“`html
สเปรด (Spread) คืออะไร?
สวัสดีครับ! ในฐานะนักลงทุนมือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่ต้องการทำความเข้าใจการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น คุณเคยสงสัยไหมว่า “สเปรด” ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ในวงการเทรดคืออะไรกันแน่? วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องนี้กันครับ
สเปรด (Spread) คือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บในการเทรด ซึ่งคำนวณจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) นั่นเองครับ เปรียบเสมือนค่าบริการที่เราจ่ายให้ร้านค้าเวลาเราแลกเงินตราต่างประเทศที่บูธแลกเงิน – จะมีราคาสำหรับ “ซื้อ” สกุลเงินนั้น และอีกราคาสำหรับ “ขาย” สกุลเงินนั้นกลับคืน ความแตกต่างนี้แหละครับคือสเปรด
ดังนั้น สเปรดจึงเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อต้นทุนและกำไรในการเทรดของเราโดยตรง หากสเปรดต่ำ ก็จะช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้นครับ
- สเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย
- สเปรดเป็นค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
- สเปรดส่งผลต่อต้นทุนและกำไรในการเทรด
สเปรดในตลาด Forex คืออะไร?
ในตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สเปรด (Spread) คือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากส่วนต่างระหว่างราคา Bid (ราคาเสนอซื้อ) และ Ask (ราคาเสนอขาย) เมื่อเราเปิดออเดอร์ (Order) หรือคำสั่งซื้อขาย
ลองนึกภาพว่าคุณต้องการซื้อเงินยูโร (EUR) โดยใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ราคา Ask คือราคาที่คุณต้องจ่ายเพื่อซื้อ EUR ในขณะที่ราคา Bid คือราคาที่คุณจะได้รับหากคุณขาย EUR กลับเป็น USD ส่วนต่างระหว่างสองราคานี้คือสเปรด ซึ่งเป็นรายได้ของโบรกเกอร์
ข่าวสารล่าสุด: สเปรดคือค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่แสดงถึงช่องว่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย ตัวอย่างเช่น คู่ EURUSD มีราคา bid อยู่ที่ 1.10558 และราคา Ask อยู่ที่ 1.10554 ทำให้สเปรด bid/ask คือ 0.00004 หรือ 0.4 PIP
เหตุใดค่าสเปรดจึงมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์?
คุณอาจสงสัยว่าทำไมสเปรดถึงมีความสำคัญต่อเราที่เป็นเทรดเดอร์? คำตอบคือ สเปรดส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนในการเทรด ทุกครั้งที่เราเปิดสถานะ (Position) หรือคำสั่งซื้อขาย เราจะเริ่มต้นจากการ “ติดลบ” เท่ากับค่าสเปรดเสมอ
ยิ่งสเปรดมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ เราก็ยิ่งต้องทำกำไรให้มากขึ้นเพื่อที่จะ “ชดเชย” ค่าสเปรดก่อนที่จะเริ่มเห็นผลกำไรที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Day Trader หรือ Scalper ที่ทำการซื้อขายหลายครั้งต่อวัน ค่าสเปรดที่ดูเหมือนเล็กน้อย ก็สามารถสะสมเป็นต้นทุนที่สูงได้
ตัวอย่าง: หากคุณเป็น Day Trader ที่เทรดคู่ EUR/USD 20 ครั้งต่อวัน และสเปรดคือ 1 Pip (Point in Percentage) ต้นทุนในแง่ของสเปรดของคุณจะเป็น $200 ต่อวัน หรือ $4,000 ต่อเดือนเลยทีเดียว!
ข่าวสารล่าสุด: หากสเปรดคือ 1 จุด และเดย์เทรดเดอร์ซื้อขาย 1 ล็อตมาตรฐานใน EUR/USD 20 ครั้งต่อวัน ต้นทุนในแง่ของสเปรดจะเป็น $200 ต่อวัน หรือ $4,000 ต่อเดือน นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบเทรดเดอร์ 2 ราย: เทรดเดอร์ A ใช้โบรกเกอร์ที่มีสเปรด 0.5 จุด สำหรับ EUR/USD, เทรดเดอร์ B ใช้โบรกเกอร์ที่มีสเปรด 2 จุด สำหรับคู่เดียวกัน เทรดเดอร์ B จะมีต้นทุนสูงกว่าอย่างมาก
ดังนั้น การทำความเข้าใจและจัดการค่าสเปรดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Forex เพื่อให้คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้ครับ
การคำนวณค่าสเปรด
การคำนวณสเปรดเป็นเรื่องง่ายมากครับ เพียงแค่เรานำราคา Ask (ราคาเสนอขาย) ลบด้วยราคา Bid (ราคาเสนอซื้อ) ส่วนต่างที่ได้นี้มักจะแสดงในหน่วย Pip (Percentage in Point) ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดในการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด Forex
สูตรการคำนวณสเปรด: สเปรด = ราคา Ask – ราคา Bid
ตัวอย่าง: หากคู่ EUR/USD มีราคา Bid ที่ 1.10558 และราคา Ask ที่ 1.10554 สเปรดคือ 0.00004 หรือ 0.4 Pip
ประเภทของสเปรด
โดยทั่วไปแล้ว สเปรดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ สเปรดคงที่ (Fixed Spread) และ สเปรดแปรผัน (Variable Spread) หรือ สเปรดลอยตัว (Floating Spread)
สเปรดคงที่ (Fixed Spread)
สเปรดคงที่ (Fixed Spread) คือค่าสเปรดที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด ไม่ว่าตลาดจะผันผวนแค่ไหน สเปรดก็จะยังคงที่อยู่เสมอ ข้อดีของสเปรดคงที่คือ ทำให้เราสามารถคำนวณต้นทุนในการเทรดได้อย่างแม่นยำ และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการความแน่นอน
สเปรดแปรผัน (Variable Spread)
สเปรดแปรผัน (Variable Spread) หรือ สเปรดลอยตัว (Floating Spread) คือค่าสเปรดที่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด สเปรดอาจแคบลงในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง และกว้างขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ข้อดีของสเปรดแปรผันคือ มักจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าในระยะยาว แต่ก็อาจทำให้เราไม่สามารถคาดการณ์ต้นทุนในการเทรดได้อย่างแม่นยำ
สเปรดคงที่กับสเปรดแปรผัน: โดยทั่วไปแล้ว สเปรดแปรผันมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและมักจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าในระยะยาว แต่สำหรับผู้เริ่มต้น สเปรดคงที่อาจเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากช่วยให้สามารถคำนวณต้นทุนในการเทรดได้อย่างแม่นยำ
ตารางเปรียบเทียบสเปรดคงที่และสเปรดแปรผัน:
คุณสมบัติ | สเปรดคงที่ | สเปรดแปรผัน |
---|---|---|
ความผันผวน | คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง | เปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด |
ความแม่นยำในการคำนวณต้นทุน | สูง | ต่ำ |
เหมาะสำหรับ | ผู้เริ่มต้น, ผู้ที่ต้องการความแน่นอน | ผู้มีประสบการณ์ |
5 วิธีในการลดการสูญเสียค่าสเปรดใน Forex
การจัดการค่าสเปรดเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด Forex เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน ต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อลดการสูญเสียจากค่าสเปรด:
- เทรดในช่วงเวลาเร่งด่วน: เลือกเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง เช่น ในช่วงที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน เนื่องจากในช่วงเวลาเหล่านี้ สเปรดมักจะแคบลง
- พิจารณาค่าสเปรดในการตั้งเป้าหมายกำไร: เมื่อคุณตั้งเป้าหมายกำไรในการเทรด อย่าลืมพิจารณาค่าสเปรดด้วย หากคุณต้องการทำกำไร 10 Pips ในคู่สกุลเงินที่มีสเปรด 2 Pips ตลาดจะต้องเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คุณต้องการถึง 12 Pips เพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายกำไร
- หลีกเลี่ยงการเทรดก่อนและหลังการประกาศข่าวสำคัญ: ในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญ สเปรดมักจะกว้างขึ้นอย่างมาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาเหล่านี้
- ใช้คำสั่ง Limit Order: การใช้คำสั่ง Limit Order ช่วยให้คุณสามารถกำหนดราคาที่คุณต้องการเข้าสู่ตลาดได้ หากสเปรดกว้างเกินไป คำสั่งของคุณจะไม่ถูกดำเนินการ
- เลือกคู่สกุลเงินที่มีสเปรดต่ำ: คู่สกุลเงินบางคู่ เช่น EUR/USD มักจะมีสเปรดที่แคบกว่าคู่สกุลเงินอื่นๆ ดังนั้นการเลือกเทรดคู่สกุลเงินเหล่านี้จะช่วยลดค่าสเปรดได้
ข่าวสารล่าสุด: ตัวอย่างการซื้อขายในช่วงเวลาเร่งด่วน: EUR/USD อาจมีค่าสเปรด 0.8 จุด ในช่วงทับซ้อนกันของเซสชันลอนดอนและนิวยอร์ก เทียบกับ 1.5 จุด ในช่วงเซสชันเอเชีย ตัวอย่างการคำนวณเป้าหมายกำไร: หากคุณตั้งเป้าที่จะทำกำไร 10 จุด ในคู่ที่มีสเปรด 2 จุด ตลาดจะต้องขยับ 12 จุด ตามที่คุณต้องการเพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายกำไร ตัวอย่างการใช้คำสั่งจำกัด: หากคุณกำหนดขีดจำกัดคำสั่งซื้อเพื่อซื้อ EUR/JPY ที่ 130.50 คำสั่งซื้อจะถูกดำเนินการก็ต่อเมื่อราคาเสนอซื้อไปถึงระดับนั้น
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ Moneta Markets อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่หลากหลายและค่าสเปรดที่แข่งขันได้ คุณจะสามารถควบคุมการเทรดของคุณได้ดียิ่งขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อสเปรด
สเปรดไม่ได้เป็นค่าคงที่เสมอไป แต่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในตลาด Forex การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์และจัดการค่าสเปรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- สภาพคล่อง (Liquidity): สภาพคล่องสูงมักนำไปสู่สเปรดที่แคบ ในขณะที่สภาพคล่องต่ำอาจทำให้สเปรดกว้างขึ้น
- ความผันผวน (Volatility): ความผันผวนที่สูงขึ้นมักทำให้สเปรดกว้างขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
- เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ (Economic Events): เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจและการประกาศข่าวอาจทำให้สเปรดกว้างขึ้นชั่วคราว
- เวลาทำการของตลาด: สเปรดมักจะแคบที่สุดในช่วงที่ตลาดมีการซื้อขายหนาแน่น เช่น ในช่วงที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน
- ประเภทของคู่สกุลเงิน: คู่สกุลเงินหลัก (Major Currency Pairs) เช่น EUR/USD มักจะมีสเปรดที่แคบกว่าคู่สกุลเงินรอง (Minor Currency Pairs) หรือคู่สกุลเงิน Exotic
ข่าวสารล่าสุด: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสเปรด ได้แก่: สภาพคล่องของตลาด, ความผันผวน, ปริมาณการซื้อขาย, เวลาของวัน, และข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์ต่างๆ
ตารางสรุปปัจจัยที่มีผลต่อสเปรด:
ปัจจัย | ผลกระทบต่อสเปรด |
---|---|
สภาพคล่อง | สภาพคล่องสูง: สเปรดแคบ, สภาพคล่องต่ำ: สเปรดกว้าง |
ความผันผวน | ความผันผวนสูง: สเปรดกว้าง |
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ | สเปรดกว้างขึ้นชั่วคราว |
เวลาทำการของตลาด | ช่วงตลาดหนาแน่น: สเปรดแคบ |
ประเภทของคู่สกุลเงิน | คู่สกุลเงินหลัก: สเปรดแคบ, คู่สกุลเงินรอง/Exotic: สเปรดกว้าง |
สเปรดใน 3 คู่ฟอเร็กซ์ที่แตกต่างกัน
ค่าสเปรดมีความแตกต่างกันอย่างมากในคู่สกุลเงินประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพคล่อง ปริมาณการซื้อขาย และความผันผวน มาดูกันว่าสเปรดใน 3 คู่สกุลเงินหลักมีความแตกต่างกันอย่างไร:
- คู่สกุลเงินหลัก (Major Currency Pairs): คู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD และ USD/JPY มักจะมีสเปรดที่แคบที่สุด เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและปริมาณการซื้อขายมาก สเปรดในคู่สกุลเงินเหล่านี้อาจต่ำถึง 0.5 – 1.5 Pips ในช่วงเวลาที่ตลาดมีการซื้อขายหนาแน่น
- คู่สกุลเงินรอง (Minor Currency Pairs): คู่สกุลเงินรอง เช่น EUR/GBP, EUR/AUD และ GBP/JPY มีสเปรดที่กว้างกว่าคู่สกุลเงินหลักเล็กน้อย เนื่องจากมีสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายน้อยกว่า สเปรดในคู่สกุลเงินเหล่านี้อาจอยู่ที่ 1.5 – 3.0 Pips
- คู่สกุลเงิน Exotic: คู่สกุลเงิน Exotic เช่น USD/TRY, EUR/ZAR และ USD/MXN มีแนวโน้มที่จะมีสเปรดที่กว้างที่สุด เนื่องจากมีสภาพคล่องต่ำและความผันผวนสูง สเปรดในคู่สกุลเงินเหล่านี้อาจสูงถึง 10 – 25 Pips หรือมากกว่านั้น
ข่าวสารล่าสุด: ช่วงสเปรดสำหรับคู่สกุลเงิน: คู่หลัก (0.5-1.5 จุด), คู่รอง (1.5-3.0 จุด), คู่ทางเลือก (10-25 จุด) ตัวอย่างสเปรดในวันซื้อขายปกติ: EUR/USD (0.9 จุด), EUR/AUD (2.3 จุด), USD/TRY (15 จุด)
เมื่อคุณเลือกคู่สกุลเงินที่จะเทรด ควรพิจารณาค่าสเปรดควบคู่ไปกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความผันผวนและโอกาสในการทำกำไร การเลือกคู่สกุลเงินที่มีสเปรดต่ำจะช่วยลดต้นทุนในการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณได้
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลสเปรดที่โปร่งใสและแม่นยำ Moneta Markets มีเครื่องมือและข้อมูลที่ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบสเปรดในคู่สกุลเงินต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ
ตารางแสดงตัวอย่างสเปรดในคู่สกุลเงินต่างๆ:
คู่สกุลเงิน | ช่วงสเปรดโดยประมาณ (Pips) |
---|---|
EUR/USD | 0.5 – 1.5 |
EUR/GBP | 1.5 – 3.0 |
USD/TRY | 10 – 25 |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสเปรด
เพื่อให้คุณเข้าใจเรื่องสเปรดมากยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการซื้อขายโดยพิจารณาจากสเปรดในตลาด Forex:
- สเปรดมีผลต่อกลยุทธ์การเทรดอย่างไร? สเปรดมีผลต่อกลยุทธ์การเทรดโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์ที่เน้นการทำกำไรระยะสั้น เช่น Scalping และ Day Trading ซึ่งค่าสเปรดที่ต่ำเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
- ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำเสมอไปหรือไม่? ไม่จำเป็นเสมอไป การเลือกโบรกเกอร์ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ความน่าเชื่อถือ, ค่าคอมมิชชั่น, และเครื่องมือที่ให้บริการ
- สเปรดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาหรือไม่? ใช่ สเปรดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปรด อย่าลังเลที่จะสอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการทำความเข้าใจเรื่องสเปรดและการนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรด Forex นะครับ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุน!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสเปรด คือ
Q:สเปรดคืออะไรในการเทรด Forex?
A:สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) ของคู่สกุลเงิน เป็นค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
Q:ทำไมสเปรดถึงสำคัญ?
A:สเปรดส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนในการเทรดของคุณ สเปรดที่ต่ำกว่าหมายถึงต้นทุนที่ต่ำกว่าและโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น
Q:มีวิธีลดผลกระทบของสเปรดหรือไม่?
A:ใช่ คุณสามารถลดผลกระทบของสเปรดได้โดยการเทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง, เลือกคู่สกุลเงินที่มีสเปรดต่ำ และใช้คำสั่ง Limit Order
“`