรือขาดทุน 100 USD (100 ออนซ์ * 1 USD/ออนซ์)
- มูลค่าปิ๊ปสำหรับทองคำขึ้นกับโบรกเกอร์ แต่โดยทั่วไป การเคลื่อน 0.01 USD ถือเป็น 1 ปิ๊ป
คำถาม: ทอง 1 ล็อตเท่ากับกี่ออนซ์?
คำตอบ: ในตลาดสปอตทองคำ 1 ล็อตมักเท่ากับ 100 ออนซ์ (troy ounces) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่นักเทรดส่วนใหญ่ใช้
สำหรับสินทรัพย์ซีเอฟดีอื่นๆ เช่น น้ำมันดิบหรือดัชนีหุ้นอย่าง S&P 500 ขนาดล็อตและมูลค่าต่อจุดจะแตกต่างตามโบรกเกอร์ คุณควรตรวจสอบสัญญาผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มเทรดเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด การตรวจสอบเหล่านี้ช่วยให้การเทรดของคุณปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการคำนวณขนาดล็อตและมูลค่าปิ๊ป
Lot Size กับการบริหารความเสี่ยง: เทรดอย่างชาญฉลาด
ขนาดล็อตไม่ใช่แค่บอกปริมาณเทรด แต่เป็นเครื่องมือหลักในการควบคุมความเสี่ยง การเลือกขนาดที่เหมาะสมช่วยให้คุณกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และปกป้องทุนจากความสูญเสียที่เกินควบคุม
หลักการสำคัญคือการกำหนดความเสี่ยงต่อออเดอร์เป็นเปอร์เซ็นต์ของทุนทั้งหมดในบัญชี ซึ่งช่วยให้การเทรดมีวินัยมากขึ้น
หลักการพื้นฐานในการจัดการความเสี่ยงด้วยขนาดล็อต:
- กำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง: นักเทรดมือโปรแนะนำไม่เกิน 1-2% ของทุนต่อออเดอร์ เพื่อรักษาทุนในระยะยาว
- ตั้งจุดหยุดขาดทุน: ตัดสินใจว่ายอมขาดทุนสูงสุดกี่ปิ๊ปสำหรับออเดอร์นั้น
- คำนวณมูลค่าปิ๊ป: จากเปอร์เซ็นต์และจุดหยุดขาดทุน หามูลค่าปิ๊ปสูงสุดที่ยอมรับได้
- เลือกขนาดล็อต: หาขนาดที่ใกล้เคียงกับมูลค่าที่คำนวณ
ความเชื่อมโยงกับมาร์จิ้นและเลเวอเรจ:
- มาร์จิ้น: คือทุนประกันที่ต้องมีเพื่อเปิดออเดอร์ ขนาดล็อตใหญ่ต้องการมาร์จิ้นมากกว่า ทำให้ทุนส่วนหนึ่งถูกผูกไว้และไม่ใช้เทรดอื่นได้
- เลเวอเรจ: คือการยืมทุนจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มพลังเทรด แม้จะช่วยให้เทรดล็อตใหญ่ด้วยทุนน้อย แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงสูง หากราคาไปผิดทาง ขาดทุนจะขยายตัวเร็ว การผสมเลเวอเรจสูงกับขนาดล็อตไม่เหมาะสมมักนำไปสู่การล้างพอร์ต
การรู้ว่าขนาดล็อต มาร์จิ้น และเลเวอเรจทำงานร่วมกันอย่างไร จะช่วยให้คุณวางแผนเทรดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวน
เลือก Lot Size อย่างไรให้เหมาะสมกับเงินทุนและสไตล์การเทรดของคุณ
การเลือกขนาดล็อตต้องพิจารณาไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่รวมถึงทุน สไตล์เทรด และความอดทนต่อความเสี่ยงด้วย เพื่อให้การเทรดสอดคล้องกับตัวคุณ
ขั้นตอนในการตัดสินใจ:
- ประเมินทุนบัญชี: คุณมีทุนเท่าไหร่? (เช่น 1,000 USD หรือ 10,000 USD)
- กำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับ: กี่เปอร์เซ็นต์ของทุน? (เช่น 1-2%)
- ตั้งจุดหยุดขาดทุน (ปิ๊ป): วางแผนหยุดที่กี่ปิ๊ป?
- คำนวณขนาดล็อต: ใช้เครื่องมือออนไลน์หรือสูตร เพื่อหาขนาดที่เหมาะ
ตัวอย่าง: สมมติทุน 1,000 USD เสี่ยง 1% ต่อออเดอร์ (10 USD) และตั้งหยุดขาดทุน 50 ปิ๊ป สำหรับ EUR/USD
- มูลค่าปิ๊ปสูงสุด = 10 USD / 50 ปิ๊ป = 0.2 USD ต่อปิ๊ป
- จากตาราง 0.2 USD อยู่ระหว่างล็อตไมโคร (0.1 USD) และล็อตมินิ (1 USD) คุณอาจเลือก 0.02 ล็อต (2 ล็อตไมโคร) หรือ 0.03 ล็อต เพื่อให้ตรงกับความเสี่ยง
คำแนะนำสำหรับนักเทรดไทย:
- เริ่มด้วยล็อตไมโคร: สำหรับมือใหม่ทุนน้อย การใช้ล็อตไมโคร (0.01 ล็อตมาตรฐาน) เป็นทางปลอดภัยในการเรียนรู้ฟอเร็กซ์ ซีเอฟดี และทองคำ
- พิจารณาคู่เงิน: ถ้าเทรดคู่ผันผวนสูงอย่างทองคำหรือคู่แปลก ใช้ขนาดล็อตเล็กลงเพื่อลดผลกระทบ
- หลีกเลี่ยงการเทรดเกินตัว: การใช้ขนาดล็อตใหญ่เกินทุนและความอดทน เป็นความผิดพลาดที่พบบ่อยและนำไปสู่ขาดทุนหนัก
ข้อผิดพลาดทั่วไปเกี่ยวกับ Lot Size ที่ควรหลีกเลี่ยง
แม้ขนาดล็อตจะดูเรียบง่าย แต่หลายคน โดยเฉพาะมือใหม่ มักพลาดจุดสำคัญ ซึ่งอาจทำลายบัญชีเทรดได้
- ใช้ขนาดล็อตใหญ่เกินตัว (Overtrading):
- ปัญหา: ข้อผิดพลาดยอดฮิตที่ทำให้การเคลื่อนราคาเล็กน้อยล้างพอร์ตได้
- วิธีแก้: ยึดกฎเสี่ยง 1-2% ต่อออเดอร์ อย่าปล่อยให้ความโลภนำทาง
- ไม่ปรับขนาดตามบัญชี:
- ปัญหา: เมื่อบัญชีโตหรือหด ไม่ปรับขนาด ทำให้ความเสี่ยงไม่ตรงแผน
- วิธีแก้: ทบทวนและคำนวณใหม่บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังฝากถอนหรือบัญชีเปลี่ยนแปลงใหญ่
- มองข้ามผลต่อจิตใจ:
- ปัญหา: ขนาดใหญ่สร้างแรงกดดัน ทำให้ตัดสินใจผิด เช่น ปิดกำไรเร็วหรือยื้อขาดทุนนาน
- วิธีแก้: เลือกขนาดที่สบายใจและรับมือความผันผวนได้โดยไม่กระทบอารมณ์
- ไม่รู้ความต่างในสินทรัพย์:
- ปัญหา: คิดว่าล็อตเดียวกันในฟอเร็กซ์ ทอง หรือหุ้นมีมูลค่าต่างกัน แต่จริงๆ แตกต่างมาก
- วิธีแก้: ตรวจสัญญาสินทรัพย์กับโบรกเกอร์เสมอ เพื่อเข้าใจขนาดล็อตและมูลค่าปิ๊ปจริง
สรุป: Lot Size กุญแจสู่การเทรดที่มั่นคงและยั่งยืน
ขนาดล็อตคือมากกว่าแค่วัดปริมาณ แต่เป็นฐานรากของการจัดการความเสี่ยงและความสำเร็จในการเทรด การเข้าใจลึกซึ้งถึงนิยาม ประเภท วิธีคำนวณ และการนำไปใช้จัดการความเสี่ยง จะช่วยให้คุณควบคุมการเทรดได้ดี
สำหรับนักเทรดไทย ไม่ว่าจะสนใจฟอเร็กซ์ ทอง หรือซีเอฟดี การเริ่มด้วยขนาดเล็กอย่างล็อตไมโครคือทางที่ดีในการทำความคุ้นเคย ฝึกกลยุทธ์ และเข้าใจความผันผวนด้วยความเสี่ยงต่ำ เมื่อมั่นใจและมีประสบการณ์แล้ว ค่อยเพิ่มขนาดให้เหมาะกับทุนและความอดทน
จำไว้ว่า การเทรดฉลาดคือการปกป้องทุนก่อนเสมอ และขนาดล็อตคือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณไปถึงจุดนั้นได้ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับวินัยและการเรียนรู้ต่อเนื่อง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Lot Size (FAQ)
Lot Size คืออะไร และแตกต่างจาก Pip อย่างไร?
Lot Size คือ หน่วยมาตรฐานที่ใช้ในการวัดปริมาณการซื้อขายในตลาดการเงิน เช่น 1 Standard Lot เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก ส่วน Pip (ปิ๊ป) คือ หน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เล็กที่สุดในคู่สกุลเงิน โดย Lot Size จะเป็นตัวกำหนดว่าการเคลื่อนไหวของราคา 1 Pip จะมีมูลค่าเป็นเงินเท่าไหร่ในบัญชีของคุณ
เทรดทองคำ 1 Lot ต้องใช้เงินเท่าไหร่ และเท่ากับกี่ออนซ์?
โดยทั่วไป 1 Lot ของทองคำ (XAU/USD) จะเท่ากับ 100 ออนซ์ (troy ounces) จำนวนเงินที่ต้องใช้ในการเทรดจะขึ้นอยู่กับราคาปัจจุบันของทองคำและอัตราเลเวอเรจที่โบรกเกอร์เสนอ ยิ่งเลเวอเรจสูง เงินประกัน (Margin) ที่ต้องใช้ก็จะน้อยลง
0.1 Lot ในคู่เงิน USD/THB มีมูลค่า Pip กี่บาท?
ถ้าอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB อยู่ที่ 36.50 และ 0.1 Lot หมายถึง 10,000 หน่วย (Mini Lot) ของสกุลเงินหลัก (USD) มูลค่า Pip จะอยู่ที่ประมาณ 1 บาท (โดยประมาณ) เนื่องจาก 1 Standard Lot มีมูลค่า Pip ประมาณ 10 บาท ดังนั้น 0.1 Lot ก็จะมีมูลค่า Pip ประมาณ 1 บาท
มือใหม่ควรเริ่มต้นเทรดด้วย Lot Size เท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย?
มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วย Micro Lot (0.01 Standard Lot) ซึ่งเท่ากับ 1,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก การใช้ Micro Lot จะช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ทำให้คุณสามารถเรียนรู้และฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจริงได้โดยไม่กดดันเงินทุนมากเกินไป
ตารางคำนวณ Lot Size มีประโยชน์อย่างไร และหาได้จากที่ไหน?
ตารางคำนวณ Lot Size มีประโยชน์ในการแสดงมูลค่า Pip ของ Lot Size ต่างๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้เทรดเดอร์สามารถประเมินความเสี่ยงและเลือก Lot Size ที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น คุณสามารถหาตารางดังกล่าวได้จากบทความการศึกษาของโบรกเกอร์ต่างๆ หรือใช้เครื่องมือคำนวณ Lot Size (Lot Size Calculator) ที่มีให้บริการฟรีบนเว็บไซต์การเงินหลายแห่ง
Lot Size มีผลต่อ Margin และ Leverage ในบัญชีเทรดของเราอย่างไร?
Lot Size มีผลโดยตรงต่อ Margin และ Leverage การใช้ Lot Size ที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้คุณต้องใช้ Margin ที่สูงขึ้น เพื่อเปิดสถานะการเทรด และหากคุณใช้ Leverage ที่สูง ก็จะสามารถเปิด Lot Size ที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเงิน Margin ที่น้อยลง แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
การเลือก Lot Size ที่ผิดพลาดมีผลเสียอย่างไรบ้าง?
การเลือก Lot Size ที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการเลือกที่ใหญ่เกินไป อาจนำไปสู่ การขาดทุนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นล้างพอร์ตได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดความเครียดและกดดันทางจิตใจ ทำให้การตัดสินใจในการเทรดผิดพลาดได้ง่าย และขัดขวางการเรียนรู้และพัฒนาทักษะ
เราสามารถเปลี่ยน Lot Size ระหว่างการเทรดได้หรือไม่?
ไม่สามารถเปลี่ยน Lot Size ของสถานะที่เปิดอยู่แล้วได้โดยตรง แต่คุณสามารถเปิดสถานะใหม่ด้วย Lot Size ที่แตกต่างออกไป หรือปิดสถานะเดิมบางส่วนและเปิดใหม่ด้วย Lot Size ที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม การปรับ Lot Size ควรทำก่อนเปิดสถานะใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการเทรดและการบริหารความเสี่ยงของคุณ
โบรกเกอร์แต่ละเจ้ามี Lot Size ขั้นต่ำต่างกันหรือไม่?
ใช่ โบรกเกอร์แต่ละเจ้าอาจมี Lot Size ขั้นต่ำที่แตกต่างกัน โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มักจะเสนอ Micro Lot (0.01 Standard Lot) เป็น Lot Size ขั้นต่ำ เพื่อรองรับเทรดเดอร์มือใหม่ แต่บางโบรกเกอร์อาจมีขั้นต่ำที่ Mini Lot (0.1 Standard Lot) หรือแม้แต่ Nano Lot (0.001 Standard Lot) ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและนโยบายของโบรกเกอร์นั้นๆ
การใช้ Lot Size ขนาดเล็กช่วยลดความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างไร?
การใช้ Lot Size ขนาดเล็ก เช่น Micro Lot ทำให้ มูลค่าต่อ Pip น้อยลง อย่างมาก ซึ่งหมายความว่าทุกการเคลื่อนไหวของราคาจะส่งผลต่อกำไรขาดทุนในบัญชีของคุณน้อยลง ทำให้คุณมีพื้นที่ในการผิดพลาดและเรียนรู้ได้มากขึ้น ลดโอกาสในการขาดทุนจำนวนมาก และช่วยให้คุณบริหารเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ