การถอดรหัส “Pip”: หัวใจสำคัญของการเทรด Forex ที่นักลงทุนต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้
ในโลกของการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือที่เรารู้จักกันในนาม ตลาด Forex (Foreign Exchange Market) มีคำศัพท์พื้นฐานอยู่คำหนึ่งที่เทรดเดอร์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ จำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ นั่นคือ “Pip” คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า Pip คืออะไรกันแน่ และเหตุใดมันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเทรดของเรา? บทความนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับ Pip ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นเหมือนเข็มทิศนำทางให้คุณเดินหน้าในเส้นทาง การเทรด Forex ได้อย่างมั่นคงและชาญฉลาด เราจะเจาะลึกถึงนิยาม การคำนวณ ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ Pip ในการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้คุณสามารถก้าวไปสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง
เราในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความรู้การลงทุน เข้าใจดีว่าการเริ่มต้นใน ตลาด Forex นั้นอาจเต็มไปด้วยความสับสน เพราะมีคำศัพท์และแนวคิดมากมายที่ต้องทำความเข้าใจ แต่ขอให้คุณวางใจ เราจะอธิบายเรื่องที่ซับซ้อนให้กลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยภาษาที่เข้าใจได้ และตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้คุณสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจ การเทรด ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Pip คืออะไร? ทำความเข้าใจหน่วยวัดการเคลื่อนไหวราคาขั้นต่ำในตลาด Forex
ถ้าคุณเคยซื้อขายหุ้น คุณอาจคุ้นเคยกับคำว่า “ช่อง” หรือ “ติ๊ก” ที่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กที่สุด แต่ใน ตลาด Forex นั้น เรามีหน่วยวัดเฉพาะที่เรียกว่า “Pip” ซึ่งย่อมาจาก “Percentage In Point” หรือบางครั้งก็เรียกว่า “Price Interest Point” มันคือหน่วยมาตรฐานที่ใช้สำหรับระบุการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กที่สุดของ คู่สกุลเงิน ในตลาดนี้ เปรียบเทียบได้กับการที่เราใช้ “เซนติเมตร” เป็นหน่วยวัดความยาวที่เล็กที่สุด การเข้าใจ Pip คือก้าวแรกสู่การอ่านและตีความ การเคลื่อนไหวราคา ที่เกิดขึ้นใน ตลาด Forex ได้อย่างถูกต้อง
โดยทั่วไปแล้ว คู่สกุลเงิน ส่วนใหญ่ใน ตลาด Forex จะถูกกำหนดราคาโดยโบรกเกอร์ด้วยตัวเลขทศนิยม 4 ตำแหน่ง และ Pip จะเป็นตัวเลขในตำแหน่งที่ 4 หลังจุดทศนิยมนั้น ยกตัวอย่างเช่น หาก คู่สกุลเงิน EURUSD เคลื่อนไหวจาก 1.1000 ไปยัง 1.1001 นั่นหมายความว่าราคาได้เพิ่มขึ้น 1 Pip นี่คือการเปลี่ยนแปลงขั้นต่ำที่เราสามารถสังเกตเห็นได้
อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นที่สำคัญสำหรับ คู่สกุลเงิน ที่เกี่ยวข้องกับเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เช่น USDJPY ซึ่งมักจะถูกกำหนดราคาด้วยตัวเลขทศนิยมเพียง 2 ตำแหน่ง ดังนั้นสำหรับ USDJPY การเปลี่ยนแปลง 1 Pip จะหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งที่ 2 หลังจุดทศนิยม เช่น จาก 109.00 ไปยัง 109.01 นั่นคือ 1 Pip นั่นเอง
นอกจากนี้ ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและโบรกเกอร์ต้องการเสนอราคาที่แม่นยำยิ่งขึ้น คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่า “Pipette” หรือ “Point” ซึ่งหมายถึงเศษส่วนของ Pip โดยที่ 1 Pip จะเท่ากับ 10 Pipette หรือ 10 Point ยกตัวอย่างเช่น หากโบรกเกอร์แสดงราคา EURUSD ที่ 1.10005 ตัวเลข “5” ที่เป็นทศนิยมตำแหน่งที่ 5 คือ Pipette ดังนั้นหากราคาเคลื่อนไหวจาก 1.10000 ไปเป็น 1.10001 นั่นคือการเคลื่อนไหว 1 Pipette หรือ 0.1 Pip การแสดงราคาแบบนี้เรียกว่าการกำหนดราคาแบบ 5 หลักทศนิยม (หรือ 3 หลักสำหรับคู่เงินเยน) การรู้เรื่อง Pipette ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ การเคลื่อนไหวราคา ที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นได้
ไขรหัสการคำนวณมูลค่า Pip ในตลาด Forex
การรู้จัก Pip เพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ เทรดเดอร์ที่ชาญฉลาดจะต้องสามารถคำนวณ มูลค่า Pip ในสกุลเงินของบัญชีตนเองได้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญในการวางแผน การเทรด และการ บริหารความเสี่ยง ของคุณ มูลค่า Pip ไม่ใช่ค่าคงที่ แต่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ คู่สกุลเงิน ที่คุณเทรด ปริมาณการเทรด หรือที่เรียกว่า “Lot” และอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
โดยหลักการแล้ว มูลค่า Pip ของ คู่สกุลเงิน จะถูกคำนวณโดยใช้สูตรพื้นฐานดังนี้:
- สูตรคำนวณมูลค่า Pip:
- (1 Pip / อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันของคู่สกุลเงิน) x ขนาดของ Lot = มูลค่า Pip ในสกุลเงินฐาน
- หากสกุลเงินอ้างอิง (ตัวหลัง) ของคู่สกุลเงินนั้นเป็นสกุลเงินเดียวกับบัญชีของคุณ การคำนวณจะง่ายขึ้นมาก
มาดูตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น:
ตัวอย่าง | ข้อมูล |
---|---|
การคำนวณมูลค่า Pip สำหรับ EURUSD | มูลค่า Pip = 0.0001 x 100,000 = 10 USD |
การคำนวณมูลค่า Pip สำหรับ USDJPY | มูลค่า Pip = (0.01 / 109.00) x 100,000 = ประมาณ 9.17 USD |
การทำความเข้าใจการคำนวณเหล่านี้ ช่วยให้คุณสามารถประเมิน กำไร หรือ ขาดทุน ที่อาจเกิดขึ้นจากการ เคลื่อนไหวราคา แต่ละ Pip และช่วยให้คุณวางแผน การเทรด ได้อย่างมีข้อมูล
Pip กับคู่สกุลเงินหลัก (Majors): ภาพรวมและมูลค่า
ใน ตลาด Forex มี คู่สกุลเงิน หลายร้อยคู่ให้เลือกเทรด แต่ คู่สกุลเงินหลัก (Majors) เป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและสเปรดต่ำ คู่สกุลเงินหลัก ประกอบด้วยสกุลเงินที่สำคัญที่สุดของโลก เช่น EURUSD, USDJPY, GBPUSD, USDCHF, USDCAD, AUDUSD, และ NZDUSD การทำความเข้าใจ มูลค่า Pip สำหรับ คู่สกุลเงิน เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ เทรดเดอร์ ทุกคน
ดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว มูลค่า Pip จะขึ้นอยู่กับว่าสกุลเงินอ้างอิง (ตัวหลัง) ของ คู่สกุลเงิน นั้นคืออะไร และขนาดของ Lot ที่เราเทรด โดยทั่วไปสำหรับ คู่สกุลเงิน ที่ USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง (เช่น EURUSD, GBPUSD, AUDUSD, NZDUSD) มูลค่า Pip ของ 1 Standard Lot จะอยู่ที่ประมาณ 10 USD เสมอ เนื่องจาก Pip จะตรงกับ 0.0001 ของหน่วย USD และ 1 Lot คือ 100,000 หน่วย
แต่สำหรับ คู่สกุลเงิน อื่นๆ ที่ USD ไม่ใช่สกุลเงินอ้างอิง เช่น USDCHF หรือ USDCAD การคำนวณจะซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย เพราะเราจะต้องแปลง มูลค่า Pip ที่เป็นสกุลเงินอ้างอิง (CHF หรือ CAD) ให้กลับมาเป็น USD โดยการหารด้วยอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันของ USDCHF หรือ USDCAD ตามลำดับ
และสำหรับ USDJPY ซึ่งเป็น คู่สกุลเงินหลัก ที่มีการแสดงราคาที่แตกต่าง (ทศนิยม 2 ตำแหน่ง) การคำนวณ มูลค่า Pip ก็จะเป็นไปตามตัวอย่างที่เราได้อธิบายไปแล้วข้างต้น ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 9-10 USD ต่อ 1 Pip สำหรับ 1 Standard Lot ขึ้นอยู่กับราคา USDJPY ณ ขณะนั้น
นี่คือตารางภาพรวมอย่างคร่าวๆ ของ มูลค่า Pip สำหรับ 1 Standard Lot (100,000 หน่วย) ใน คู่สกุลเงินหลัก โดยสมมติว่าบัญชีของคุณเป็นสกุลเงิน USD:
คู่สกุลเงิน | รูปแบบราคาปกติ | ค่า 1 Pip | มูลค่า 1 Pip (1 Standard Lot) โดยประมาณ (USD) |
---|---|---|---|
EURUSD | 1.XXXX | 0.0001 | $10.00 |
GBPUSD | 1.XXXX | 0.0001 | $10.00 |
AUDUSD | 0.XXXX | 0.0001 | $10.00 |
NZDUSD | 0.XXXX | 0.0001 | $10.00 |
USDCHF | 0.XXXX | 0.0001 | $10.00 (แปลงจาก CHF) |
USDCAD | 1.XXXX | 0.0001 | $10.00 (แปลงจาก CAD) |
USDJPY | XXX.XX | 0.01 | $9.10 – $9.20 (ขึ้นอยู่กับราคา JPY) |
สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า มูลค่า Pip เหล่านี้จะผันผวนเล็กน้อยตาม อัตราแลกเปลี่ยน ของ คู่สกุลเงิน นั้นๆ การทำความเข้าใจตารางนี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับ เทรดเดอร์ ในการประเมิน ความเสี่ยง และ ผลตอบแทน ที่อาจเกิดขึ้น
การใช้ Pip เพื่อบริหารความเสี่ยงและกำหนดจุดทำกำไร/ตัดขาดทุน
การเข้าใจ Pip ไม่ได้เป็นเพียงแค่การคำนวณเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการ บริหารความเสี่ยง (Risk Management) และวางแผน การเทรด ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรู้ว่าแต่ละ Pip มีมูลค่าเท่าใดในสกุลเงินบัญชีของคุณ ช่วยให้คุณสามารถกำหนดขนาดของตำแหน่ง การเทรด และระดับ Stop Loss (จุดตัดขาดทุน) และ Take Profit (จุดทำกำไร) ได้อย่างแม่นยำ
ลองจินตนาการว่าคุณมีบัญชี เทรด อยู่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และคุณตั้งใจที่จะ บริหารความเสี่ยง ไม่ให้เกิน 1% ของเงินทุนในแต่ละ การเทรด นั่นหมายความว่าคุณยอมรับการขาดทุนได้สูงสุด 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1% ของ 1,000 ดอลลาร์) ทีนี้ ถ้าคุณกำลังเทรด EURUSD ซึ่ง 1 Pip มีมูลค่า 10 USD ต่อ Standard Lot คุณจะคำนวณจำนวน Pip ที่คุณสามารถยอมรับการขาดทุนได้ดังนี้:
- เงินทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ / มูลค่า Pip ต่อ Lot = จำนวน Pip ที่ยอมรับได้
- 10 USD / (10 USD/Pip) = 1 Pip
ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้ 1 Standard Lot คุณสามารถยอมรับการขาดทุนได้เพียง 1 Pip ซึ่งน้อยมากและไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงใน ตลาด Forex ที่มีความผันผวน ดังนั้น คุณจะต้องลดขนาดของ Lot ลงมา เพื่อให้สามารถตั้ง Stop Loss ได้กว้างขึ้น:
- หากคุณต้องการตั้ง Stop Loss ที่ 20 Pip (ซึ่งเป็นระยะที่สมเหตุสมผลกว่า) คุณจะต้องลดขนาด Lot ลง:
- เงินทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ / (จำนวน Pip ที่ต้องการ x มูลค่า Pip ต่อ Lot) = ขนาด Lot ที่เหมาะสม
- 10 USD / (20 Pip x 10 USD/Pip) = 10 USD / 200 USD = 0.05 Standard Lot หรือ 5 Micro Lot
นี่คือตัวอย่างของการใช้ Pip ในการกำหนดขนาดตำแหน่งและ Stop Loss ที่เหมาะสมกับกฎ บริหารความเสี่ยง ของคุณ และนี่คือความงามของการเข้าใจ Pip มันช่วยให้คุณสามารถวางแผน การเทรด ได้อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่การเดาสุ่ม
การกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit) ก็เช่นเดียวกัน หากคุณคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณต้องการ 50 Pip และคุณใช้ 0.05 Standard Lot นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสทำกำไรได้ 50 Pip x (10 USD/Pip x 0.05 Lot) = 25 USD ซึ่งเป็นอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล การเข้าใจและประยุกต์ใช้ Pip ในการวางแผน Stop Loss และ Take Profit จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับ เทรดเดอร์ ทุกคน
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับการ บริหารความเสี่ยง และมีเครื่องมือช่วยในการคำนวณเหล่านี้อย่างครบครัน Moneta Markets เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ เทรดเดอร์ ที่ต้องการความแม่นยำในการวางแผน การเทรด พวกเขาให้บริการแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการคำนวณที่ซับซ้อนและช่วยให้คุณสามารถตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างรวดเร็ว
เครื่องมือช่วยคำนวณ Pip สำหรับเทรดเดอร์ยุคใหม่
ในยุคดิจิทัลนี้ การคำนวณ มูลค่า Pip ด้วยมือในทุกๆ ครั้งอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและเสียเวลา และอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดได้ โชคดีที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ เทรดเดอร์ ด้วยเครื่องมือช่วยคำนวณ Pip ที่มีให้เลือกใช้มากมาย คุณสามารถพบเครื่องคิดเลข Pip ได้จากหลายแหล่ง:
- เครื่องคิดเลข Pip ออนไลน์: เว็บไซต์หลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับ Forex มักจะมีเครื่องคิดเลข Pip ให้ใช้งานฟรี เพียงแค่คุณกรอกข้อมูลเกี่ยวกับ คู่สกุลเงิน ที่ต้องการเทรด ขนาด Lot และสกุลเงินในบัญชีของคุณ เครื่องมือเหล่านี้ก็จะคำนวณ มูลค่า Pip ออกมาให้ทันที
- แพลตฟอร์มการเทรด: โบรกเกอร์ชั้นนำหลายรายได้รวมเอาเครื่องคิดเลข Pip หรือเครื่องมือคำนวณมาร์จิ้น/กำไร-ขาดทุน ที่มีพื้นฐานมาจากการคำนวณ Pip เข้าไปในแพลตฟอร์มของตนเอง เช่น ในแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าของแต่ละ Pip ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์บางแห่ง เช่น xStation ของ XTB ก็มีคุณสมบัติเครื่องคิดเลข Pip ในตัว ซึ่งช่วยให้คุณวางแผน การเทรด ได้อย่างสะดวกสบายก่อนเปิดตำแหน่ง
- แอปพลิเคชันมือถือ: มีแอปพลิเคชันมากมายสำหรับสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อช่วย เทรดเดอร์ ในการคำนวณ Pip และค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การใช้เครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมาก:
- ความแม่นยำ: ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการคำนวณด้วยตนเอง
- ความรวดเร็ว: ช่วยประหยัดเวลา ทำให้คุณตัดสินใจ การเทรด ได้ทันท่วงทีใน ตลาด Forex ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
- การวางแผน: ช่วยให้คุณสามารถวางแผน การเทรด ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการกำหนด Stop Loss, Take Profit หรือการคำนวณขนาดตำแหน่งที่เหมาะสมกับ การบริหารความเสี่ยง ของคุณ
แม้ว่าการเข้าใจหลักการคำนวณด้วยตนเองจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การใช้เครื่องมืออัตโนมัติเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการ การเทรด ของคุณราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จงใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้ให้เต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการ เทรด ของคุณ
Pip vs. Pipette vs. Point vs. Tick: ความแตกต่างที่สำคัญสำหรับนักลงทุนเชิงลึก
ในขณะที่เราทำความเข้าใจ Pip ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐานของ การเคลื่อนไหวราคา ใน ตลาด Forex สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะ Pip ออกจากคำศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและมักถูกใช้สลับกันไปมา นั่นคือ Pipette, Point และ Tick การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความแม่นยำในการวิเคราะห์และสื่อสารในโลก การเทรด ที่ซับซ้อนนี้
- Pip (Percentage In Point / Price Interest Point): ดังที่เราได้อธิบายไปแล้ว Pip คือหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงราคาขั้นต่ำในตำแหน่งทศนิยมที่สี่สำหรับ คู่สกุลเงิน ส่วนใหญ่ (และตำแหน่งที่สองสำหรับ คู่สกุลเงินเยน) เป็นหน่วยที่ใช้กันทั่วไปในการอ้างอิงถึง การเคลื่อนไหวราคา และ สเปรด
- Pipette / Point: คำสองคำนี้มักจะใช้แทนกันได้ และหมายถึงหน่วยที่เล็กกว่า Pip โดยที่ 1 Pip เท่ากับ 10 Pipette หรือ 10 Point เมื่อโบรกเกอร์เสนอราคาแบบ 5 หลักทศนิยม (เช่น 1.10005) ตัวเลขในตำแหน่งที่ 5 คือ Pipette หรือ Point การแสดงราคาในรูปแบบนี้ช่วยให้มีความแม่นยำมากขึ้นและทำให้สามารถจับ การเคลื่อนไหวราคา ที่ละเอียดอ่อนมากๆ ได้
- Tick: Tick คือการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ที่สามารถเกิดขึ้นได้ใน ตลาด หรือ ตราสาร ใดๆ Tick ไม่จำเป็นต้องมีค่าคงที่เหมือน Pip 1 Tick อาจมีค่าเท่ากับ 1 Pip หรือ 1 Pipette หรือมากกว่านั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับ ตราสารการเทรด และวิธีการแสดงราคาของโบรกเกอร์ โดยทั่วไป Tick เป็นคำที่ใช้ในการอ้างถึง การเคลื่อนไหวราคา แบบเรียลไทม์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในสมุดคำสั่งซื้อขาย ไม่ได้เป็นหน่วยวัดมาตรฐานสำหรับมูลค่าเช่น Pip
ความสับสนมักเกิดขึ้นเพราะบางแพลตฟอร์มอาจใช้คำว่า “Point” ในความหมายที่แตกต่างกัน บางครั้งอาจหมายถึง Pip หรือ Pipette ดังนั้นคุณควรตรวจสอบคำนิยามเฉพาะของแพลตฟอร์มที่คุณใช้เสมอ แต่โดยหลักการแล้ว Pip คือหน่วยมาตรฐานที่ เทรดเดอร์ Forex ใช้ในการอ้างอิงถึง การเคลื่อนไหวราคา และ กำไร/ขาดทุน ที่สำคัญที่สุด
การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารกับ เทรดเดอร์ คนอื่นๆ และโบรกเกอร์ได้อย่างถูกต้อง และช่วยให้คุณตีความข้อมูล การเคลื่อนไหวราคา ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการลงลึกในรายละเอียดและเป็น เทรดเดอร์ ที่มีความรู้รอบด้าน
ความสำคัญของ Lot ในการคำนวณ Pip: ขยายผลกำไรและบริหารความเสี่ยง
เราได้กล่าวถึง Lot มาแล้วในการคำนวณ มูลค่า Pip แต่เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบอย่างถ่องแท้ เรามาเจาะลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Lot และ Pip กันอีกครั้ง “Lot” คือปริมาณมาตรฐานของ สกุลเงินหลัก (Base Currency) ที่คุณกำลังซื้อขายใน ตลาด Forex หรือก็คือขนาดของตำแหน่งที่คุณเปิด Lot มีผลกระทบโดยตรงต่อ มูลค่า Pip ของคุณ และส่งผลต่อ กำไร หรือ ขาดทุน ในแต่ละ Pip ที่ราคาเคลื่อนไหว
โดยทั่วไป Lot แบ่งออกเป็นหลายขนาด:
ขนาด Lot | หน่วยที่เท่ากัน | มูลค่า Pip ต่อ Pip |
---|---|---|
Standard Lot (1 Lot) | 100,000 หน่วย | ประมาณ 10 USD |
Mini Lot (0.1 Lot) | 10,000 หน่วย | ประมาณ 1 USD |
Micro Lot (0.01 Lot) | 1,000 หน่วย | ประมาณ 0.10 USD |
Nano Lot (0.001 Lot) | 100 หน่วย | ประมาณ 0.01 USD |
จากตัวอย่างจะเห็นได้ชัดเจนว่า ยิ่งคุณเปิดตำแหน่งด้วย Lot ที่ใหญ่ขึ้นเท่าใด มูลค่า Pip ของแต่ละ การเคลื่อนไหวราคา ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น นี่หมายถึงโอกาสในการทำ กำไร ที่สูงขึ้น แต่ก็หมายถึงความเสี่ยงในการขาดทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน หาก การเคลื่อนไหวราคา เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการ บริหารความเสี่ยง ใน ตลาด Forex คุณควรปรับขนาด Lot ของคุณให้เหมาะสมกับขนาดเงินทุนและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ ไม่ใช่เพียงแค่เปิด Lot ใหญ่ๆ โดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่ตามมา
การฝึกฝนการคำนวณ มูลค่า Pip ร่วมกับการเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถควบคุม ความเสี่ยง ได้อย่างแม่นยำ และเป็นพื้นฐานสำคัญของการ เทรด ที่ยั่งยืนในระยะยาว หากคุณกำลังพิจารณาแพลตฟอร์มที่ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกขนาด Lot ที่หลากหลาย รวมถึงการเข้าถึง คู่สกุลเงิน และ ตราสารการเทรด อื่นๆ กว่า 1,000 รายการ Moneta Markets เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่ควรค่าแก่การพิจารณา พวกเขาเสนอทางเลือกที่กว้างขวางสำหรับทั้ง เทรดเดอร์ มือใหม่และมืออาชีพ
กลยุทธ์การเทรดแบบ Pip Hunting (Scalping): การแสวงหา Pip เล็กๆ เพื่อผลกำไร
เมื่อคุณเข้าใจ Pip และ มูลค่า Pip อย่างถ่องแท้แล้ว คุณจะสามารถเข้าใจกลยุทธ์ การเทรด ที่เรียกว่า “Pip Hunting” หรือ “Scalping” ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น กลยุทธ์นี้เป็นการ เทรด ระยะสั้นมากๆ โดยมีเป้าหมายในการทำ กำไร จาก การเคลื่อนไหวราคา เพียงไม่กี่ Pip ในแต่ละครั้ง และปิดตำแหน่งอย่างรวดเร็ว โดยอาจจะมีการเปิดและปิดตำแหน่งหลายสิบหรือหลายร้อยครั้งในหนึ่งวัน เทรดเดอร์ ที่ใช้กลยุทธ์นี้มักจะใช้กราฟในช่วงเวลาที่สั้นมาก เช่น 1 นาที หรือ 5 นาที
แนวคิดหลักของ Pip Hunting คือการสะสม กำไร เล็กๆ น้อยๆ จาก การเคลื่อนไหวราคา ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาใน ตลาด Forex โดยอาศัยปริมาณ Lot ที่ค่อนข้างใหญ่ เพื่อให้แต่ละ Pip ที่ได้มามีมูลค่าพอที่จะคุ้มค่ากับความพยายาม ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิด Standard Lot และทำ กำไร ได้เพียง 5 Pip นั่นหมายถึง 50 USD แต่หากคุณทำได้ 10 ครั้งต่อวัน นั่นคือ 500 USD
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การเทรด แบบนี้มีความท้าทายสูงและไม่เหมาะสำหรับทุกคน:
- ความผันผวนของสเปรด: สเปรด (ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและเสนอขาย ซึ่งวัดเป็น Pip) มีผลกระทบอย่างมากต่อ กลยุทธ์ Scalping เนื่องจากคุณพยายามทำ กำไร เพียงไม่กี่ Pip ถ้า สเปรด กว้างเกินไป อาจทำให้ การเทรด นั้นไม่คุ้มค่าหรือยากที่จะทำ กำไร
- ความเร็วในการดำเนินการ: เทรดเดอร์ ต้องมีความสามารถในการตัดสินใจและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าและออกจาก ตลาด ได้ทันท่วงที
- ค่าคอมมิชชั่น: แม้ กำไร ต่อครั้งจะน้อย แต่หากมีการเปิด การเทรด จำนวนมาก ค่าคอมมิชชั่นสะสมก็อาจส่งผลกระทบต่อ กำไร โดยรวมได้
- วินัย: Scalper ต้องมีวินัยสูงในการ บริหารความเสี่ยง และตั้ง Stop Loss ที่แคบมากๆ เพื่อป้องกันการขาดทุนครั้งใหญ่จากการ เคลื่อนไหวราคา เพียงไม่กี่ Pip ที่ผิดทาง
การเทรด แบบ Pip Hunting เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำคัญของการเข้าใจ Pip อย่างถ่องแท้ มันแสดงให้เห็นว่าแม้แต่ การเคลื่อนไหวราคา ที่เล็กที่สุดก็สามารถสร้าง กำไร ได้หาก เทรดเดอร์ มีความรู้ กลยุทธ์ที่แม่นยำ และ การบริหารความเสี่ยง ที่เข้มงวด
ข้อควรระวังในการเทรด Forex ที่เกี่ยวกับ Pip
แม้ว่าการเข้าใจ Pip จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับ การเทรด Forex แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ เทรดเดอร์ ควรตระหนัก เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การขาดทุนได้:
- สภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง: ในช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญประกาศ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ตลาด Forex อาจมี การเคลื่อนไหวราคา ที่รุนแรงและรวดเร็วมาก Pip อาจกระโดดข้ามหลายจุดในพริบตา ทำให้คุณอาจไม่สามารถเข้าหรือออกจากตำแหน่งได้ในราคาที่คาดไว้ (ที่เรียกว่า Slippage) สิ่งนี้อาจส่งผลให้ Stop Loss ของคุณทำงานที่ราคาที่แย่กว่าที่กำหนดไว้ หรือ Take Profit ไม่สามารถทำงานได้ตามแผน ทำให้เกิดการขาดทุนเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
- สเปรดที่เปลี่ยนแปลง: สเปรด (Bid-Ask Spread) คือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย ซึ่งโบรกเกอร์คิดเป็นค่าธรรมเนียมในการ เทรด สเปรด มักถูกวัดเป็น Pip หาก สเปรด กว้างขึ้น (เช่น ในช่วงที่สภาพคล่องต่ำ หรือมีข่าวใหญ่) มันจะลดทอน กำไร ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ การเทรด ระยะสั้นที่คาดหวัง กำไร เพียงไม่กี่ Pip การเข้า การเทรด จะเริ่มติดลบจาก สเปรด ทันทีที่คุณเปิดตำแหน่ง ดังนั้น การคำนวณ Pip ที่คุณต้องการให้เป็น กำไร ควรคำนึงถึง สเปรด ที่ต้องจ่ายด้วย
- ค่า Swap / Rollover: หากคุณเปิดตำแหน่งข้ามคืน โบรกเกอร์จะคิดค่า Swap (ค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยข้ามคืน) ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบวกหรือลบ ค่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Pip แต่เป็นการลดทอน กำไร หรือเพิ่ม ขาดทุน โดยรวมของคุณ หากคุณถือตำแหน่งนานๆ ซึ่งอาจทำให้ กำไร ที่ได้จาก การเคลื่อนไหวราคา เพียงไม่กี่ Pip ไม่คุ้มค่า
- การละเลยการบริหารความเสี่ยง: การเข้าใจ มูลค่า Pip ช่วยให้คุณสามารถ บริหารความเสี่ยง ได้อย่างแม่นยำ แต่หากคุณละเลยที่จะนำความรู้นี้ไปใช้ในการกำหนดขนาด Lot และ Stop Loss คุณก็ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดใน ตลาด Forex ได้
ตลาด Forex มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะการเทรด CFD ซึ่งใช้ Leverage คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้นทั้งหมดได้ การเรียนรู้และระมัดระวังปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณเป็น เทรดเดอร์ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
สรุปและคำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่: ก้าวแรกสู่การเป็นนักลงทุนมืออาชีพ
ตลอดบทความนี้ เราได้เดินทางผ่านโลกของ “Pip” ซึ่งเป็นหน่วยวัดพื้นฐานแต่ทรงพลังที่สุดใน ตลาด Forex เราได้เรียนรู้ว่า Pip คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อ การเคลื่อนไหวราคา และการคำนวณ กำไร และ ขาดทุน ของเราได้อย่างไร นอกจากนี้ เรายังได้เจาะลึกถึงการคำนวณ มูลค่า Pip การใช้ Pip ในการ บริหารความเสี่ยง และการทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Pip, Pipette, Point และ Tick รวมถึงผลกระทบของ Lot ที่มีต่อ มูลค่า Pip ด้วย
สำหรับ เทรดเดอร์ มือใหม่ การทำความเข้าใจ Pip ไม่ใช่เพียงแค่การรู้จักคำศัพท์เท่านั้น แต่มันคือรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถ:
- อ่านและตีความการเคลื่อนไหวราคาได้อย่างถูกต้อง: คุณจะรู้ว่าเมื่อราคาเคลื่อนไหว 10 Pip มันหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่มากน้อยแค่ไหน
- วางแผนการเทรดได้อย่างแม่นยำ: คุณสามารถกำหนดจุดเข้า จุดออก จุดทำกำไร และจุดตัดขาดทุน ได้อย่างเป็นระบบ
- บริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ: คุณจะสามารถคำนวณขนาด Lot ที่เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ เพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ
- ประเมินผลกำไรและขาดทุนได้อย่างเป็นรูปธรรม: คุณจะเข้าใจว่าแต่ละ การเทรด มีศักยภาพในการสร้าง กำไร หรือ ขาดทุน ได้เท่าไร
เราเชื่อว่าความรู้ที่เราได้แบ่งปันไปในวันนี้ จะเป็นเครื่องมืออันล้ำค่าที่ช่วยให้คุณก้าวเดินใน ตลาด Forex ได้อย่างมั่นใจและมีข้อมูลมากขึ้น อย่าเพิ่งท้อถอยหากเนื้อหาบางส่วนอาจดูซับซ้อนในตอนแรก เพราะ การเทรด นั้นคือการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นที่จะนำไปสู่ความเชี่ยวชาญ
เราขอแนะนำให้คุณ:
- ฝึกฝนการคำนวณ Pip: ลองใช้ตัวอย่าง คู่สกุลเงิน ต่างๆ และขนาด Lot ที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณคุ้นเคยกับการคำนวณด้วยตนเอง
- ใช้เครื่องมือช่วยคำนวณ: ใช้เครื่องคิดเลข Pip ที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มหรือบนเว็บไซต์ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการคำนวณของคุณ
- เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account): ก่อนที่จะใช้เงินจริง ลองฝึกฝน การเทรด ในสภาพแวดล้อมที่ไร้ความเสี่ยง เพื่อสร้างความเข้าใจและความมั่นใจในการใช้ Pip และ บริหารความเสี่ยง
- เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ: การมีโบรกเกอร์ที่มั่นคงและมีเครื่องมือสนับสนุนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็น เทรดเดอร์ มือใหม่ที่ต้องการความรู้และเครื่องมือที่ใช้งานง่าย หรือ เทรดเดอร์ มืออาชีพที่มองหาประสิทธิภาพในการ เทรด และความหลากหลายของ ตราสารการเทรด Moneta Markets ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าพิจารณาอย่างยิ่ง พวกเขาไม่เพียงแต่มีเครื่องมือช่วยในการ บริหารความเสี่ยง ที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังได้รับ การกำกับดูแล จากหน่วยงานชั้นนำหลายประเทศ เช่น FSCA, ASIC, และ FSA ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของเงินทุนคุณ พวกเขามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณ เทรด ได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จ
จำไว้เสมอว่า การลงทุน มี ความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ลงทุน การเข้าใจ Pip เป็นเพียงก้าวแรกในเส้นทาง การเทรด ที่ยาวไกล ขอให้คุณสนุกกับการเรียนรู้และ การเทรด และขอให้คุณประสบความสำเร็จใน ตลาด Forex ครับ/ค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับpips แปลว่า
Q:หมายถึงอะไรเมื่อพูดถึง Pip ในการเทรด?
A:Pip คือหน่วยวัดการเคลื่อนไหวราคาขั้นต่ำในตลาด Forex ที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสกุลเงิน
Q:Pip สามารถช่วยในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างไร?
A:Pip ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเทรดโดยการคำนวณขนาดตำแหน่งและจุด Stop Loss
Q:ทำไมการเข้าใจ Pip ถึงมีความสำคัญ?
A:การเข้าใจ Pip ช่วยให้เทรดเดอร์ตีความและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างถูกต้อง เพิ่มโอกาสในการได้รับผลกำไร